ภาย ใต้สภาพการแข่งขันที่ดุเดือด บางโอเปอเรเตอร์ต้องนำเอาเรื่องราคามาเป็นเครื่องมือดึงดูดลูกค้า ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็น ยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ได้ในระยะสั้นเท่านั้น ผู้ให้บริการจึงต่างพยายามสร้างความแตกต่างด้วยแอพพลิเคชัน (Application) ดีไวซ์ (Device) และ โครงข่าย (Network) โดยเฉพาะการเร่งสร้างโครงข่ายโมบายบรอดแบนด์ (Mobile broadband) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ต่างพยายามช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจด้วยการนำเอาเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Long Term Evolution (LTE) มาให้บริการก่อนใครในตลาด

ใน อเมริกา รายได้จากบริการโมบายล์เพิ่มขึ้นจาก ความนิยมใน สมาร์ทโฟน (Smartphone) ไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน (iPhone) หรือ แอนดรอยด์ (Android) และการอัพเกรดโครงข่ายเป็น LTE ของผู้ให้บริการก็มีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับโอเปอเรเตอร์ได้ไม่น้อย ถ้าตามข่าวสารในอเมริกาจะพบว่า โอเปอเรเตอร์ต่างโหมวางโครงข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยออกมาแถลงข่าวถึงการขยายพื้นที่ครอบคลุมในเมืองต่างๆ กันค่อนข้างบ่อยในช่วงนี้ เป็นการประกาศศักดาเหนือคู่แข่ง และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ถ้าไม่ใช่โอเปอเรเตอร์ที่มีฐานะการเงินที่เข้มแข็งก็อาจจะเดินเกมในลักษณะ นี้ได้ค่อนข้างลำบาก

จน กล่าวกันว่าการวางโครงข่าย 4G ของบางโอเปอเรเตอร์ในช่วงนี้ รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยกว่าเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายใดๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่า นอกจากตัวเทคโนโลยีที่รองรับการสื่อสารไร้สายความเร็วสูง การวางโครงข่ายก็รวดเร็วไม่แพ้กัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ประกอบกับสภาพตลาดที่บีบคั้น ทำให้ต้องแข่งขันกันวางโครงข่ายอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้

โอ เปอเรเตอร์ที่ประยุกต์ใช้ WiMAX อย่าง Clearwire กำลังจะเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยจะทำตัวเป็น ผู้ขายส่ง (Wholesaler) อย่างเต็มตัว โดยจะอัพเกรดระบบมาเป็น LTE และที่สำคัญผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินของบริษัทได้กล่าวกับนักลงทุนว่า บริษัทต้องการจะเป็น “Switzerland of broadband” โดยแต่เดิมที่เน้นทำงานร่วมกับ Sprint Nextel เท่านั้น จากนี้ไปจะร่วมเป็นพันธมิตรกับโอเปอเรเตอร์รายอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตามยังต้องการเม็ดเงินลงทุนเพื่ออัพเกรดระบบเป็น LTE แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกร่วมปีกว่าจะวางโครงข่ายได้เรียบร้อยก็ตาม

ส่วน เทคโนโลยีจะนำ TDD-LTE มาใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากระบบที่โอเปอเรเตอร์รายอื่นได้เปิดให้บริการไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในตระกูลเดียวกันก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจของเทคโนโลยี TDD-LTE ก็คือ โอเปอเรเตอร์รายใหญ่จากแดนมังกรอย่าง China Mobile และผู้ให้บริการรายใหญ่ในญี่ปุ่น และ อินเดีย ต่างนำเทคโนโลยีนี้มาให้บริการ ทำให้โอกาสที่ต้นทุนของอุปกรณ์จะต่ำลง เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่เลือกเทคโนโลยีดังกล่าวนั้น นอกจากข้อดีในเรื่อง Economies of Scale (EoS) แล้ว ความถี่ที่มีอยู่ และเทคโนโลยี WiMAX ที่ใช้อยู่แต่เดิมก็มีพื้นฐานอยู่บนระบบ TDD

คำ ถามก็เกิดขึ้นว่า แล้วโอเปอเรเตอร์รายอื่นที่ได้เปิดให้บริการ LTE ไปแล้วจะมีสิ่งใดมาจูงใจให้มาเป็นลูกค้า โฮลเซล (Wholesale) ของ Clearwire ล่ะ ทางโอเปอเรเตอร์มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมี ดีไวซ์ (Device) ที่รองรับทั้ง LTE และ TDD-LTE เนื่องจากการเพิ่มชิปเซ็ท (Chipset) ที่รองรับ TDD-LTE ในอนาคตน่าจะไม่เพิ่มต้นทุนมากเท่าไรนัก เมื่อมีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั้งในจีน และอินเดีย

เมื่อ วิเคราะห์คำกล่าวของทางผู้ให้บริการก็มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าศึกษาจากประวัติศาสตร์จะพบว่า แนวคิดการนำเอาสองเทคโนโลยีข้ามค่าย หรือแม้แต่ค่ายเดียวกัน ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย บ้างก็เป็นเพียงแนวคิด ชิปเซ็ท (Chipset) ก็อาจจะมีแผนการผลิต บ้างก็เคยวางจำหน่าย ดีไวซ์ (Device) ลักษณะดังกล่าว แต่ดูเหมือนจะไม่ยั่งยืนในระยะยาวเท่าใดนัก ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความต้องการของตลาดจะมีมากพอช่วยผลัก ดันให้การใช้งานลักษณะนี้ มีรายได้ยั่งยืนได้มากน้อยเพียงใด