User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » อินเทล ชี้ "อัลตร้าบุ๊ก" จะเปลี่ยนแปลงคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

อินเทล ชี้ "อัลตร้าบุ๊ก" จะเปลี่ยนแปลงคอมพิวเตอร์ครั้งใหญ่

"มูลี่ อีเดน" ผู้บริหารของอินเทล เผยว่ารูปแบบการใช้งานอุปกรณ์ประมวลผล กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังมี "อัลตร้าบุ๊ก" ที่ให้การออกแบบหรูหรา ประหยัดพลังงาน แต่สมรรถนะเท่าเดิมในราคาถูกลง และการมาของ อินเทล คอร์ เจนเนอเรชันที่ 3...

นายมูลี่ อีเดน รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี บริษัทอินเทล คอร์ปอเรเชั่น กล่าวในงานอินเทล ดิเวลลอปเปอร์ ฟอรัม ที่เมืองซานฟรานซิสโกว่า นับตั้งแต่สมัยที่อินเทลได้แนะนำเทคโนโลยีเซนทริโนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เรายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีด้านการประมวลผลครั้งไหนที่สำคัญเท่า กับครั้งนี้ ในวันนี้อุปกรณ์ที่เราใช้ อินเทล คอร์ โพรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 (แซนดี้บริดจ์)เป็นตัวประมวลผล กำลังจะทำให้ผู้คนได้พบกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ด้านการประมวลผลชนิดที่พวกเขายังไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และเราจะไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะเรารู้ดีว่าผู้คนต่างมีความต้องการและแสวงหาสิ่งที่มากกว่าจากเครื่อง คอมพิวเตอร์ของพวกเขา อยู่ตลอดเวลาเพื่อการสร้างสรรค์ บริโภค และแบ่งปันข้อมูล นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงท้าทายความสามารถกับตัวเราเอง และกับธุรกิจของเราด้วยการเปิดตัว "อัลตร้าบุ๊ก" ให้เป็นอุปกรณ์ที่ตอบสนองทุกความต้องการ มีความสมบูรณ์แบบ และน่าใช้ที่สุด ทั้งนี้อัลตร้าบุ๊กรุ่นแรก พร้อมออกสู่ตลาดในช่วงวันหยุดปลายปี 2554 นี้ โดยจะเป็นรุ่นที่เป็นอินเทล คอร์ โพรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 และจะมีรูปทรงที่บางเบา สามารถพร้อมใช้เกือบจะทันทีหลังออกจากการพักเครื่องในระดับที่ลึกที่สุด อันเป็นผลจากคุณสมบัติของเทคโนโลยี Intel Rapid Start

รองประธานและ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี บ.อินเทล กล่าวถึงโพรเซสเซอร์ในตระกูล แซนดี้บริดจ์ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีนี้ว่า ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ทั้งหมดในการรับชมภาพ ซึ่งเป็นผลจากสมรรถนะที่ดีขึ้นของกราฟิกที่อยู่ในโพรเซสเซอร์ โดยจนถึงปัจจุบัน อินเทลได้มีการจำหน่ายโพรเซสเซอร์ตระกูลแซนดี้บริดจ์ไปแล้วกว่า 75 ล้านตัว นับเป็นโพรเซสเซอร์ของอินเทลที่มีสถิติการจำหน่ายที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่ เคยมีมา นอกจากนี้ ยังตอกย้ำให้เห็นถึงความต้องการของตลาดทั่วโลก ที่ยังมีอยู่สูงมากต่ออุปกรณ์ด้านการประมวลผล ประมาณได้จากยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งล้านเครื่องต่อวัน โดยมีตลาดในแถบประเทศที่กำลังขยายตัวเป็นผู้นำการเติบโตนี้

ในงานไอ ดีเอฟอีเดนยังเปิดโอกาสให้ ไมโครซอฟท์ ได้แสดงระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 8 ที่ทำงานและรองรับได้หลากหลายแอพลิเคชันสำหรับอัลตร้าบุ๊ก โดยทั้งอินเทลและไมโครซอฟท์ได้พูดถึงการร่วมงานกันของทั้งสองบริษัท และชี้ให้เห็นถึงโอกาสในอนาคตที่วินโดวส์ 8 จะเข้ามามีบทบาทในอุปกรณ์หลายชนิด ทั้งแท็บเบล็ต อุปกรณ์ไฮบริด และอัลตร้าบุ๊ก


นายอีเดน กล่าวถึง “ธันเดอร์โบลท์” (Thunderbolt) ว่า เป็นเทคโนโลยี ดูอัล โปรโตคอล I/O ใหม่และมีความเร็วสูง ได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติพิเศษด้านประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและคล่องตัว ธันเดอร์โบลท์ มีสมรรถนะที่ช่วยให้อุปกรณ์บันทึกและจัดเก็บสื่อข้อมูลต่างๆ ทำงานด้วยความเร็วสูง และแสดงผลบนอุปกรณ์ทั้งหลายที่เชื่อมต่อกันโดยผ่านสายเคเบิ้ลขนาดเล็กเพียง เส้นเดียว อีเดนยังได้ถือโอกาสนี้โชว์อุปกรณ์ต้นแบบที่ใช้เทคโนโลยี ธันเดอร์โบลท์ และระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 ด้วย

