User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "ไป่ตู้"ยักษ์ออนไลน์จีนสยายปีกบุกไทย ดอดทาบซื้อ"กระปุกดอทคอม"
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"ไป่ตู้"ยักษ์ออนไลน์จีนสยายปีกบุกไทย ดอดทาบซื้อ"กระปุกดอทคอม"

"ไป่ตู้" เสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่แดนมังกรท้าชน "กูเกิล" ซุ่มเปิดบริการเว็บไซต์ เวอร์ชั่นภาษาไทย พร้อมดอดเจรจาซื้อ "กระปุกดอทคอม" เว็บดังอันดับ2ของไทย จับตาสมรภูมิออนไลน์ไทยเดือด เว็บต่างชาติพาเหรดยึดหัวหาด



แหล่งข่าวในวงการไอที เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ไป่ตู้ (Baidu) เว็บเสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ที่สุดของจีน ตัดสินใจแน่นอนแล้วที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการเว็บไซต์รายใหญ่อันดับ 2 ของไทยอย่าง "กระปุกดอตคอม" ซึ่งคาดว่าจะมีการ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้หรือในช่วงต้นปีหน้า หลังจากที่ไป่ตู้ได้เปิดหน้าเว็บภาษาไทยอย่างเงียบ ๆ นอกจากนี้นักท่องโลกไซเบอร์บางรายพบว่า ทางไป่ตู้เริ่มส่งซอฟต์แวร์เข้ามาดักจับข้อมูลเพื่อสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ในไทยมาระยะหนึ่งแล้ว

พร้อมกันนี้เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ วันที่ 16 กันยายน 2554 นายรอบิน ลี่ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ "ไป่ตู้" ได้ประกาศเป้าหมายที่จะเป็นแบรนด์ระดับโลกและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกภายในทศวรรษนี้ ครอบคลุมประเทศต่าง ๆ มากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และจะเป็นตัวแทนของธุรกิจจีนที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก

พร้อมกับรายงานว่า ไป่ตู้เตรียมจะเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและอียิปต์เร็ว ๆ นี้ ซึ่งเบื้องต้นได้เปิดบริการเป็น web directory บริการค้นหาเว็บไซต์โดยการเชื่อมโยงลิงก์ต่าง ๆ และข้อมูลที่ต้องการเวอร์ชั่นภาษาไทย ผ่านทาง th.hao123.com และกำลังทดลองระบบ zhidao.baidu.co.th หรือ "Baidu เรารู้" บริการถามตอบเวอร์ชั่น ภาษาไทย โดยผู้ใช้งานจะต้องสมัครเป็นสมาชิก เพื่อโพสต์คำถามที่ต้องการตามหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น สุขภาพ ความรัก กีฬา ซึ่งจะมีผู้ใช้งานคนอื่น ๆ เข้ามาตอบ และแชร์ประสบการณ์

ทั้งนี้ไป่ตู้เป็นผู้ให้บริการเสิร์ชภาษาจีนรายใหญ่สุด ก่อตั้งเมื่อปี 2543 ปัจจุบันไป่ตู้ครองส่วนแบ่งการตลาดเสิร์ชในจีนมากกว่า 75% มีผู้ลงทะเบียนใช้งานกว่า 200 ล้านคน โดยไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีรายได้จำนวน 528.4 ดอลลาร์สหรัฐ

ด้านนายปรเมศวร์ มินศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์กระปุกดอตคอม กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีผู้ให้บริการเว็บไซต์จากต่างชาติเข้ามาเจรจาหลายรายเพื่อร่วมมือทางธุรกิจ เนื่องจากกระปุกฯทำธุรกิจเว็บไซต์ประเภทพอร์ทัล ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเว็บไซต์ไทย ด้วยจำนวนผู้ชมวันละประมาณ 6-7 แสนคนต่อวัน โดยหนึ่งในผู้มาเจรจาก็คือ ไป่ตู้ เนื่องจากซีอีโอของไป่ตู้ประกาศนโยบายชัดเจนว่าต้องการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยที่จะมีผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาเพื่อเป็นทางเลือก ใหม่ ๆ ของการใช้งาน

"อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบทางไป่ตู้ ก็คุยกับเว็บไซต์ในไทยอีกหลายราย ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะบอกผลสรุปของเรื่องนี้ ต้องดูรายละเอียดก่อน ความเป็นไปได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคลิกกันหรือไม่ กล่าวคือ นโยบายของ 2 บริษัทต้องเห็นในทางเดียวกัน และไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบของการร่วมทุนอย่างเดียวเสมอ ไป อาจจะมาในรูปแบบของการเป็นคอนเทนต์พาร์ตเนอร์ หรือเซอร์วิสพาร์ตเนอร์กันก็ได้"

