เอชพี (Hewlett-Packard) ส่งข้อมูลแจ้งคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯหรือ SEC ว่าอดีตซีอีโอ "ลีโอ อโปเธอร์เกอร์ (Leo Apotheker)" ซึ่งเพิ่งถูกปลดจากตำแหน่งไปนั้นจะได้รับค่าตอบแทนราว 13.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ซีอีโอคนใหม่ "เมก วิตแมน (Meg Whitman)" จะได้รับเงินเดือน 1 เหรียญสหรัฐต่อปี

อย่างไรก็ตาม วิตแมนจะได้รับหุ้นและเงินโบนัสเป็นค่าตอบแทนรายปีรวมมูลค่ามากกว่า 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในส่วนของอโปเธอร์เกอร์ซึ่งถูกกรรมการบริหารเอชพีสั่งปลดออกหลังจาก ดำรงตำแหน่งซีอีโอเพียง 11 เดือน จะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินสดมูลค่า 7.2 ล้านเหรียญและหุ้นเอชพีมูลค่า 3.56 ล้านเหรียญ พร้อมกับได้โบนัส 1 ก้อน 2.4 ล้านเหรียญซึ่งซีอีโอเอชพีจะได้รับตามธรรมเนียม

นอกจากนี้ อดีตซีอีโอเอชพียังจะได้รับค่าเดินทางสำหรับอโปเธอร์เกอร์ซึ่งเป็นชาว เยอรมันและภรรยา ในการเดินทางไปฝรั่งเศสหรือเบลเยี่ยม รวมถึงการให้เงินชดเชยมูลค่า 300,000 เหรียญเพื่อเป็นส่วนต่างในการขายบ้านพักในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เอชพี

สำหรับวิตแมน ซีอีโอเอชพีคนใหม่ที่เพิ่งถูกแต่งตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากจะได้รับเงินเดือน 1 เหรียญต่อปีและเงินโบนัสรายปีอีกมากกว่า 2 ล้านเหรียญ วิตแมนจะได้สิทธิ์ซื้อหุ้นเอชพีจำนวน 1.9 ล้านหุ้น ซึ่งทั้งหมดถือเป็นสิทธิ์สมน้ำสมเนื้อที่ผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีเบอร์ 1 ของโลกจะเสนอให้ผู้กุมบังเหียนบริษัท

อโปเธอร์เกอร์นั้นเคยเป็นซีอีโอบริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติเยอรมันอย่าง SAP มาก่อนจะรับตำแหน่งในเอชพีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว บทบาทสำคัญคือการประกาศให้เอชพีมุ่งความสำคัญที่ซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์ สำหรับองค์กรธุรกิจเป็นหลัก แต่ผลคือนักลงทุนของเอชพีไม่เชื่อมั่นในทิศทางนี้ ทำให้หุ้นของเอชพีตกต่ำถึง 40% หลังจากที่อโปเธอร์เกอร์เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนอดีตซีอีโอ "มาร์ก เฮิร์ด (Mark Hurd)" ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเมื่อปี 2010 เพราะพัวพันคดีละเมิดทางเพศ

หนึ่งในวิกฤติหนักของเอชพีต้องยกให้วันประกาศทิศทางของเอชพี วันเดียวมูลค่าหุ้นเอชพีตกฮวบ 20% หลังการประกาศว่าเอชพีจะแยกธุรกิจพีซีของตัวเองออกไป จุดนี้ยังไม่มีรายงานว่าวิตแมนจะเปลี่ยนแปลงแนวทางที่อโปเธอร์เกอร์เริ่มไว้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าเอชพีจะเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนภายในปีนี้