User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ยิ่งลักษณ์สั่งอุ้มไทยคม รักษาวงโคจรดาวเทียม
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ยิ่งลักษณ์สั่งอุ้มไทยคม รักษาวงโคจรดาวเทียม

นายกฯสั่งไอซีทีรักษาวงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก ไฟเขียว"ไทยคม"ดำเนินการ จี้ กสทช.ออกหลักเกณฑ์ประกอบกิจการดาวเทียม

นายกฯสั่งไอซีทีรักษาวงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก ไฟเขียว"ไทยคม"ดำเนิน การ หวังให้ไทยบริหารวงโคจรได้ตั้งแต่ 119.5-120.6 องศา จี้ กสทช.ออกหลักเกณฑ์ประกอบกิจการดาวเทียม เผยผลศึกษา กสท พบการรักษาวงโคจรดาวเทียมไม่คุ้มค่าการลงทุน ไทยคมพลิก ยันดาวเทียมที่ใช้รักษาสิทธิ์วงโคจร 120 อยู่นอกสัมปทาน อ้างอายุดาวเทียมเหลือเกินสัมปทานบริษัท ชงไอซีทีหารือ กสทช.ออกไลเซ่นชั่วคราว

นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) รักษาตำแหน่งวงโคจรที่ตำแหน่ง 120 องศาตะวันออกไว้ และมอบหมายให้ไอซีทีไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยึดถือผลประโยชน์ของ ประเทศเป็นหลัก

แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีได้เสนอขอความเห็นชอบ ครม.เกี่ยวกับแนวทางการรักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียม โดยมอบให้บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รักษาวงโคจรดาวเทียม และนำเอกสารข่ายงานดาวเทียมที่ตำแหน่ง 120 องศา ตะวันออกให้ไทยคมไป ใช้งานสำหรับดาวเทียมที่จะจัดหามา ซึ่งไอซีทีจะประสานงานกับคณะกรรมการกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ไทยคม ประกอบกิจการตามหลักเกณฑ์ของ พ.ร.บ.องค์การจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553

ปัจจุบันไทยมีตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมใช้งานจริง 2 ตำแหน่ง คือ 78.5 องศาตะวันออก ของดาวเทียมไทยคม 5 และ 119.5 ตะวันออก ของดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ซึ่งการให้บริการจะสิ้นสุดลงในปี 2564 และไทยยังได้รับการจัดสรรตำแหน่ง 120.6 ตะวันออก จึงทำให้วงโคจรที่ 120 องศาตะวันออกมีความสำคัญที่ควรรักษาไว้ เพราะจะทำให้ไทยบริหารจัดการข่ายดาวเทียม ตั้งแต่วงโคจร 119.5 ถึง 120.6 เพื่อใช้ประโยชน์ในอนาคต โดยไทยสามารถรักษาวงโคจรได้ตามปกติ ซึ่งเมื่อปี 2546 ไทยคมได้รักษาวงโคจรที่ 50.5 องศาตะวันออกไว้ ด้วยการยิงดาวเทียมขึ้นไปรักษาวงโคจรชั่วคราว

ระบุต้องดำเนินการเร่งด่วน
นอกจากนี้ การดำเนินการรักษาวงโคจร ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและประหยัดงบประมาณ จึงควรให้ไทยคมเป็นผู้ดำเนินการรักษาตำแหน่งวงโคจรดาวเทียมที่ตำแหน่ง 50.5 และ 120 องศาตะวันออก

ถ้า มี กสทช.ชุดใหม่และมีหลักเกณฑ์ของการบริหารเครือข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียมเรียบ ร้อยแล้วให้ กสทช.ดำเนินการ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม และถ้าไทยคมดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ไอซีทีจะเร่งรัดกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตการใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการสื่อสารผ่านดาวเทียมของ กสทช.

ไทยคมยื่นข้อเสนอใหม่นอกสัมปทาน
แหล่งข่าวกระทรวงเทคโนโลยีสารสารเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า บมจ.ไทยคม ได้ระบุข้อเสนอใหม่กลับมายังกระทรวงว่า ดาวเทียมที่ไอซีทีให้ไทยคมไป เจรจากับบริษัท เอเชีย แซท ผู้ประกอบการดาวเทียมจากประเทศจีน เพื่อใช้รักษาสิทธิ์ในวงโคจร 120 องศาตะวันออก ถือเป็นดาวเทียมนอกสัญญาสัมปทาน เพราะการที่ไทยคมไป ดำเนินการหาดาวเทียมสำรองมาไว้ในตำแหน่งวงโคจรนี้จะด้วยวิธีลากดาวเทียมในวง โคจรใกล้เคียง หรือขอให้เอเชีย แซทยิงดาวเทียมที่มีอยู่แล้วไปไว้ในวงโคจร 120 องศาเพื่อรักษาสิทธิ์ไปพรางก่อนนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่ไม่คุ้มค่า