อย่างไรก็ดี บริษัทมีนโยบายชัดเจนในการร่วมมือกับต่างประเทศ คือจะไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย เพราะต้องการ บริหารเว็บไซต์เอง ไม่เช่นนั้นจะต้องซื้อกิจการไป 100% เท่านั้น เหตุผลที่กระปุกฯต้องร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติ เนื่องมาจากการแข่งขันของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตในอนาคตที่จะแข่งขันกันรุนแรงขึ้น และมีสเกลใหญ่ขึ้น จำเป็นที่จะต้องมีเงินทุนเพื่อรักษาตลาดเพื่อพัฒนาต่อไปข้างหน้า

นายปรเมศวร์กล่าวต่อว่า ปีนี้มีเว็บไซต์จากต่างชาติเข้ามาคุยกับเว็บไซต์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ด้วยจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 24-25 ล้านคน ขณะที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ประกอบกับธุรกิจในไทยเริ่มมีการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้เว็บต่างประเทศเห็นความคุ้มค่าที่จะเข้ามาลงทุน บวกกับบรรยากาศการเมืองที่มีความนิ่ง นอกจากนี้การเกิดขึ้นของ กสทช.ซึ่งจะทำให้บริการ 3 จีเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญ ประกอบกับการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงขึ้นในราคาที่ถูกลง ล้วนเป็นปัจจัยเอื้อให้ตลาดไทยเติบโตและสร้างความสนใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน

โดยเว็บไซต์ไทยที่ต่างชาติให้ความสนใจมีอยู่ 2 ประเภท คือ เว็บที่มีความนิยมสูง มีเรตติ้งของผู้ใช้งานอยู่ในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย และเว็บที่มีความชัดเจน หรือเฉพาะทางจะมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ

"3 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมจะแข่งขันกันสูงมากกว่านี้ และต้องอาศัยสเกลเพื่อลงทุนต่าง ๆ บางครั้งระดับร้อยล้านพันล้าน และเมื่อตลาดแข่งขันถึงจุดหนึ่ง หากกระปุกฯอยู่นิ่งอาจจะไม่สามารถรักษาตลาดที่มีอยู่ในวันนี้ได้ จึงจำเป็นต้องมีผู้ร่วมทุนเข้ามาสนับสนุน เราจึงต้องเตรียมตัวก่อนที่วันนั้นจะมาถึง"

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา วงการอินเทอร์เน็ตไทยเป็นที่สนใจของต่างชาติมาก เริ่มจากที่บริษัทระคุเท็น อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในญี่ปุ่นซื้อกิจการ "ตลาดดอตคอม" แบบ 100% และเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัทเทนเซนต์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายใหญ่จากจีน ก็เข้าซื้อ 49% ใน "สนุกดอตคอม" เว็บไซต์อันดับหนึ่งของไทย

และที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ คือเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา "กูเกิล" เสิร์ชเอ็นจิ้นเบอร์ 1 ของโลกได้ประกาศเปิดออฟฟิศในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมแต่งตั้งนายอริยะ พนมยงค์ เป็นหัวหน้าฝ่ายขายประจำประเทศไทย พร้อมการสรรหาทีมงานเสริมทัพอีก 20 คน โดยประกาศบุกตลาดในแง่ของการขายและธุรกิจในเมืองไทยแบบเต็มตัว

ขณะที่ต้นปี 2554 พร็อพเพอร์ตี้กูรู เว็บท่าด้านอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ ได้เข้าร่วมทุนกับ "ดีดีพร็อพเพอร์ตี้" เว็บไซต์ซื้อขายบ้านของไทย ตามมาด้วย LivingSocial เว็บประเภท group- buying รายใหญ่ในอเมริกา เข้าซื้อเว็บ "เอ็นโซโก้" (ensogo.com) เว็บจำหน่ายคูปองลดราคาสินค้าที่ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ คือ ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ทำให้มีผู้ใช้งานในเครือข่ายรวมทั้งสิ้น 40 ล้านคน จาก 21 ประเทศ

นอกจากนี้ "4shared.com" เว็บไซต์สำหรับการเก็บไฟล์และแบ่งปันไฟล์ยอดฮิตที่มีผู้ลงทะเบียน 100 ล้านราย ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวในไทย มากขึ้น โดยได้แต่งตั้งบริษัทวิคเตอร์ อินเตอร์แอกทีฟเป็นตัวแทนขายโฆษณารายเดียวในประเทศไทย และเหตุผลที่เข้ามาประเทศไทยก็เพราะว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้งาน 4shared มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยจำนวน ผู้ลงทะเบียนกว่า 10 ล้านราย
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.