"กสทช.อยากจะจัดประมูล 3จี พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ แต่มันต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามแผนแม่บท"

หลังโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมทั้ง 11 คน ถูกสังคมจับตามองถึงความสามารถ "ขับเคลื่อน" อุตสาหกรรมใหญ่มูลค่าระดับแสนล้าน ถือเป็นหนึ่งในคณะกรรมการขององค์กรอิสระที่ถูกตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูง

"กรุงเทพไอที" สัมภาษณ์พิเศษ "พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี" ประธาน กสทช. และ "พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ" รองประธานฝ่ายกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ถึงยุทธศาสตร์หลักที่จะได้เห็นเป็นรูปธรรมนับจากนี้


เร่งประชาพิจารณ์แผนแม่บท

พล.อ.อ.ธเรศ ประธาน กสทช.บอกว่า ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ได้กำหนดให้ กสทช.ทำแผนแม่บท 3 ฉบับ ได้แก่ แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม แผนแม่บทกิจการวิทยุกระจายเสียง-โทรทัศน์ และแผนแม่บทตารางบริหารคลื่นความถี่ ให้เสร็จใน 1 ปี ดังนั้น กสทช.ชุดนี้จะเร่งประชุมหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า จะนำแผนแม่บทที่รักษาการ กสทช. ได้ยกร่างฯ ไว้แล้ว มาประยุกต์ใช้มากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ ขอให้สื่อ และประชาชนเข้าใจว่า กสทช.ชุดนี้ถือเป็นมือใหม่ แม้กรรมการบางคนได้ทำงานบ้างแล้ว แต่ก็ต้องนำแผนแม่บทกลับมารีวิวอีกครั้ง ต้องการให้แผนแม่บททั้ง 3 ฉบับเสร็จก่อนกำหนด 1 ปี และหากบอร์ด กสทช. มีมตินำแผนแม่บทที่ยกร่างฯ ไว้แล้วมาประยุกต์ใช้ก็ต้องจัดทำประชาพิจารณ์กับผู้ประกอบการ นักวิชาการ ประชาชนใหม่อีกครั้ง

สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจาก กสทช.นั้น ประธาน กสทช. ระบุว่า การประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่น) 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์เป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอย ดังนั้น กสทช.ก็จะพยายามเดินหน้าจัดการประมูล 3จีให้แล้วได้ภายในปี 2555

"3จีเป็น สิ่งที่ประชาชนสนใจ เมื่อมี กสทช. ตัวจริงก็ย่อมอยากให้เกิดไลเซ่นใหม่ที่เป็นความถี่มาตรฐานสากล แต่เราก็จำเป็นต้องทำแผนแม่บทโทรคมให้เสร็จก่อน มั่นใจว่าดำเนินการได้ไม่ล่าช้าแน่นอน" พล.อ.อ.ธเรศ กล่าว


3จี ประมูลทันทีที่แผนแม่บทเสร็จ


ขณะที่ "พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ" รองประธานบอร์ด กสทช. ด้านกิจการโทรคมนาคม (กทค.) บอกว่า จากนี้การทำงานยังคงเน้นทำแผนแม่บททั้ง 3 แผน เพราะถือเป็นไฟลต์บังคับ ที่ต้องทำให้เสร็จก่อน คาดว่าจะใช้เวลาจากนี้ไม่เกิน 6 เดือนจะเสร็จ

"ทั้ง 3 แผน ไม่น่าจะช้ามาก แผนบริหารจัดการคลื่นความถี่ เราได้หารือดูกันไปแล้วรอบแรก ข้อขัดแย้งไม่มาก น่าจะเสร็จได้เร็ว ส่วนแผนแม่บททั้งของโทรคม และกระจายเสียง โทรทัศน์ ก็จะแยกไปให้แต่ละบอร์ด เสร็จแล้วก็นำเข้าสู่บอร์ดใหญ่ รายละเอียดมีอยู่แล้วแค่มาตัดแก้ให้เหมาะสม ไม่น่าจะนาน"

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวถึง การออกไลเซ่นใหม่ เช่น การประมูลคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ว่า ต้องรอให้แผนแม่บทเสร็จก่อน จะทำโดยแผนแม่บทยังไม่เรียบร้อยไม่ได้

