เอชทีซี โชว์ศักยภาพ HTC Wildfire ใช้แอปฯ MDM บนแอนดรอยด์ บริหารจัดการซ่อมบำรุงตู้เอทีเอ็มในเครือแบงก์กรุงไทย ก่อนต่อยอดพัฒนาใช้ด้านระบบขนส่งเงินอีก

นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ (KTBGS) ในเครือธนาคารกรุงไทย ผู้ให้บริการขนส่งทรัพย์สินแก่สถาบันการเงิน เลือกใช้ HTC Wildfire ที่เป็นแอนดรอยด์โฟนจากเอชทีซี ในการพัฒนาแอปพลิเคชันโลจิสติกส์สำหรับงานดูแลตู้เอทีเอ็ม ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญและเป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้แอปฯ ในแอนดรอยด์โฟนสำหรับภาคธุรกิจการเงิน

ทั้งนี้สัดส่วนสมาร์ทโฟนของเอชทีซี ตลาดหลักยังคงเป็นตลาดคอนซูเมอร์อยู่ถึง 70% ที่เหลือเป็นตลาดองค์กร โดยมีระบบปฏิบัติการวินโดวส์บนสมาร์ทโฟนซึ่งเอชทีซีทำตลาดมาหลายปีแล้ว ยังมีสัดส่วนถึง 80% ที่เหลือเป็นแอนดรอยด์

"การที่สัดส่วนของแอนดรอยด์ใน ตลาดองค์กรยังไม่มาก เนื่องจากเพิ่งทำตลาดมาได้เพียง 2 ปี และเกือบ 100% เป็นตลาดของแอนดรอยด์ แต่คงจะต้องรอดูปีหน้าว่า วินโดวส์ โฟนจะมีการปรับปรุงในตลาดองค์กรเป็นอย่างไรด้วยสำหรับลูกค้าเป้าหมายในตลาด องค์กรที่ เอชทีซีให้ความสำคัญมากคือ ตลาดค้าปลีกค้าส่ง ประกันภัย ตลาดเวชภัณฑ์"

นายดำรงค์ แก้วประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยธุรกิจบริการ กล่าวว่า บริษัท มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการตู้เอทีเอ็มทั้งระบบโดย บริษัท ไอที บีม ได้เข้ามาเสนอแอปฯ บนสมาร์ทโฟนที่พัฒนาบนแอนดรอยด์ Mobile Device Management Solution (MDM) ที่อิงเทคโนโลยี Team Location มาใช้เพื่อส่งข้อมูลแบบออนไลน์ ทดแทนการจดบันทึกด้วยเอกสารและจัดเก็บลงฐานข้อมูลอีกครั้งในรูปแบบเดิม

โดยเลือก HTC Wildfire ในเฟสแรกสำหรับซ่อมบำรุงตู้เอทีเอ็ม เนื่องจากสามารถตอบสนองการทำงานของ MDM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านประสิทธิภาพเครื่องและระบบ HTC Sense ส่วนติดต่อใช้งานจากเอชทีซี ซึ่งมีเมนูภาษาไทยทั้งหมด ฟังก์ชันใช้งานง่ายและสามารถปรับแต่งเมนูต่างๆ ได้ตามความต้องการรองรับระบบแอปฯ ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมงานจากไอทีบีม

หลังจากที่ใช้งาน MDM เต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับความสำเร็จในด้านข้อมูลเชิงบริหารจัดการงานด้านตู้เอทีเอ็มเป็นอย่าง ดี เช่น การรายงานสถานการณ์ซ่อมแก้ไขเครื่อง เอทีเอ็มในภาคสนามทั่วประเทศ โดยทีมงานส่วนกลางจะสามารถติดตามและตรวจสอบสถานะปัจจุบันของงานแต่ละงานได้ ทันที เพื่อการบริหารและจัดการงานให้เป็นไปตามค่าดัชนีหรือเคพีไอที่ธนาคารกำหนด ภายใน 3 ชั่วโมง

"ในอดีตกว่าจะได้รับรายงาน ซ่อมบำรุงตั้งใช้เวลาถึง 20 วัน แต่วันนี้สามารถดูรายงานแบบเรียลไทม์ได้ทันที โดยลงทุนระบบไปประมาณ 2-3 ล้านบาทสำหรับโครงการในเฟสแรก และจะมีการพัฒนา MDMในด้านระบบขนส่งเงินอีก ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นปีนี้"