ซัมซุงโว ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 50% หลังฉลองยอดขาย Galaxy S2 ประสบความสำเร็จมากกว่า Galaxy S ในปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า ขณะที่สัดส่วนโทรศัพท์เป็นสมาร์ทโฟนแล้ว 30% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว Galaxy S2 สีขาว และ Galaxy R กระตุ้นยอดปลายปี

นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดโทรศัพท์ในขณะนี้ว่า สัดส่วนโทรศัพท์ระหว่างฟีเจอร์โฟน และสมาร์ทโฟน มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

"จะเห็นได้ว่าปลายปีถึงช่วงไตรมาสแรกมาสมาร์ทโฟนมีสัดส่วน อยู่ราว 10-15% เท่านั้น แต่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ขยับขึ้นมาเป็น 20 - 30% และเชื่อว่าสัดส่วนนี้จะขยับเพิ่มขึ้นไปอีกในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ในแง่ของมูลค่าสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนเป็น 50% ของตลาดแล้ว"

ทั้งนี้ ซัมซุงถือเป็นผู้นำในส่วนของผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนจากส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ซึ่งถ้านับเฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มีสัดส่วนสูงถึง 80% ซึ่งมีอัตราเติบโตจากปีที่ผ่านมา 200 -300% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์ จากข้อมูลล่าสุดของซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 40%

นายสิทธิโชค นพชินบุตร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม กล่าวเสริมว่า เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ซัมซุง สามารถมีส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้น เกิดจากการที่มีสินค้าครบทุกไลน์ ตั้งแต่ต่ำกว่า 1,000 บาท ไปจนถึงเกือบ 20,000 บาท

"สินค้าตัวหนึ่งที่ขายดีเลยคือสมาร์ทโฟนอย่าง Galaxy Mini ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุดที่ 4,990 บาท ที่มียอดขายไปแล้ว 2-3 แสนเครื่อง รวมกับซัมซุงเอฟเอ็มที่จำหน่ายในตลาดล่างที่ราคา 500 กว่าบาท ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด"

ล่าสุดเปิดตัว Galaxy S2 รุ่นสีขาว ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ที่สุดของซัมซุงในขณะนี้ ใช้หน่วยประมวลผลดูอัลคอร์ 1.2GHz บางเพียง 8.49 มิลลิเมตรหน้าจอ Super AMOLED Plus ขนาด 4.3 นิ้ว กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ราคา 18,900 บาท

และ Galaxy R ที่เป็นรุ่นทดลองทำตลาดในช่วงราคา 15,900 บาท ซึ่งปรับลดสเปกลงมาให้อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ทำงานบนหน่วยประมวลผล 1 GHz บาง 9.55 มิลลิเมตร หน้าจอ Super Clear LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 2,000 เครื่องเท่านั้น