อซีทีเคาะรูปแบบวิธีการรักษาสิทธิ์วงโคจรดาวเทียม 120 องศาตามไทยคมเสนอ

นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา ให้กระทรวงไอซีทีกลับไปพิจารณาแผนที่จะให้บมจ.ไทยคมรักษาสิทธิ์วงโคจรดาวเทียมตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก เพื่อนำเสนอเข้าครม.อีกครั้งนั้น ขณะนี้ ที่ประชุมคณะทำงานแผนการรักษาสิทธิ์วงโคจรสรุปแผนตามที่ไทยคมได้เสนอมาทุกประการ

แผนคือ ให้ไทยคมไปดำเนินการทำข้อตกลงร่วมกับบริษัทเอเชีย แซท ผู้ประกอบดาวเทียมจากประเทศจีน โดยแผนหลักให้เอเชีย แซทยิงดาวเทียมดวงใหม่ขึ้นสู่วงโคจร 120 องศาตะวัน ออกภายในปีเดือนธ.ค.นี้ จากแผนเดิมมีกำหนดยิงขึ้นสู่วงโคจรในตำแหน่ง 105.5 องศา ปี 2557 ส่วนแผนสำรอง หากเอเชีย แซท ไม่สามารถยิงดาวเทียมได้ตามเวลา จะให้ลากดาวเทียมที่มีอยู่มาไว้ในตำแหน่ง 120 องศาไปก่อน จนกว่าจะยิงดาวเทียมดวงใหม่ได้

“ที่ ประชุมคณะทำงานได้หยิบหยกประเด็นบางข้อขึ้นมาเป็นข้อสังเกตคือ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 190 บอกว่าถ้าเป็นพื้นที่ของประเทศไทยต้องตกลงกับใครหรือไม่ เนื่องจากจะต้องเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศหรือไม่นั้น อย่างกรณีเขาพระวิหาร จะต้องนำเรื่องเข้าสภาก่อน ซึ่งมองว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เนื่องจากกิจการดาวเทียมเป็น เรื่องของสมบัติโลกไม่ใช่เรื่องของมาตรา 190 ตอนนี้เราต้องเร่งให้ไทยได้รักษาสิทธิ์ให้เร็วที่สุด เอาแค่ให้ได้รักษาสิทธิ์เท่านั้น เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากเนื่องจากจะต้องยิงดาวเทียมได้ในเดือน ธ.ค.นี้”

อย่าง ไรก็ตาม การรักษาสิทธิ์วงโคจร ได้ระบุในสัญญาสัมปทานให้ไทยคม ซึ่งเป็นคู่สัญญาสัมปทานต้องเป็นผู้รักษาสิทธิ์วงโคจร แต่เนื่องด้วยภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 กสทช. (พ.ร.บ.กสทช.) ผู้จะสามารถดำเนินการใดๆ ในกิจการดาวเทียมได้ต้องมีใบอนุญาต (ไลเซ่น) การประกอบกิจการ ดังนั้น ไทยคม จึงเป็นเพียงผู้ยื่นจองรักษาสิทธิ์ แต่ไม่สามารถดำเนินการใดได้