User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ลุ้น"เอ็มไทย"ฝ่าทุนนอกครองเว็บ
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ลุ้น"เอ็มไทย"ฝ่าทุนนอกครองเว็บ

กระแสการลงทุนของ ต่างชาติ ที่พรอมหอบเงินเข้ามาเทค โอเวอร์ เว็บไทยยังน่าจับตามอง "เอ็มไทย" ในฐานะเว็บไซต์ไทยยืนยันยังไม่มีใครมาเทค โอเวอร์

"ธุรกิจ ออนไลน์เป็นโลกเสรี ทุกคนไม่ว่าจะมาจากไหนย่อมมีโอกาส หากมองแง่เสีย พบว่าเข้ามาบดบังธุรกิจคนไทย ข้อมูลพฤติกรรมรั่วไหลสู่ภายนอกทั้งบนดินและใต้ดินที่ไม่ควรถูกเปิดเผย แต่ข้อดีคือมีเทคโนโลยี เงิน และองค์ความรู้ไหลเข้ามาทำให้วงการเติบโต"

"ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการ การตลาด และธุรกิจ เว็บไซต์ เอ็มไทยดอท คอม ผู้ให้บริการเว็บไซต์เบอร์ 2 ของไทยที่พกความทะเยอทะยานจะไต่ให้ถึงยอดเขาในฐานะเบอร์ 1 วิพากษ์ธุรกิจเว็บไซต์ท่ามกลางสภาวะที่ขบวนพาเหลดทุนต่างชาติหลังไหลเข้ามา ซื้อกิจการเว็บไซต์ไทยแบบไม่ขาดสาย จนทำให้ตลาดเกิดการสั่นสะเทือน

เล็งควบกิจการขยายฐาน
แม้ ว่าจะมีคำตอบของคำถามที่ใครต่างก็ทราบว่า หากต้องการอยู่รอด "จะต้องปรับตัว" ทว่าในเกมของธุรกิจนอกโลกเสมือนจริงเรื่องคงไม่ง่ายขนาดนั้น

นายปฐม พงศ์ มีมุมมองที่น่าสนใจ พร้อมคำตอบที่แสดงจุดยืนของตัวเองชัดเจนแบบไม่เหมือนใคร และคงยากหากใครจะทำได้เหมือนว่า บริษัทมีแผนเพิ่มการเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ต โดยการซื้อกิจการเว็บไซต์อื่นๆ เช่นกัน ด้านแนวทางมองว่าต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีศักยภาพ ช่วยเข้ามาส่งเสริมธุรกิจของบริษัทได้ ไม่ทับสายผลิตภัณฑ์เดิมที่มี และมีความหลากหลายน่าสนใจมากพอ

"เราไม่ได้มาแบบตัวเปล่า ไม่เหมือนทุนต่างชาติที่ไม่มีอะไรมาเลยจึงต้องพยายามซื้อกิจการที่มีฐาน ลูกค้าอยู่เดิมแล้ว ดังนั้นขอบข่ายการพิจารณาจะโฟกัสเฉพาะเว็บที่มีต้นทุน มีโอกาสสร้างกำไร ถ้าล่อแล่จะล้มคงไม่ซื้อเข้ามา"

นอกจากนี้บริษัท มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง การปรับตัวให้เท่าทันกับกระแสโลกไม่ใช่ปัญหา ไม่จำเป็นต้องหวาดระแวงทุนไหลเข้าจากต่างชาติ เพราะใช่ว่าเข้ามาแล้วจะสำเร็จทุกรายไป แค่แข่งขันกับตัวเอง อ่านเกมให้ออก เปิดบริการให้ตรงใจผู้บริโภค ใครทำได้ไวกว่าย่อมได้เปรียบ

รัฐไม่ชัดเจนสะท้อนปัญหา
ผู้บริหารเอ็มไทย วิเคราะห์ว่า ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน จึงไม่แปลกที่คนไทยพากันขายเว็บไซต์ของตัวเอง เพราะมองว่าได้เห็นเงินถุงเงินถังที่แน่นอนดีกว่ารอน้ำบ่อหน้าที่ความชัดเจน ไม่มี

เขามองว่า หากเป็นไปได้รัฐควรเพิ่มให้มีส่วนของการส่งเสริมที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่ควบคุม ไม่ถึงกับต้องมีนโยบายเด็ดขาดเหมือนประเทศจีน แค่ทำบ้างก็ดี จะได้ช่วยอำนวยความความสะดวก และส่งเสริมให้เกิดองค์ความรู้ในประเทศมากขึ้น

พร้อมเสนอว่า เมื่อจำเป็นต้องร่างกฏหมายฉบับใหม่ขึ้นมาเฉพาะ แต่ควรมองกลับไปถึงรากฐาน ความเป็นไปได้ว่าความต้องการการใช้งานที่แท้จริง รวมถึงหัวใจสำคัญอยู่ที่ใด

