เออาร์ไอพีเตรียมจัด “คอมมาร์ต คอมเทค” 3-6 พ.ย.นี้ เช็กเรตติ้งตลาดไอทีไตรมาส 4 เชื่อโน้ตบุ๊กยังเป็นพระเอก ดึงอัลตร้าบุ๊กนวัตกรรมล่าสุดมาจำหน่าย คาดค่ายไอทีเล่นสงครามราคาเดือดเพิ่มยอดขาย…

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ คอมมาร์ต เปิดเผยว่า ในวันที่ 3-6 พ.ย.นี้ บริษัทจะจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2011 โดยเน้นการนำเสนอและจำหน่ายนวัตกรรมและสินค้าไอทีที่ได้รับความนิยม ซึ่งยืนยันว่าแม้เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น อัลตร้้าบุ๊ก ก็มีสินค้าพร้อมจำหน่ายแก่ผู้สนใจ คาดว่าจะมีผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 5 แบรนด์ พร้อมจำหน่ายอัลตร้าบุ๊กภายในงาน ขณะเดียวกันก็ยังมีแท็บเล็ตอีกกว่า 20 แบรนด์มาจำหน่ายอีกด้วย

“เนื่องจากภาพรวมตลาดไอทีไตรมาส 3 ไม่เป็นไปตามคาด เชื่อว่าผู้ประกอบการจะยิ่งเพิ่มการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคในไตรมาส 4 ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปี อาจได้เห็นการหั่นราคาทำโปรโมชันกับโน้ตบุ๊กระดับกลาง ราคาอยู่ที่ 30,000-50,000 บาท ซึ่งน่าจะดึงดูดความสนใจผู้ร่วมงานได้มาก” นายปฐม กล่าว

จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง อาจกล่าวว่าเป็นยุคผลัดใบเทคโนโลยีแต่ไม่เหมือนในอดีต ซึ่งจะเปลี่ยนจากรุ่นเดิมเป็นรุ่นใหม่ แต่ปัจจุบันเป็นการเปลี่ยนสู่สินค้าทางเลือกที่เน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์และตอบ โจทย์การใช้งานตรงความต้องการ อย่างไรก็ตาม การจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คอมมาร์ตต้องเจอกับตัวแปรต่างๆ ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ หรืออุทกภัย แต่เชื่อว่าด้วยภาพงานไอทีที่มีความหลากหลายเป็นวาไรตี้ของคอมมาร์ตจะทำให้ การจัดงานไม่ได้รับผลกระทบ หากสถานการณ์ไม่แย่ลงกว่านี้

นายปฐม ยังกล่าวอีกว่า สำหรับสินค้าขายดีภายในงาน เชื่อว่าโน้ตบุ๊กจะยังคงมียอดขายสูงเป็นอันดับ 1 เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดตัวอัลตร้าบุ๊ก ขณะที่แท็บเล็ตและสินค้าไอทีอื่นๆ ยังคงมีแนวโน้มความต้องการและยอดจำหน่ายสูง ส่งผลให้มีเงินสะพัดภายในงานถึง 2,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป อาทิ แกะกล่องสัมผัสไอโฟน 4s , แท็บเล็ตเพื่อเป็นต่อทางธุรกิจ-การวางกลยุทธ์ธุรกิจในยุคแท็บเล็ต เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมประมูลของใช้คนดัง ซึ่งจะนำรายได้ทั้งหมดไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นวันที่ 3-6 พ.ย. ระหว่างเวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์.