User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "โนเกีย-ริม" เลย์ออฟพนักงาน พลิกแผนลดต้นทุนฟื้นวิกฤต
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"โนเกีย-ริม" เลย์ออฟพนักงาน พลิกแผนลดต้นทุนฟื้นวิกฤต

รอบ สัปดาห์ที่ผ่านมา ยักษ์ "โนเกีย และริม" (รีเสิร์ชอินโมชั่น) ใจตรงกันโดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อทั้งคู่ออกมาประกาศเลย์ออฟพนักงานเพื่อลดต้นทุน โดยเดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัลรายงานว่า โนเกียจะยกเลิกการจ้างพนักงานในโรงงานผลิตมือถือจำนวน 3,500 ตำแหน่ง เพิ่มจากที่เคยประกาศไว้เมื่อปีที่แล้วว่า จะยกเลิกการจ้างงานในส่วนงานวิจัยและพัฒนา 6,800 ตำแหน่ง ด้วยเหตุผลว่าต้องการปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุนและหันมาเน้นโรงงานผลิตสินค้าในทวีปเอเชียมากขึ้น

การเลิก จ้างในครั้งนี้มีผลมาจากแผนการปิดโรงงานผลิตฟีเจอร์โฟนกลุ่มโลว์เอนด์ของโน เกีย ในเมืองคลัจประเทศโรมาเนียภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับย้ายฐานการผลิตไปยังเอเชีย ตัวแทนจาก "โนเกีย" กล่าวว่า หากนับรวมการปรับสายการกระบวนการผลิตแล้วน่าจะมีพนักงานหลุดจากตำแหน่ง 2,200 คน

"โนเกีย" วางแผนที่จะหันมาเน้นส่วนธุรกิจด้านการวางแผนและพัฒนาด้านการขายในเมือง เบอร์ลิน, บอสตัน และ ชิคาโกมากขึ้น และจะปิดสาขาในเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี รวมถึงในมัลเวิร์น รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งจะส่งผลกระทบกับพนักงานในบริษัทอีก 1,300 คนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

นอก จากนี้ ยังจะพิจารณาถึงบทบาทในระยะยาวของโรงงานผลิตสินค้าในเมืองซาโล ประเทศฟินแลนด์, เมืองโคมารอม ประเทศฮังการี และเมืองเรโนซา ประเทศเม็กซิโก คาดว่าบริษัทจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนพนักงานที่จะต้องลดลงในไตรมาสแรกของ ปี 2555

เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา "โนเกีย" ให้สัมภาษณ์ว่า วางแผนลดพนักงานทั่วโลกประมาณ 4,000 คนในเดนมาร์ก,สหราชอาณาจักร และฟินแลนด์ก่อนสิ้นปีหน้า หากนำมารวมกับการประกาศลดพนักงานครั้งล่าสุดนี้ เท่ากับว่าโนเกียได้ปรับลดบุคลากรคิดเป็นสัดส่วน 7.4%

"ริชาร์ด วินด์เซอร์" ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโนมูระ เทคโนโลยีแสดงความเห็นว่า การยกเลิกการจ้างงานเป็นแค่ก้าวแรกของโนเกีย หากมองผลกำไรของโนเกียในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่า บริษัทจำเป็นต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง

"การประกาศปลดพนักงานครั้งนี้ คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแน่นอน ปัจจุบันยอดขายโนเกียเติบโตสูงมากในเอเชีย ดังนั้นการย้ายฐานการผลิตไปยังเอเชียเพิ่มเติมจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล"

"แค โรลีน่า มิลาเนซี่" นักวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์กล่าวว่า การตัดสินใจของโนเกียแสดงให้เห็นว่า บริษัทกำลังใช้วิธีเปลี่ยนฐานการผลิตมายังประเทศที่ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ และชี้ให้เห็นด้วยว่าโนเกียพยายามปรับตนเองให้ไปอยู่ในภูมิภาคที่เป็นแหล่ง รายได้ และเป็นตลาดที่ตนยังเติบโตได้

ฟาก "โนเกีย" เองกล่าวถึงแผนการปรับลดพนักงาน และการย้ายโรงงานว่าจะทำให้ลดต้นทุนได้ 1.35 ล้านเหรียญในปี 2556

