เอชพี เผยไตรมาส 4 รายได้กดกำไรร่วง 91% เหตุคอนซูเมอร์-ภาคธุรกิจชะลอการใช้จ่าย

หนังสือพิมพ์วอลสตรีท รายงานว่า บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2554 ซึ่งจบลงที่เดือน ต.ค.ว่า มีกำไรสุทธิลดลง 91% หรือ 239 ล้านดอลลาร์ จาก 2.5 พันล้านดอลลาร์ รายได้ลดลง 3% จาก 3.33 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 3.21 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่ใช้สำหรับการปิดตัว ธุรกิจซอฟต์แวร์สำหรับมือถือ รวมทั้งรายได้ที่ตกต่ำในธุรกิจการพิมพ์ พีซี และเซิร์ฟเวอร์ จากภาวะที่ตลาดคอนซูเมอร์และภาคธุรกิจชะลอการใช้จ่ายของตัวเองลง

นางสาวเมก วิทแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอชพี กล่าวว่า ผลประกอบการของเอชพีปีนี้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ขอยืนยันว่าจะพยายามทำให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติให้ได้

ขณะที่ นางสาวเคธี เลสแจ็ค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเอชพี กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวมีผลมาจากปัจจัยด้านลบของการใช้จ่ายเงินลงทุนที่ระมัดระวัง ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัท ทั้งยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทยที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์ขาด แคลนกระทั่งส่งผลกระทบกับกระบวนการผลิตและอาจทำให้ราคาพีซีปรับตัวขึ้น

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เอเซอร์ อิงค์ ผู้ผลิตพีซีอันดับ 4 ของโลกจากไต้หวันคู่แข่งรายสำคัญของเอชพี ประกาศแผนเพิ่มความเข้มข้นทำตลาดจีนร่วมกับคู่ค้า และสร้างแบรนด์ในจีนเพื่อขยายตลาด โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดขายให้ได้ 20-25% ขณะที่ ยอดขายในจีนปีนี้จะโตราว 60% ซึ่งเอเซอร์ใช้เงินลงทุนไปกว่า 100 ล้านดอลลาร์สำหรับทำตลาดและพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย