โซ นี่ตอกย้ำผู้นำกล้องดิจิตอลในไทย รุกตลาดในทุกเซกเมนต์ รักษาเบอร์หนึ่งในตลาดกล้องคอมแพกต์และตลาดใหม่อย่างมิลเรอร์เลสต่อ ชูคุณภาพเข้าสู้ เชื่อกำลังซื้อตลาดกลับมาเหมือนเดิม

นายโยชิยูกิ โนกามิ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจ Personal Imaging & Sound Business Group โซนี่ คอร์ปอเรชันกล่าวว่า จากการที่โซนี่ ให้ความสำคัญในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิตอลอิมเมจจิ้งมาอย่างต่อ เนื่อง โดยเฉพาะเรื่องความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีในกล้องดิจิตอลของโซนี่ ทำให้โซนี่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมในกล้องดิจิตอลได้หลากหลายตั้งแต่กล้อง ดิจิตอลแบบคอมแพกต์ไปจนถึงกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์เพื่อตอบสนองกับการมใช้งาน ของผู้บริโภคที่ในแต่ละเซกเมนต์มากขึ้น

เมื่อปีที่ผ่านมา ทางโซนี่ได้เปิดตัวกล้องที่ใช้เทคโนโลยีกระจกสะท้อนภาพแบบ Translucent Mirror ในกล้องดีเอสแอลอาร์ตระกูลอัลฟ่า โดยเฉพาะกล้องดิจิตอลในตระกูล NEX-3 และ NEX-5 ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา ตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้เกิดเซกเมนต์ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่อยู่ระหว่างกล้อง ดีเอสแอลอาร์กับกล้องดิจิตอลคอมแพกต์

"ในปีที่ผ่านมา ตลาดให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่น ฮ่องกง และเอเชีย ดังจะเห็นได้จากส่วนแบ่งตลาดในส่วนของกล้องในตระกูลอัลฟ่าในประเทศญี่ปุ่น เป็นอันดับ 2 โดยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 5% เป็น 20% และเป็นอันดับหนึ่งในตลาดไต้หวัน"

นายโทรุ ซิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับตลาดแนวทางการทำตลาดกล้องดิจิตอลในประเทศไทยยังคงสานความสำเร็จและ เสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งต่อ ภายใต้กลยุทธ์ Sony Redefines Digital Imaging World ผ่านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกเซกเมนต์

กิจกรรมสื่อสารทางการตลาดในปีนี้จะมุ่งกิจกรรมไปยังทุกลุ่มเป้าหมาย ในทุกๆ เซกเมนต์ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ด้วยกิจกรรมในระดับประเทศและภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโรดโชว์ การประกวดภาพถ่าย อัลฟ่า แคมปัส โฟโต้คอนเทสต์ ที่มุ่งเจาะเข้าไปยังกลุ่มนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

เวลานี้โซนี่มีส่วนแบ่งตลาดกล้องดิจิตอลคอมแพกต์อยู่ที่ 25% จากตลาดรวมในปีนี้ที่จะคาดว่าจะมีประมาณ 1.3 ล้านเครื่อง ขณะที่กล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ตลาดรวมน่าจะมีอยู่ 1 แสนเครื่อง ทางจีเอฟเคประเมินขนาดตลาดของเซกเมนต์ใหม่ มิเรอร์เลส ในปีนี้ไว้ 2 หมื่นเครื่อง เติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับสัดส่วนตลาดกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์

แต่จากการคาดการณ์ภายในของโซนี่เอง ขนาดตลาดน่าจะมีเกือบๆ 3 หมื่นเครื่อง เนื่องจากมีการเข้ามาของแบรนด์อื่นในตลาดอย่าง นิคอน ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดโดยรวมศึกคักขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพตลาดโดยรวมที่จะใหญ่ขึ้น โดยทางโซนี่ประเมินว่า จะมียอดขายกล้องตระกูล NEX อยู่ที่ 1.5 หมื่นเครื่อง ในปีที่แล้วทางโซนี่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 45%

ส่วนเป้ายอดขายในกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ในตระกูลอัลฟ่านั้น ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1 หมื่นเครื่อง ซึ่งถือเป็นตลาดที่ยังใหม่สำหรับโซนี่ เพิ่งทำตลาดจริงจังมาประมาณ 3 - 4 ปีเท่านั้น ฐานผู้ใช้จึงยังมีน้อยแต่จากการที่โซนีมีการเปิดตัวกล้องในตระกูลนี้ออกมา อย่างต่อเนื่อง อย่าง A77 ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ก็ได้เสียงตอบรับจากตลาดในทางที่ดี ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการสร้างตลาด

นายโทรุ กล่าวอีกว่า สภาพตลาดกล้องดิจิตอลโดยรวมในประเทศไทยปีนี้ถือว่าตลาดยังสดใส เนื่องจากกำลังซื้อกลับมา คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% โดยเฉพาะการแข่งขันในตลาดโดยรวม ที่มีการแข่งขันกันสูง กล้องดิจิตอลมีราคาที่ถูกลงกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% แต่สำหรับโซนี่คงไม่ได้ลงไปเล่นในตลาดที่เน้นเรื่องราคาในระดับ 2 พันกว่าบาท เพราะโซนี่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยจะยังคงระดับราคากล้องอยู่เท่าเดิมแต่จะได้ฟีเจอร์หรือเทคโนโลยีที่แอด วานซ์กว่า

"วิธีการทำตลาดของโซนี่ ไม่ได้ใช้ราคาในการสร้างส่วนแบ่งตลาด แต่เราจะใช้เทคโนโลยีที่ดีกว่าในราคาเท่าเดิมมากกว่า"

ล่าสุด โซนี่ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ตระกูล อัลฟ่า 2 รุ่น ประกอบไปด้วย A77 กับ A65 กล้องมิลเรอร์เลส NEX อีก 2 รุ่น ประกอบไปด้วย NEX-5N เฉพาะบอดี้ 20,990 บาท ที่พร้อมวางจำหน่ายแล้ว กับรุ่น NEX-7 เฉพาะบอดี้ราคาที่ 39,990 บาท ซึ่งจะวางขายประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน และกล้องคอมแพกต์ตระกูลไซเบอร์ช็อตอีก 2 รุ่น ประกอบไปด้วยรุ่น TX55 ราคา 13,990 บาท กับรุ่น WX30 ราคาจำนวน 8,990 บาท