แซส ส่งโซลูชั่นการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามระเบียบ (GRC) ล่าสุด เพิ่มความสามารถผู้ตรวจสอบและเจ้าหน้าที่ดูแลด้านกฎระเบียบ ชูเด่นที่ทำงานได้หลากหลายแต่ใช้เวลาน้อยลง..

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทแซส ซอฟท์แวร์ ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามระเบียน (GRC) ล่าสุดที่งาน SAS Global Forum เป็นงานประชุมที่มีผู้ใช้โซลูชั่นแซสเข้าร่วมมากที่สุดในโลก โดยภายในงานมีผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ใช้ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นของแซสทางด้านไอที และทางธุรกิจมากกว่า 3,500 ราย สำหรับการสร้างความเชื่อมั่นขององค์กรผ่านความร่วมมืออาจไม่ใช่เรื่องง่าย นัก เนื่องจากความต้องการด้านการปฎิบัติตามข้อบังคับและกฎระเบียบ ด้วยแพลตฟอร์มที่ต้องผสานรวมกัน ในด้านการติดตามตรวจสอบความเสี่ยง และระดับการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง จากที่กล่าวมาทำให้ SAS Enterprise GRC เวอร์ชันล่าสุด สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลด้านกฎระเบียบ ที่มีภารกิจมากมายสามารถทำงานได้มากขึ้น ในขณะที่ใช้เวลาน้อยลง อีกทั้งยังคลายความกังวลให้กับผู้บริหารและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความรุนแรงของกฎระเบียบและการบังคับใช้

แซส ซอฟท์แวร์ จึงได้เพิ่มประสิทธิภาพฟังก์ชันการทำงานหลายอย่าง ด้วยการจัดเก็บในด้านนโยบายขององค์กร ระบบการตรวจสอบ ณ จุดเดียวที่รวดเร็วขึ้น และให้มุมมองโปรแกรม GRC ไว้อย่างครอบคลุม จากรายงานของฟอร์เรสเตอร์ คาดการณ์ไว้ว่า “ในอีก 12 เดือนข้างหน้า....ระบบธุรกิจอัจฉริยะและการกำกับดูแลข้อมูลจะเป็นปัจจัยที่ มีความสำคัญมากขึ้นต่อการตัดสินใจด้าน GRC (การกำกับดูแล การบริหารจัดการความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ (Governance, Risk and Compliance)) ด้วยกรอบการทำงานสำหรับการประสานงานและเทคโนโลยี การเพิ่มมูลค่าของ GRC นั้นมาจากความสามารถในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในองค์กรได้อย่างครอบ คลุม”

ด้วยสถาปัตยกรรมแบบผสานรวม มีความยืดหยุ่นสูง และเหนือกว่า ของแซส ซอฟท์แวร์ ในตลาดด้านการวิเคราะห์ GRC ยังคงเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการข้อมูลในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ความสามารถด้านการบริหารนโยบายที่ปรับปรุงใหม่ ประกอบด้วย กำหนดค่าขั้นตอนในการทำงาน การช่วยให้ผู้ใช้สร้างและดูแลรักษาที่จัดเก็บนโยบายสำหรับองค์กรไว้ที่เดียว การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ทั้งหมดจะทันสมัยอย่างอัตโนมัติ ทำให้พนักงานประหยัดเวลา โดยก่อนหน้านี้ต้องเสียเวลาไปกับการศึกษาค้นคว้ากฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงและ ผลกระทบจากกฎระเบียบนั้นๆ ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลด้านกฎระเบียบจึงสามารถทุ่มเทเวลาให้กับการ ให้คำปรึกษา เช่น การปรับปรุงด้านการฝึกอบรมและกระบวนการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นได้

การเป็นระบบเดียวสำหรับการวางแผน และการรายงานเกี่ยวกับการตรวจสอบ จะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในด้านการรวมไฟล์ และแหล่งข้อมูลได้อย่างมาก ความสามารถด้านการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมจะทำให้ การทดสอบข้อมูลที่แตกต่างกันสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้ตรวจสอบสามารถสร้างโครงการพร้อมๆ กับออนไลน์เพื่อจัดการปัญหาและวางแผนโดยใช้ความสามารถที่มีประสิทธิภาพเพิ่ม ขึ้น เช่น การแจ้งเรื่องงานให้ทราบโดยอัตโนมัติ และการตอบสนอง ณ เวลาจริงเพียงคลิกเมาส์เพียงครั้งเดียวก็จะได้รับมุมมองที่ครอบคลุม 360 องศาสำหรับโปรแกรม GRC สำหรับองค์กร รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่างๆ อาทิ ความเสี่ยง วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ การควบคุม ประเด็นปัญหาต่างๆ เหตุการณ์วินาศภัย แผนปฏิบัติการ สัญญา และนโยบายต่างๆ โดยการแสดงผลในลักษณะนี้จะช่วยประหยัดเวลาในการติดตาม และอธิบายการเชื่อมโยง ที่สำคัญซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงาน โอกาสเสี่ยง และความสามารถในการควบคุมภายในได้โดยตรง

ด้วย ฟังก์ชันที่มีความสามารถในการแจ้งให้ผู้บริหารและสมาชิกกรรมการบริหารทราบ ถึงสถานะปัจจุบันของธุรกิจและแสดงให้เห็นวิธีการควบคุมธุรกิจทีละขั้นตอน อย่างง่ายดาย ช่วยสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพและเอื้อต่อการติดตามตรวจ สอบในเชิงรุก องค์กรชั้นนำหลายแห่งเลือกใช้ SAS Enterprise GRC เพื่อให้สามารถเข้าใจได้ถึงโอกาสและความเสี่ยงขององค์กรได้อย่างครอบคลุมและ สมบูรณ์ รวมถึงบริษัท แวตเทนฟอลล์ (Vattenfall) ผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าของยุโรป และเป็นผู้ผลิตเครื่องกำเนิดความร้อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