เนื่องจากอายุสัมปทานของไทยคม ที่ทำไว้กับไอซีทีเหลืออีก 9 ปีกว่า โดยจะหมดปี 2564 และดาวเทียมหนึ่งดวงมีอายุมากกว่า 15 ปี ดังนั้น ในอายุของสัมปทานที่เหลือกับอายุของดาวเทียมไม่เท่าเทียมกัน อีกทั้ง ไอซีทีก็ไม่มีอำนาจขยายอายุสัมปทานให้แก่ไทยคม เพราะตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่กำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่ากิจการอวกาศและดาวเทียมถือเป็นกิจการที่ใช้คลื่นความ ถี่ จำเป็นต้องเปิดประมูลให้ใบอนุญาต ไม่สามารถให้สิทธิ์ในรูปแบบสัญญาสัมปทานได้

แหล่งข่าว กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดนี้ ไอซีทีต้องเร่งหารือกับคณะกรรมการกสทช.เพื่อขอให้กสทช.ช่วยออกใบอนุญาต (ไลเซ่น) ชั่วคราวให้แก่ไทยคม เพื่อดำเนินการรักษาสิทธิ์วงโคจรในตำแหน่ง 120 องศา แต่หากช่วงสุญญากาศที่ยังไม่มีกรรมการ กสทช. ตัวจริง ก็เชื่อว่ารักษาการกสทช.คงไม่ต้องการพิจารณาเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวอาจทำให้ประเทศเสียสิทธิ์ในวงโคจรนี้ได้

ไอซีทีคาดสรุปไทยคมธ.ค.นี้
น.อ.อนุ ดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่ากระทรวงไอซีที กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (20 ก.ย.) ได้อนุมัติแผนการรักษาสิทธิ์วงโคจรดาวเทียมในตำแหน่ง 120 องศาตะวันออก ตามที่กระทรวงไอซีทีได้เสนอไป อีกทั้ง ยังได้รับฟังแผนการดำเนินการของบมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ระบุว่าไม่สามารถดำเนินการรักษาสิทธิ์วงโคจร ตามที่รัฐบาลชุดก่อนมอบหมายให้ เนื่องจาก กสท แจ้งว่าไม่มีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินการ อีกทั้ง หากนำมาให้บริการเชิงพาณิชย์เกรงจะไม่คุ้มทุน

ขณะที่ ไทยคมรายงาน ความคืบหน้าและกำหนด 3 แนวทางดำเนินการมา คือ 1.หาดาวเทียมของผู้ประกอบการต่างประเทศมาไว้ที่วงโคจรชั่วคราว 2.เจรจากับจีนและฮ่องกงที่ให้บริการวงโคจร 122 องศาตะวันออก ให้มาอยู่ตำแหน่ง 120 ชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไป ไอซีทีจะมอบหมายให้ไทยคม เป็นผู้ดำเนินการหาดาวเทียมมาอยู่ในวงโคจรดังกล่าวตามที่เสนอแนวทางมาให้ เบื้องต้นเชื่อว่า ไอซีทีกับไทยคมจะได้ข้อสรุปการยิงดาวเทียมตำแหน่ง 120 องศาช่วงเดือนธ.ค 2554 หรืออย่างช้าเดือนม.ค.2555 ทันเวลาที่ตำแหน่ง 120 องศาจะหมดอายุ

นอก จากนี้ ครม.ยังให้ไอซีทีไปศึกษาแนวทางการให้บริการดาวเทียมในตำแหน่งดังกล่าวว่านอก จากยิงขึ้นไปจองสิทธิ์ จะสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์หาลูกค้าได้หรือไม่ ซึ่งต้องไปหารือกับ กสทช. และสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) ด้วย เพราะในวงโคจร 120 องศานี้ ไทยยังไม่มีดาวเทียมอยู่เลย หากจะยิงดาวเทียม และให้บริการเชิงพาณิชย์ คลื่นความถี่ที่ให้บริการจะไปกระทบกับตำแหน่งใกล้เคียงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แผนการรักษาสิทธิ์วงโคจรดาวเทียม 120 องศาตะวันออก ตามที่ไทยคมเสนอ มาว่าจะเจรจากับบริษัทเอเชีย แซท ผู้ประกอบดาวเทียมจากประเทศจีน ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป ต้องดูผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก นอกจากนี้ หลังจากยิงดาวเทียมสำรองในตำแหน่ง 120 แล้วคาดว่าปี 2558 ไอซีทีจะพิจารณายิดาวเทียมดวงใหม่ในตำแหน่งนี้ด้วย
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.