User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » กูเกิลอ่วมขายคูปองไม่รุ่ง
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

กูเกิลอ่วมขายคูปองไม่รุ่ง

ความพยายามเสนอตัวเป็นทางเลือกในอุตสาหกรรมดีลส่วนลดรายวันหรือ daily deal ของกูเกิล (Google) ดูเหมือนว่าจะไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะผู้นำในตลาดขายคูปองส่วนลดออนไลน์อย่าง Groupon และ LivingSocial นั้นยังคงสามารถขยายฐานตลาดได้มั่นคง ต่างจากบริการ Google Offers บริการของกูเกิลที่มียอดขายเดือนล่าสุดน้อยลงมากกว่า 20%

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดค้าดีลรายวัน Yipit ระบุว่าหลังจาก เปิดให้บริการมานานกว่า 3 เดือน ปรากฏว่าบริการคูปองส่วนลดออนไลน์ของกูเกิล Google Offers นั้นมีส่วนแบ่งตลาดน้อยลงต่อเนื่องในพื้นที่สำคัญอย่างนิวยอร์ก พอร์ตแลนด์ และโอเรกอน โดยรายรับรวมของ Google Offers ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นลดลงจากเดือนกรกฎาคมถึง 23% สวนทางกับจำนวนดีลซึ่งกูเกิลสามารถเสนอได้เพิ่มขึ้นถึง 22%

จุดนี้มีการวิเคราะห์ว่า รายได้ต่อดีลของกูเกิลนั้นลดลงถึง 37% เนื่องจากปริมาณการขายคูปองของกูเกิลต่อดีลนั้นลดลงถึง 46%

อุตสาหกรรมดีลรายวันออนไลน์นั้นกำลังมาแรงตามทิศทางความนิยม ของบริการเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เม็ดเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐสะพัดทั่วอุตสาหกรรมดีลรายวันนับตั้งแต่ บริษัท Groupon เริ่มให้บริการส่วนลดออนไลน์ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2008 หลักการให้บริการคือการเปิดให้ชาวออนไลน์รวมตัวกันซื้อสินค้าและบริการใน ราคาพิเศษผ่านเว็บไซต์ ทำให้บริการลักษณะนี้ถูกเรียกสั้นๆว่าเป็นบริการขายคูปองส่วนลดออนไลน์

เจ้าของกิจการทั้งร้านอาหาร โรงแรม หรือสปา สามารถประชาสัมพันธ์ร้านค้าในวงกว้างผ่านเครือข่ายสังคม ทำให้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของธุรกิจลักษณะนี้คือ Social Commerce เพราะชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กคือเรี่ยวแรงสำคัญในการบอกต่อและเผยแพร่จนทำให้มี การซื้อขายดีลแบบเป็นหมู่คณะ ร้านค้าจึงสามารถดึงคนออนไลน์เข้าไปใช้บริการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขณะที่ผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่าปกติ และผู้ให้บริการเว็บไซต์ขายดีลก็จะได้รับส่วนแบ่งจากการขายส่วนลด

กูเกิลเป็นหนึ่งในหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ที่พยายามเสนอตัวเป็นคู่แข่งใน ธุรกิจนี้ โดยเริ่มให้บริการ Google Offers ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ค้นหาส่วนลดร้านค้าแบบอิงสถานที่ในสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน จุดนี้การประเมินเบื้องต้นพบว่าภาพรวมราคาเฉลี่ยของบัตรกำนัลใน Google Offers นั้นเพิ่มขึ้น 18% ในขณะนี้ ซึ่งยังห่างจากราคาเฉลี่ยของ Groupon และ LivingSocial อยู่มาก

การสำรวจพบว่าเจ้าตลาด ค้าดีลอเมริกันอย่าง Groupon นั้นมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม มีรายรับรวมกว่า 120.7 ล้านเหรียญสหรัฐในพื้นที่อเมริกาเหนือ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 13% จากเดือนกรกฎาคม ขณะที่ LivingSocial นั้นมีรายรับจากอเมริกาเหนือลดลง 3% คิดเป็นมูลค่ารวมราว 45.1 ล้านเหรียญ ในเดือนสิงหาคมเท่านั้น

ในประเด็นส่วนแบ่งตลาด Groupon สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้เกินครึ่ง 53% ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นจาก 51% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ LivingSocial มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 20% จากที่เคยมี 22%

อย่างไรก็ตาม หลายเสียงเชื่อว่ากูเกิลยังต้องการเวลากู้สถานการณ์ในศึกค้าดีลครั้งนี้ เพราะกูเกิลเพิ่งเข้าซื้อกิจการบริษัท Dealmap ผู้ให้บริการเว็บไซต์รวบรวมดีลส่วนลดจากเว็บไซต์อื่นนับร้อยแห่งในรูปแผนที่ ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การซื้อ Dealmap จะช่วยให้กูเกิลเสริมความแข็งแกร่งบริการ Google Offers ได้ในอนาคตเพราะช่องทางการเข้าถึงเว็บไซต์ทั้งจากหน้าเว็บปกติและแอปพลิเค ชันในอุปกรณ์พกพา บนจำนวนผู้ใช้บริการที่มีอยู่มากกว่า 2 ล้านรายในขณะนี้

ที่สำคัญ กูเกิลไม่อาจยอมแพ้ จากธุรกิจค้าดีลไปอย่างง่ายดาย ไม่ใช่เพราะธุรกิจจำหน่ายคูปองจะสามารถทำเงินให้กูเกิลได้มหาศาล แต่เป็นเพราะธุรกิจนี้จะทำให้กูเกิลสามารถเข้าถึงตลาดโฆษณาในท้องถิ่นได้ดี กว่าเดิม แน่นอนว่ากูเกิลรู้ดีถึงเรื่องนี้ และพยายามหาทางรุกตลาดตั้งแต่ปี 2010 จนมีข่าวว่า กูเกิลเสนอเงิน 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อกิจการ Groupon ตัวเลขนี้ถือเป็นสถิติคำเสนอซื้อกิจการที่สูงที่สุดของกูเกิล แต่กรรมการบริหาร Groupon ปฏิเสธข้อเสนอเพราะเชื่อว่าตัวเองจะสามารถขยายบริษัทด้วยตัวเองได้แบบ เฟซบุ๊ก ที่ปฏิเสธข้อเสนอซื้อบริษัทหลายพันล้านเหรียญเช่นกัน

Groupon เป็นบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2008 สถิติรายรับรวมคือมากกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2010 ฐานสมาชิกปี 2010 คือ 13 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25 ล้านคนได้ในปี 2011

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ท้าชิงรายอื่นในอุตสาหกรรมดีลราย วัน เมื่อเดือนสิงหาคม เฟซบุ๊กประกาศถอดใจและหยุดให้บริการดีลรายวันไป สวนทางกับบริการ Amazon Local ซึ่งการสำรวจล่าสุดพบว่ายังไปได้ดีบนรายได้รวมที่คาดว่าจะมีมูลค่าราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.