นายแดน แมนส์ฟิลด์ ผู้จัดการด้านความเสี่ยงของบริษัท แวตเทนฟอลล์ กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการดำเนินงานเท่านั้น เมื่อพูดถึงการจัดการความเสี่ยงขององค์กร หมายถึงทุกแง่มุม นอกจากความเสี่ยงด้านการดำเนินงานแล้ว ยังรวมถึงความเสี่ยงด้านนโยบาย ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และความเสี่ยงของตลาด เราต้องการรวมทั้งหมดนี้มาไว้ ณ ที่เดียวกัน เรามีส่วนงานและแผนกต่างๆ มากมายภายในองค์กรที่จะได้รับประโยชน์จากโซลูชั่นนี้ และเราต้องการแพลตฟอร์มที่สามารถปรับขยายได้ตามส่วนงานของ บริษัท เช่น ความเสี่ยงด้านการจัดการวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นและความเสี่ยงด้านสิ่ง แวดล้อม บริษัทแวตเทนฟอลล์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการปรับใช้โซลูชันแซส เพื่อจัดการความเสี่ยงทางการเงิน และกำลังขยายไปสู่ส่วนงานอื่นๆ ด้วยนั้น ในปัจจุบันสามารถดำเนินการตรวจวัดความเสี่ยงได้ประมาณ 1,000 รายการภายในระบบที่มีผู้ใช้ประมาณ 200 คน

ผจก.ด้านความเสี่ยงของ บริษัท แวตเทนฟอลล์ กล่าวต่อว่า บริษัท ไม่มีระบบในการส่งต่องานหรือการมอบหมายหน้าที่ให้กับผู้ใช้หรือบทบาทต่างๆ ในระบบ และนั่นคือ จุดแข็งอย่างที่สุดของโซลูชั่นแซส ซึ่งช่วยให้เรามีมุมมองเกี่ยวกับฐานข้อมูลความเสี่ยงทั้งหมดในจุดเดียวได้ดี ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แซส ยังมีความแข็งแกร่งในด้านการจัดทำรายงาน และเรามองเห็นศักยภาพอย่างมหาศาลในการจัดเตรียมการจัดการด้วยรายงานที่ สามารถดำเนินการค้นหาข้อมูลที่มีรายละเอียดเชิงลึกได้ในหลากหลายระดับ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจในลักษณะการดำเนินงานที่บริษัทหรือหน่วยงานในองค์กร กำลังเป็นอยู่

ด้วยความมุ่งมั่นของบริษัทแซสที่มีต่อตลาด GRC บริษัทได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสภาเทคโนโลยี Open Compliance and Ethics Group (OCEG) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนาโครงสร้างและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ พื้นที่ในส่วนต่างๆ ที่หลากหลายของ GRC และในสภาเทคโนโลยี OCEG ขณะนี้ บริษัท แซส ได้เข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารสูงสุด ซึ่งจะมีหน้าที่ในการระบุตำแหน่งของปัญหาที่สำคัญ ปรับปรุงโมเดลความสามารถหลักของ GRC และขับเคลื่อนการพัฒนาข้อบังคับ GRC อย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือกับ OCEG จะช่วยให้บริษัท แซส สามารถนำมุมมองของลูกค้าทั่วโลกเข้าสู่กระบวนการ OCEG และสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวในการนำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อสนับสนุนและปรับ ปรุงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ GRC ที่ดียิ่งขึ้นได้

ด้าน นางแครอล สวิตเซอร์ ประธาน OCEG กล่าวว่า เราตื่นเต้นอย่างมากที่บริษัท แซส ได้เข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารสูงสุดของเรา สมาชิกในสภาเทคโนโลยี กำลังรอที่จะนำเอาความเชี่ยวชาญที่แซสนำมาให้มาใช้สนับสนุนการทำงานของ OCEG โดยเราต้องการส่งเสริมให้สมาชิกของเราก้าวไปข้างหน้าโดยอาศัยการวิเคราะห์ ที่แข็งแกร่งในส่วน GRC และด้วยความรู้ตลอดจนโซลูชั่นที่บริษัท แซส นำมาให้แก่ชุมชน GRC ก็จะสนับสนุนภารกิจโดยรวมของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจ และผลักดันให้เกิดสิ่งที่ชาว OCEG เรียกว่า ‘ประสิทธิภาพอย่างมีหลักศีลธรรม’ ('principled performance) ให้สำเร็จได้

ขณะ ที่ นายคลาร์ค อับราฮัมส์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ Enterprise GRC บริษัท แซส กล่าวว่า บริษัทแซส รุดหน้าอย่างรวดเร็วในด้านการตอบสนองความต้องการของตลาด GRC ที่สำคัญ ด้วยการนำเสนอการตรวจสอบความเสี่ยงและใช้ข้อมูลเป็นตัวช่วยสนับสนุนที่สำคัญ พร้อมด้วยการติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพขององค์กรและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ อย่างต่อเนื่องผ่านการวิเคราะห์ทางธุรกิจและการจัดทำรายงานแบบโต้ตอบที่มี ประสิทธิภาพสูง

ส่วน นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย แซสได้นำเสนอโซลูชั่น GRC ให้ กับองค์กรธุรกิจต่างๆ และองค์กรธุรกิจเหล่านี้ กำลังให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆมีความจำเป็นต่อการดำเนิน ธุรกิจ ซึ่ง GRC โซลูชั่นของ แซส สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้องค์กรและลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้