เขายังประเมินเทรนด์ของตลาดด้วยว่า ปีนี้ได้เห็นการปรับตัวของการขายโฆษณาบนเว็บไซต์มากที่สุด ทั้งยังมีการจับตามองจัดเรทติ้ง ในยุคแห่งการเปลี่ยนโอกาสยังมีอยู่เสมอ ฉะนั้นภายในต้องใจสู้ ช่วยเชียร์ธุรกิจคนไทยด้วยกัน

"เราเองก็มี เข้ามาทาบทามหลายรายเหมือนกันแต่อย่างที่บอก เรามีไดเร็คชั่นชัดเจน ภาวะการเงินแข็งแกร่ง ไม่จำเป็นต้องขายกิจการ ถ้าจะเข้ามาขอเป็นแบบคู่ค่าทางธุรกิจกันจะดีกว่า"

จุดยืนตนเองสำคัญ
ทั้ง นี้แนวโน้มการเติบโตธุรกิจเว็บไซต์จะขึ้นอยู่กับการจัดลำดับความนิยม โมเดลการหารายได้มาจากโฆษณามากกว่าเว็บไซต์ที่เป็นอีคอมเมิร์ซที่ขายสินค้า ตรงๆ

ส่วนของเอ็มไทยได้ เริ่มปรับตัวมาเรื่อยๆ จากที่มีรายได้หลักจากการขายโฆษณา เริ่มเปลี่ยนแนวคิด โดยเพิ่มโมเดลการหารายได้ใหม่ๆ เช่นบริการส่งข้อมูล เพราะโมเดลธุรกิจเดิมที่เป็นคอร์บิสิเนส นานๆ เข้าสิ่งใดที่ได้มาแบบฟรีๆ พอคุณค่ามักถูกมองข้ามไป

"ผู้ที่มีโอกาสอยู่รอดมักเป็นเว็บไซต์ติด อันดับท็อป 20 หากเป็นเว็บขนาดกลางหรือเล็กกว่านั้นโอกาสจะน้อยกว่าต้องใช้บริการสำเร็จรูป ร่วมกับคู่ค้าและจ่ายค่าบริการเป็นรายคลิกเช่นของกูเกิล"

อย่างไรก็ดีขณะนี้รายได้หลักของเอ็มไทยมาจากการขายโฆษณาและธุรกิจให้คำปรึกษา 90% ที่เหลือเป็นอีคอมเมิร์ซ 10% โดยเฉลี่ยแต่ละเดือนมีมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท

ชูออนดีมานด์รุกอีคอมเมิร์ซ

นาย ปฐมพงศ์ เผยว่า ล่าสุด บริษัทแม่เครือ "โมโนกรุ๊ป" อนุมัติงบประมาณหลักหลาย 10 ล้านบาทเปิดบริการดูหนังออนไลน์แบบวีดีโอสตรีมมิ่งรายแรกในประเทศไทย โปรเจ็ค “ดูหนัง.เอ็มไทย(doonumg.mthai.com)” หวังรุกตลาดอีคอมเมิร์ซแบบเต็มรูปแบบ ต่อยอดธุรกิจคอนเทนท์ตามกระแสการเติบโตของตลาดที่มีอัตราก้าวกระโดดทุกปี แบ่งเป็นเงินลงทุนซื้อลิขสิทธิ์หนังจากไทย ต่างประเทศ และการลงทุนขยายระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำต่อเนื่อง

นอกจากนี้ จะใช้จุดแข็งด้วยการนำเสนอภาพยนตร์ชั้นนำคุณภาพระดับไฮเดฟฟินิชั่น ภาพยนตร์อินดี้ที่ไม่เข้ามาฉายในไทย รวมถึงภาพยนตร์แบบเอ็กซ์ครูซีฟ ที่มีจำนวนกว่า 1,500 เรื่อง พร้อมเตรียมเข้าไปเจรจากับคู่ค้าค่ายหนังขนาดใหญ่ฮอลลีวูด พร้อมพัฒนาระบบอัตโนมัติปรับระดับคุณภาพวีดิโอที่ไลฟ์สตรีมให้ผู้ชมสามารถ เข้าชมจากสมาร์ท ดีไวซ์ ทุกที่ และทุกเวลาตลอด ไม่มีจำกัด

เขาระบุ ด้วยว่า หนังกลุ่มแมสวงการฮอลลีวูดจะได้เห็นแน่นอนภายในเดือน 11 - 12 ของปีนี้ บริษัทจะพิจารณาดีลอย่างรอบคอบเพื่อความคุ้มค่าของการลงทุนมากที่สุด

"บริษัท วางแผนไว้ว่าจะใช้งบการตลาดราว 40 ล้านบาทเน้นการทำตลาดแบบออนไลน์เพื่อเปิดตลาดให้เป็นที่รู้จัก และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2555 มีจำนวนสมาชิก 5 แสนราย ทั้งยังหวังด้วยว่าจะสามารถครองเว็บไซต์เบอร์หนึ่งประเทศไทยจากปัจจุบันอยู่ อันดับที่ 2 มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ (ยูนีค ไอพี) 6.5 แสนคนต่อวัน"
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.