"ไลเซ่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เราทำแน่นอน ไม่ต้องกังวล หลังแผนแม่บทเรียบร้อย สามารถทำได้ทันที ท่านประธานเองก็ย้ำให้เร่งดำเนินการประมูล คลื่น 2.1 ให้เร็ว แต่เรายังทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ ต้องทำตามกฎหมาย ผมเองอยากจะทำพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ แต่มันต้องเป็นไปตามแผนแม่บท"

ขณะเดียวกัน ยังจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อทำงานคู่ขนานไปด้วย อาจมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมเพื่อให้ได้มุมมองที่แตกต่าง คาดว่า ไม่เกินปี 2555 จะสามารถประมูลคลื่น 2.1 ได้แน่

"หลายคนบอก ทำไมไม่ทำย่าน 4จี เลย เพราะรอกันมานานแล้ว ก็อยากจะบอกว่า เราจะไป 4จี ก็ได้ แต่ต้องรอให้ถึงเวลาก่อน 4จีทั่วโลก มาตรฐานยังไม่นิ่ง อุปกรณ์รองรับไม่มาก ขณะที่อุปกรณ์หลักๆ ทั่วโลกเขาผลิตเพื่อ 3จี เป็นหลัก ราคาก็ไม่แพง ถ้าเราจะข้ามไปใช้ 4จีเลย ยังไม่คุ้ม แค่คลื่น 2.1 ก็สามารถอัพเกรดความเร็วได้เยอะ ใช้ให้คุ้มค่าได้"


สัมปทานต้องอ้างอิงข้อกฎหมาย

ส่วนปัญหาเรื่อง "สัมปทาน" ระหว่างเจ้าของสัมปทาน กับคู่สัญญาเอกชนนั้น ทุกเรื่องที่มีปัญหาเป็นเรื่องที่คู่สัญญาต้องตกลงกัน กสทช.จะเข้าไปเกี่ยวเฉพาะหากต้องโอนคลื่นความถี่ เปลี่ยนเจ้าของ หรือเกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น

ด้านประเด็นสัญญาทรู กับ กสท โทรคมนาคม ที่มีข้อครหาถึงความไม่โปร่งใสนั้น พ.อ.เศรษฐพงค์ บอกว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดสัญญาทั้งหมด แต่คงต้องเข้าไปดู จะเน้นให้เป็นไปตามหลักกฎหมาย ผู้บริโภคต้องได้ประโยชน์

"เรื่องเก่า เราไม่ยุ่ง ถ้ามันจบไปแล้ว แต่ถ้ายังเป็นเรื่องที่ยังค้างอยู่ แล้วให้ กสทช.ชุดใหม่สานต่อเราก็ต้องเข้าไปดูอย่างแน่นอน"

พ.อ.เศรษฐพงค์ บอกด้วยว่า โทรคมนาคมภาพรวม ถือเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ช่วยสร้างงาน เพราะเกี่ยวข้องกับทุกธุรกิจ ถ้าวางยุทธศาสตร์ดี อุตสาหกรรมโทรคมจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตได้

"ในต่างประเทศ การให้บริการโทรคม เขาถือเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยเฉพาะบรอดแบนด์ เหมือนเป็นไฟฟ้า น้ำประปา ถ้าเราพัฒนาให้ดี ประชาชนก็จะอยู่ดี กินดี เหมือนมีน้ำ มีไฟฟ้าใช้"


มุ่งยุทธศาสตร์พัฒนาโทรคมรับเออีซี

นอกจากนี้ กสทช. ยังเตรียมแผนเพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (เออีซี) โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ ยอมรับว่า ไทยช้าเกินไป แต่ก็ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ในแผนแม่บทแล้วเช่นกัน

"ข้อตกลง เออีซี ก็เป็นประเด็นที่ กสทช. เป็นห่วง ตอนนี้กำลังตั้งคณะทำงาน เพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนให้ทั้งโทรคม และกิจการกระจายเสียงแข่งขันได้ในภูมิภาค ส่วนโทรคมต้องดูว่า โครงสร้างพื้นฐานเข้มแข็งพอที่จะต่อสู้กับเขาได้ไหม เป็นอีกเรื่องที่เราต้องเร่งดำเนินการ" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว