วิกฤติน้ำพ่นพิษต่อเนื่องกระทบลามเป็นลูกโซ่ ล่าสุด "คอมมาร์ต" เลื่อนจัด แต่ยังหวัง "เอสเอสดี" แจ้งเกิด ทดแทนฮาร์ดดิสก์ขาดแคลน

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดพีซีไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบจากวิกฤติน้ำท่วมแน่นอน แต่ยังต้องจับตาดูตาว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อเพียงใด ซึ่งหากมากกว่า 1 เดือน เลอโนโวจะต้องปรับแผนใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องสั่งล็อตใหม่เดือนหน้า และอาจมีปัญหาฮาร์ดดิสก์ขาดแคลน

อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องรอดูแนวโน้มความต้องการตลาดด้วย เพราะชิ้นส่วนบางอย่างที่น่าจะปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ ซึ่งปกติเป็นต้นทุนราว 10-20% ของราคาเครื่อง แต่หากวางแผนดีอาจไม่จำเป็นต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตาม

นายนิธิพัฒน์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการด้านการตลาดอาวุโส บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ส่วนของซัพพลายเชน ผู้ผลิตเอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดดิสก์ น่าจะยังมีสต็อกสินค้าไว้ได้อีก 1-2 เดือน เบื้องต้นจึงไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบ โดยเป็นไปได้ว่าซัพพลายที่มีจะป้อนไปที่ตลาดโน้ตบุ๊คก่อน ส่วนเอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดดิสก์อาจราคาสูงขึ้น

ส่วนเอเซอร์ ช่วง 1-2 เดือน ยังสามารถจัดการสต็อกสินค้าได้ แต่ระยะยาวหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นคงต้องมีแผนบริหารจัดการเช่นกัน

"ในระยะยาวที่เราห่วง น่าจะเป็นไตรมาส 1-2 ปีหน้า สินค้าอาจจะยังพอมี แต่ราคาจะสูงขึ้น แต่เมื่อถึงตรงนั้น ผมว่าเราน่าบริหารจัดการได้ เพราะไม่ใช่แค่เอเซอร์รายเดียว แต่จะกระทบแบบนี้ทั้งตลาด"

ด้านนายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวว่า บริษัทจำเป็นต้องเลื่อนงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์จากเดิม 3-6 พ.ย.นี้ออกไปเป็นวันที่ 24-27 พ.ย.แทน โดยยังเป็นสถานที่เดิมคือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพราะผู้ค้าไอทีส่วนใหญ่สต็อกสินค้าสำหรับจำหน่ายช่วงนี้แล้ว ต้องหาทางระบายออก โดยตลาดกรุงเทพฯ ยังเป็นความหวังเดียวของผู้ค้าช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเชื่อว่าจะเป็นช่วงที่พีซีส่วนใหญ่เริ่มโปรโมทการขายเครื่องแบบ "อัลตราบุ๊ค" ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊คที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานสื่อบันทึกข้อมูลแบบ "เอสเอสดี" แทนการใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีแนวโน้มจะขาดแคลนในเร็วๆ นี้

"ไตรมาส 4 น่าจะกระทบแน่ๆ แต่เนื่องจากสินค้าไอทียังจำเป็นต้องใช้ ซึ่งคาดว่าตลาดจะโตได้ 10-11% จากเมื่อต้นปีคาดว่าปีนี้จะโตได้ 13-14%"