ยู ไอเอช ปักหมุดขอเป็นผู้เล่นหลัก ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อเศรษฐกิจเสรีอาเซียน 100% มาถึง ชูบริการเชื่อมต่อสื่อสารข้อมูล BB Connect ที่สามารถแข่งขันได้ทั้งคุณภาพและเทคโนโลยี มั่นใจรายได้ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี

ภาสกร หงษ์หยก ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด (UIH) เปิดเผยกับ "เทเลคอมเจอร์นัล"ว่า ทิศทางนโยบายของบริษัท ค่อนข้างชัดเจนที่จะปักหมุดลงทุนในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมกับธุรกิจเป็นผู้ให้ บริการการเชื่อมต่อวงจรสื่อสารข้อมูลเพื่อรองรับปริมาณการใช้บรอดแบนด์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในระดับต้นๆ และเพื่อให้แข่งขันได้กับผู้ให้บริการบรอดแบนด์ของต่างประเทศที่จะเข้ามาทำ ธุรกิจในประเทศไทย หลังจากที่มีการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียน 100% ในอีก 3 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อมในขณะนี้คือการปรับตัว

ประการแรก คือการปรับระบบเทคโนโลยีให้รองรับกับความต้องการของลูกค้าองค์กรที่เปลี่ยน ไป จากเดิมที่ลูกค้าใช้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในรูปแบบของเช่าวงจรสื่อ สัญญาณความเร็วสูง ( LEASED LINE ) ซึ่งเปลี่ยนมาเป็นระบบติดต่อสื่อสารผ่าน IP Network และการทำธุรกรรมบนโครงข่ายนอกอาคาร หรือ VPN ( Virtual Private Network) ในยุคปัจจุบัน มีมากขึ้นจากแนวโน้มองค์กรธุรกิจมีการทำธุรกรรมต่างๆ อยู่บนอินเทอร์เน็ต และกระแสเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งที่ใช้เงินลงทุนต่ำ

ทิศทางของเรา ต้องการพัฒนาโครงข่ายให้ต่อเข้ากับเทคโนโลยี คลาวด์ คอมพิวติ้ง โดยจะต้องมีระบบท่อที่ใหญ่ เพื่อให้ข้อมูลวิ่งได้เร็ว รองรับความต้องการของลูกค้าได้ทุกบริการ ไม่ว่าจะเป็นบริการการเชื่อมต่อไปยังอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศโดย ตรง หรือการเชื่อมต่อตรงไปยังพันธมิตรทางการค้าระหว่างประเทศ

โดยมีหลายระดับความเร็วตามความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ความเร็ว 256 กิโลบิตต่อวินาที ไปจนถึง 10 กิกะบิตต่อวินาที ทั้งในวงจรรูปแบบ SDH, Ethernet หรือ Ethernet over SDH ซึ่งปัจจุบัน BB Connect ได้เชื่อมต่อระบบเครือข่ายเข้ากับ Global Switch ที่ประเทศสิงคโปร์ได้สำเร็จ ทำให้ระบบเครือข่ายการสื่อสารสมบูรณ์

เขากล่าวว่า บริษัท มีฐานลูกค้าอยู่ในปัจจุบัน ประมาณ 3,000ราย ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมธนาคาร ประกันภัย โดยดูแลระบบให้ลูกค้าอยู่ประมาณ 36,000 link คาดว่าปีนี้มีรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี

บริษัท ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่ 3 ได้ไม่นานในการให้บริการ BB Connect ประกอบด้วย

1.บริการ International Private Leased Circuit (IPLC) บริการที่นำเสนอวงจรส่วนตัวให้กับลูกค้า (Dedicated bandwidth) ที่ต้องการระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง และใช้งานได้คุ้มค่า ด้วยความเร็วสูงสุดที่เลือกไว้

2. IP VPN (IP Virtual Private Network) บริการที่เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการที่ต้องการเชื่อต่อเครือข่าย LAN จากหลายสาขาทั่วโลก เข้าเป็นเครือข่ายเดียวเพื่อแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวในการสื่อสาร ซึ่งขณะนี้มีการรุกขยายตลาดเต็มที่

วอน กสทช. ดูแลกฎกติกามารยาท

เขากล่าวว่า การทำธุรกิจมักพบเจอปัญหาอุปสรรคที่ไม่ต่างจากผู้ให้บริการบรอดแบนด์รายอื่น กรณี ปัญหาการเดินสายในพื้นที่ต่างจัดหวัด ที่ต้องลงพื้นดิน แต่มีปัญหาไปทับซ้อนในพื้นที่ของหน่วยงานราชการ เช่น การไฟฟ้าฯ ทำให้การทำงานลำบาก ทั้งๆ ที่ได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว จึงอยากให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช). เข้ามาดูแลกฎกติกา มารยาท ตรงจุดนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ

"เราเห็นด้วยกับแผนงานนโยบาย SMART THAILAND ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือ ไอซีที ในการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของ ประชากร โดยเฉพาะการที่รัฐพยายามมุ่งไปที่การสร้างสังคมอุดมปัญญา ในกรอบความคิดที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศ แต่ก็ต้องมาดูอีกว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ มีความพร้อมแล้ว หรือยัง เพราะตัววัดผลการดำเนินงาน หรือ KPI ของประเทศที่พัฒนาแล้ว มักจะดูที่ตัวเลขอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชน
SMART THAILAND เท่าที่มอง ยังเป็นนโยบายในภาพกว้าง ที่ต้องการให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกพื้นที่ 80%ของประเทศ แต่ยังมองไม่เห็นว่าจะไปให้ถึงได้อย่างไร แต่ถ้าเป็นการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาแข่งขัน และให้บริการ ที่อยู่บนกฎกติกาเดียวกัน ที่ยอมรับกันได้ หรือปล่อยให้เป็นเรื่องของกลไกของการตลาดในอันดับสุดท้าย เชื่อว่าภาพของโครงการ SMART THAILAND ก็จะชัดขึ้น" ภาสกร กล่าว