ทีโอที เปิดตัวบริการคลาวด์แอพพลิเคชั่น ประเดิมก่อน 3 ระบบ หวังต่อยอดธุรกิจไอดีซี ตั้งเป้าปีแรกชิงส่วนแบ่งในตลาดคลาวด์แอพพลิเคชั่น 5% ของตลาดรวม 480 ล้านบาท เล็งเปิดไอพีทีวีเพื่อการศึกษาผ่านโลกออนไลน์ปลายปีนี้ เตรียมแอพฯ รองรับนโยบายแท็บเล็ต...

วันที่ 13 ก.ย. นางสาวจันทนา เตชะศิรินุกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวโน้มตลาดในประเทศไทย และทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนการทำงานไปใช้ระบบบริหารจัดการออนไลน์กันมากขึ้น ทีโอที จึงเปิดตัวบริการ CloudApps powered by TOT โดยเป็นระบบบริหารจัดการออนไลน์ เพื่อมารองรับกระแสคลาวด์ที่เกิดขึ้น ในระยะแรกเตรียม 3 แอพพลิเคชั่น ได้แก่ 1.ระบบบริหารบัญชีออนไลน์ (Accounting) 2.ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์ออนไลน์ (CRM) และ 3.ระบบบริหารทรัพยากรบุคคลออนไลน์ (HRM) โดยมีค่าบริการ 990 800 และ 125 บาท/เดือน/1 ผู้ใช้งาน ตามลำดับ

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงาน การตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีโอที กล่าวต่อว่า ขณะนี้ มูลค่าตลาดคลาวด์แอพพลิเคชั่นในประเทศไทยมีประมาณ 480 ล้านบาท โดยบริการซอฟต์แวร์ระบบออนไลน์ (SaaS: Software as a Service) จะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 270 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าภายใน 3 ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า ขณะที่ตลาดรวมคลาวด์ทั้งหมดมีมูลค่าสูงหลายพันล้านบาท

“ระยะแรกจะ เปิดตัว 3 แอพพลิเคชั่นก่อน โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งในตลาดคลาวด์แอพพลิเคชั่น 5% จากมูลค่ารวมทั้งหมด 480 ล้านบาทในประเทศไทย ในปีแรก และในปี 55 หรือปีหน้านี้ จะเพิ่มขึ้น 10-15% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่นที่จะเปิดตัวในอนาคตด้วย” นางสาวจันทนา

สำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นคลาวด์ของทีโอทีไม่ได้ใช้ งบลงทุน แต่เน้นการหาพันธมิตรร่วมกันพัฒนาแอพพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทคนไทย หรือบริษัทข้ามชาติก็ตาม อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในการทำตลาดธุรกิจดังกล่าวนั้นถือเป็นการต่อยอดธุรกิจผู้ให้บริการดา ต้าเซ็นเตอร์ หรือ ไอดีซี โดยจะเน้นทำตลาดกับฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่ในธุรกิจไอดีซี และในกลุ่มธุรกิจอื่นๆในกลุ่ม เอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมของทีโอที

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีโอที กล่าวด้วยว่า ในปลายปี 54 นี้ทีโอทีจะเปิดตัว ไอพีทีวี (Internet Protocol Television) ซึ่งเป็นการดูโทรทัศน์บนระบบอินเทอร์เน็ตในการส่งผ่านข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ ทำให้สามารถดูผ่านอุปกรณ์ไอที อาทิ เช่น แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งนี้ เป็นระบบที่แตกต่างจากเดิมที่มีการเผยแพร่สัญญาณผ่านทางสายอากาศหรือ ผ่านทางเคเบิลเท่านั้นทำให้มีข้อจำกัดในการเข้าถึง

สำหรับ การพัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าว มาใช้กับโครงการแจกแท็บเล็ตตามนโยบายของรัฐบาลนั้น นางสาวจันทนา กล่าวว่า ขณะนี้ ทีโอที ยังไม่มีการพัฒนาแอพฯ ตัวใหม่ขึ้นมารองรับนโยบายดังกล่าว แต่ได้บูรณาการในภาคไอที ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อรองรับนโยบายแล้ว