ริมผนึกเจมาร์ทเปิดชอป "แบล็คเบอร์รี่" วางไทยต้นแบบค้าปลีกสมาร์ทโฟนเอเชีย ชี้ไทยติดท็อป 2 น่าลงทุนสุดในอาเซียน

ริมระบุไทยติดอันดับ 2 ประเทศน่าลงทุนในอาเซียน เดินแผนใหม่เร่งขยายตลาดค้าปลีก ผนึก "เจมาร์ท" เปิด “แบล็กเบอร์รี่ ไลฟ์สไตล์ สโตร์” แห่งแรกในเอเชีย ปูพรมขยายฐานร้านรีเทลสู่ต้นแบบเอเชีย เกาะกระแสการเติบโตคนไทยใช้สมาร์ทโฟนสัดส่วนกว่า 17.2% หวังเห็นปี 58 เพิ่มเป็น 49.6%

นายโรหิเลช ซิงห์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ด้านค้าปลีก ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม กล่าวว่า ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 2 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ริมให้ความสำคัญเข้ามาลงทุนมากที่สุด เหตุจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส แม้จะมีโอเอสอื่นๆ เช่น แอนดรอยด์เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดไปบ้างก็ตาม

โดยข้อมูลจากบริษัท วิจัย เผยว่า ปัจจุบันผู้ใช้สมาร์ทโฟนไทยมีสัดส่วนในตลาดรวมมือถือ17.2% โดยปี 2558 คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 49.6% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใช้มือถือในประเทศ

เขากล่าวถึงกลยุทธ์ และแผนการขยายตลาดค้าปลีกสมาร์ทโฟน และแทบเล็ตแบล็คเบอร์รีว่า มีแผนขยายสาข์สไตล์สไตร์ไปที่อื่นๆ ด้วยโดยกำลังพิจารณาตามความเหมาะสมและทิศทางการเติบโตของตลาดในแต่ละประเทศ ที่มีโครงสร้างต่างกันออกไป

ล่าสุด ร่วมกับ บริษัท เจมาร์ท จำกัด เปิดตัว แบล็กเบอร์รี บาย เจมาร์ท ไลฟ์สไตล์ สไตร์ แห่งแรกในเอเชีย บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน พร้อมหวังว่า จะทำเป็นร้านต้นแบบให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการค้าปลีกในภูมิภาคเอเชีย มีกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันนี้ (29 ก.ย.) พร้อมโปรโมชั่นพิเศษส่วนลดมือถือ 50% ลูกค้า 99 คนแรกที่ซื้อมือถือแบล็คเบอร์รี โดยรุ่นโบลด์ 9900 มีจำกัดเพียง 19 เครื่องเท่านั้น

นอกจากนี้ ตามในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีเปิดให้บริการอยู่ก่อนแล้ว เป็นร้านที่พาร์ทเนอร์ทำกันเอง ต่างกับที่ให้ศูนย์การค้าสยามพารากอน ที่เป็นสาขาแรกและสาขาเดียวที่บริษัทเข้ามาลงทุนด้วยตัวเองและอนุญาตให้เปิด บริการอย่างเป็นทางการในภูมิภาคเอเชีย

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้เจมาร์ทให้ ริมเข้ามาใช้สถานที่ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนซึ่งเคยเปิดร้านโนเกียช็อป มาก่อน แต่ได้ยกเลิกไปเนื่องจากโนเกียเปลี่ยนนโยบายและลดจำนวนคู่ค้าด้านนี้ลง

“ปี นี้ยอดขายสมาร์ทโฟนของเรามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 50% จากปี 2553 ที่มี 30% แยกตามแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดเริ่มจาก ซัมซุง 43% โนเกีย 20% แบล็กเบอร์รี 18% และแอลจี 12% สวนทางจากต้นปีที่โนเกียมียอดขายมากถึง 43% แต่ลดลงไปจากการเติบโตของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก”

อย่าง ไรก็ตาม เฉพาะสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รีแต่ก่อนที่เคยขายได้ไม่ถึง 1 หมื่นเครื่องต่อเดือน 2-3 เดือนที่ผ่านมาขายได้มากกว่า 1 หมื่นเครื่อง และมีแนวโน้มว่าการเติบโตจะดีขึ้น สิ้นปีนี้คาดว่ารายได้รวมทั้งกลุ่มจะมีประมาณ 5 พันล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10%