วิกฤติน้ำท่วมไทยกระทบลามถึงผู้ผลิตชิพสำหรับฮาร์ดดิสก์รายใหญ่จากสหรัฐฯ ล่าสุดยังจับตาน้ำท่วมทำรายได้สูญกว่า 100 ล้านดอลลาร์

วิกฤติน้ำท่วมไทยกระทบลามถึงผู้ผลิตชิพสำหรับฮาร์ดดิสก์รายใหญ่จากสหรัฐฯ ล่าสุดยังจับตาน้ำท่วมทำรายได้สูญกว่า 100 ล้านดอลลาร์ คาดสถานการณ์เริ่มฟื้นตัวไตรมาสแรกปี 2555 ก่อนเริ่มกลับเข้าที่ช่วงครึ่งหลังของปี หวังยอดขายชิพสำหรับมือถือในตลาดจีนช่วยชดเชยรายได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทมาร์เวลล์ เทคโนโลยี กรุ๊ป ผู้ผลิตชิพสำหรับฮาร์ดดิสก์จากสหรัฐฯ จับตาการคาดการณ์รายได้ของบริษัท หลังวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในไทยมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อความต้องการระบบควบคุมฮาร์ดดิสก์ อย่างไรก็ตามข่าวการขยายตลาดชิพสำหรับมือถือในจีนกลับเริ่มส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัท

ด้านวอลล์ สตรีทยังคงประเมินผลกระทบความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมที่ ทำให้กระบวนการผลิตฮาร์ดดิสก์ในไทยที่เป็นฐานใหญ่ถึง 1 ใน 4 ของโลกจากหลายโรงงานยังคงหยุดชะงัก รวมถึงผู้ผลิตพีซี เช่น เดลล์ ที่เริ่มส่งสัญญาณเตือนแล้วว่าภาวะขาดแคลนฮาร์ดดิสก์อาจจะทำให้กระบวนการ ผลิตพีซีล่าช้าตามไปด้วย

มาร์เวลล์คาด การณ์ว่า แนวโน้มฮาร์ดดิสก์ที่จะหายไปจากตลาดราว 10% จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และคาดว่าการผลิตจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ครึ่งหนึ่งในช่วงไตรมาสเดือนเม.ย. จนถึงครึ่งหลังของปี 2555 ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันคือ โรงงานบางส่วนเริ่มฟื้นฟู และทำความสะอาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้บ้างช่วงเดือน ธ.ค.นี้

นอกจากนี้มาร์เวลล์ยังเชื่อว่า รายได้ในไตรมาสปัจจุบันจะลดลงเหลือราว 775-825 ล้านดอลลาร์ จากผลกระทบน้ำท่วมในไทย ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทจะมีรายได้ในไตรมาสดังกล่าว 812 ล้านดอลลาร์

"เราเชื่อว่าผลกระทบจากน้ำท่วมในไทยจะมีผลให้รายได้ไตรมาส 4 ของเราลดลงราว 120-130 ล้านดอลลาร์" นายไคลด์ โฮเซน หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของมาร์เวลล์กล่าว

พร้อมกันนี้บริษัทยังเผยว่า ยอดขายชิพ (ทีดี ชิพ) สำหรับตลาดมือถือขนาดใหญ่ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมือถือที่ใช้ชิพดังกล่าวราว 30 รุ่นที่กำลังได้รับความนิยม

นายสีหัต สุทาร์ดจา หัวหน้าคณะผู้บริหาร (ซีอีโอ) ของมาร์เวลล์ กล่าวว่า แม้ตลาดสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิพทีดีจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็คาดว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำ และทำรายได้เพิ่มขึ้นในปีหน้า ส่วนไตรมาส 3 มาร์เวลล์มีรายได้รวม 950 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้ 937 ล้านดอลลาร์

นาย เควิน แคสสิดี นักวิเคราะห์จากสติเฟล นิโคลัส กล่าวว่า ฮาร์ดดิสก์น่าจะสามารถฟื้นตัวได้ราว 50% ภายในเดือนเม.ย.ปีหน้า และสถานการณ์ก็น่าจะดีกว่าคาดการณ์ไว้