ปัจจุบัน โนเกียยังเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือหากนับในแง่ยอดขาย แต่มีสัดส่วนตกลงอย่างต่อเนื่องจากการเข้ามาของไอโฟนของแอปเปิลและแอนดรอยด์ โฟนของกูเกิล โดย "การ์ทเนอร์" รายงานว่า โนเกียมียอดขายเครื่อง 97.87 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ตกลงจากปีที่แล้วซึ่งทำได้ที่ 111.47 ล้านเครื่อง ทำให้มาร์เก็ตแชร์ทั่วโลกเหลือ 22.8% ลดจาก 30.3% ขณะที่ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน ทั่วโลกในไตรมาส 2 อยู่ที่ 22.1% ลดจาก 40.9% ในปีก่อนหน้า

ไม่ใช่แต่ "โนเกีย" ที่ปรับตัวอย่างหนัก "ริม" (รีเสิร์ชอินโมชั่น) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อดัง "แบล็คเบอร์รี่" ก็มีมาตรการปรับลดบุคลากรและปรับ โครงสร้างองค์กรเช่นเดียวกัน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ริมประกาศแผนปลดพนักงานเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี โดยจะลดพนักงาน 2,000 ตำแหน่ง ทำให้เหลือบุคลากรทั้งหมด 17,000 คน หลังส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกลดลงไป 3%

ครั้งล่าสุดที่ "ริม" มีการปรับลดพนักงาน คือในปี 2545 โดยลดลงประมาณ 10% เนื่องจากรายได้ตกต่ำลง และต้องการจัดการต้นทุนองค์กรใหม่เพราะอยู่ในช่วงเริ่มต้นโมเดลการจำหน่าย โทรศัพท์แบล็คเบอร์รี่ผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ การลดบุคลากรในครั้งนี้ "ริม" ให้เหตุผลว่าเป็นการลดต้นทุน อย่างรอบคอบและจำเป็นเพื่อความสำเร็จในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายตั้งคำถามเกี่ยวกับแผนธุรกิจของริมว่า การลดต้นทุนผ่านแผนการปลดบุคลากรจะแก้ปัญหาสถานะการเงินของบริษัท หรือเพิ่มสัดส่วนการตลาดของแบล็คเบอร์รี่ที่ขณะนี้ลดลงต่อเนื่องได้หรือไม่

"เอ็ด ซไนเดอร์" บริษัทวิจัย ชาร์เตอร์ อีควิตี้กล่าวว่า ปัญหาตอนนี้คือริมไม่สามารถลดต้นทุนในองค์กรเพื่อให้บริษัทเติบโตหรือกลับมา เป็นที่หนึ่งในตลาดได้ แม้ตนจะค่อนข้างมั่นใจว่ามีส่วนที่ไม่จำเป็นอยู่ในริม แต่ปัญหาหลักของ บริษัทยังขึ้นอยู่กับเรื่องการจัดการในองค์กรมากกว่า

"คอลิน กิลลิส" นักวิเคราะห์จากบีจีซี พาร์ทเนอร์ส แสดงความเห็นไปในทำนองเดียวกันว่า การลดต้นทุนไม่น่าช่วยเปลี่ยนสถานะการแข่งขันให้ริม หรือช่วยเร่งอัตราการเติบโตด้านยอดขายของบริษัทแต่อย่างใด

ด้าน "ริม" ให้ข้อมูลว่า นายดอน มอริสัน จะเกษียณตนเองจากตำแหน่ง ผู้บริหารอาวุโสด้านการจัดการในองค์กร หลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของริมนานกว่า 10 ปี โดยมี "ทอร์สเต็น ไฮนส์" ขึ้นมารับหน้าที่ดูแลด้านวิศวกรรมของผลิตภัณฑ์ ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ และ "จิม โรแวน" จะเข้ามาดูด้านการดำเนินงาน

ปัจจุบัน "แบล็คเบอร์รี่" โดนผู้เล่น รายหลักในตลาดโดยทั้ง "ไอโฟน" และ "แอนดรอยด์" หลากยี่ห้อช่วงชิงพื้นที่การขายของ "ริม" อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในอเมริกา นอกจากนี้แท็บเลตของริมอย่าง "เพลย์บุ๊ก" ก็โดนมองว่าออกสู่ตลาดช้าเกินไปเช่นเดียวกับ "โนเกีย"
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.