รอง ประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี บ.อินเทล ได้สาธิตให้แก่ผู้เข้าร่วมการประชุมไอดีเอฟได้ชมถึงประสิทธิภาพของ โปรเซสเซอร์ในตระกูล อินเทล คอร์ โพรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ที่มีชื่อรหัสว่า “ไอวี่ บริดจ์” (Ivy Bridge) ที่มีสมรรถนะด้านประสิทธิภาพและการประหยัดไฟ เพื่อใช้กับอัลตร้าบุ๊ก รุ่นถัดไป ซึ่งคาดว่าจะวางจำหน่ายในครึ่งปีแรกของปี 2555 นอกจากนี้อินเทลยังได้ออกแบบกราฟิกในตัวโพรเซสเซอร์ใหม่อีกครั้ง เพื่อเปิดประสบการณ์ในการรับชมวิดีโอและการเล่นเกมส์ที่ดียิ่งขึ้น อีเดนยังได้นำรูปการออกแบบตัวอย่างของอัลตร้าบุ๊ก จำนวน 6 แบบ ที่เป็นรุ่นที่ใช้ อินเทล คอร์ โพรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 โดยอีเดนคาดว่าจะมีอุปกรณ์ดังกล่าวออกสู่ตลาดโลกอีกหลายดีไซน์ในปี 2555 นี้


ทั้ง นี้ เพื่อให้ผู้บริโภคใช้อัลตร้าบุ๊กได้อย่างมั่นใจและสบายใจ อินเทลจึงเพิ่มคุณสมบัติพิเศษในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัย อาทิเช่น เทคโนโลยี Intel Identity Protection และ Intel Anti-Theft เพื่อป้องการการโจรกรรมข้อมูลจากเครื่อง และเพื่อเป็นการต่อยอดคุณสมบัติของระบบความปลอดภัยที่มีอยู่เดิม ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อินเทลได้ร่วมมือกับแมคอาฟี พัฒนาบริการ McAfee anti-theft สำหรับอัลตร้าบุ๊ก ที่สามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์รุ่นถัดไปของทั้งอัลตร้าบุ๊ก โน้ตบุ๊ก และเดสก์ท้อป ทั้งนี้ในปี 2555 โซลูชั่นแมคอาฟีจะเป็นโซลูชั่นแรกที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆที่ อยู่ในตัวชิปของอินเทล และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรักษาข้อมูลในตัวอุปกรณ์ให้กับผู้บริโภค เช่น การล็อคอุปกรณ์ การลบข้อมูล และ การค้นหาตำแหน่ง เป็นต้น

นอก จากนี้ เพื่อเป็นการท้าท้ายอุตสาหกรรมด้านการประมวลผลให้หันมาทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บางเบาและสมบูรณ์ที่สุด อีเดนจึงได้กล่าวถึงองค์ประกอบต่างๆ ของเทคโนโลยี เช่น แผงควบคุม คียบอร์ด เทคโนโลยีแบตเตอร์รี่ รวมถึงแชสซีที่จำเป็นต้องมีการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์ของอินเทลที่มีต่ออัลตร้าบุ๊ก และในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม อินเทลยังได้สาธิตให้เห็นถึงเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานของแล็บท้อปรุ่น ใหม่ ซึ่งสามารถควบคุมการรีเฟรชหน้าจอในระหว่างที่เปิดหน้าจอของอัลตร้าบุ๊กค้าง ไว้ได้ เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยบริษัท LG Display ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตจอแสดงผล จะเป็นบริษัทแรกๆ ที่จะนำจอแสดงผล ประหยัดพลังงาน เพื่อใช้กับจอแสดงผลที่สามารถรีเฟรชเองได้โดยอัติโนมัติ เข้าสู่ตลาดเพื่อรองรับอัลตร้าบุ๊ก โดยใช้ Shuriken Technology ที่ได้รับการออกแบบมาให้บางขึ้น เล็กขึ้น และประหยัดไฟมากขึ้น


วิสัย ทัศน์ของอัลตร้าบุ๊กนั้นเป็นแผนระยะยาว และเป็นความพยายามในระดับอุตสาหกรรมโดยแบ่งการพัฒนาออกเป็นสามระยะ อีเดนกล่าวว่า ระยะที่หนึ่งนั้นเป็นการเปิดตัวอัลตร้าบุ๊กรุ่นแรกซึ่งขณะนี้เป็นไปตาม แผนที่วางไว้ และสามารถจำหน่ายได้ตั้งแต่ช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้เป็นต้นไป ในขณะที่ระยะที่สองจะเริ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวของ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ภายในครึ่งแรกของปี 2555

ส่วนในระยะสุดท้ายนั้น จะเป็นการเปิดตัวชิป “แฮสเวลล์” (Haswell) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 22 นาโนเมตร เพื่อตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงจากการใช้คอมพิวเตอร์แบบเดิมมาสู่อัลตร้าบุ๊ก โดยในงานไอดีไฟครั้งนี้ อีเดนก็ได้สาธิตการใช้งาน “แฮสเวลล์” ที่สามารถรองรับการทำงานของแอพลิเคชันหลากหลายชนิดได้ในเวลาเดียวกัน อินเทลเชื่อมั่นว่าอุปกรณ์ที่จะนำขุมพลังงานจากชิปในตระกูลถัดไปมาใช้ จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยคุณสมบัติด้านประหยัดพลังงานจากตัวโพรเซสเซอร์ ที่จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ สามารถแสตนด์บายได้นานกว่า 10 วัน และทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจสูงสุดกับประสบการณ์ในการประมวลผลที่สมบูรณ์แบบที่ สุด
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.