ไอซีทีจับ มือภาคเอกชนหนุนสร้างนักพัฒนาแอพฯ บนมือถือ เสริมแกร่งศักยภาพอุตสาหกรรมไอที ผลักดันเป็นนโยบายเร่งด่วน วางยุทธศาสตร์สำคัญจัดเวิร์คช้อปภายใต้โครงการ "ซีเอซี โค้ด แคมป์" หวังปั้นบุคลากรด้านซอฟต์แวร์เต็มรูปแบบ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า นโยบายที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ จะเน้นการรับมือการแข่งขันเพื่อเดินไปสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 แผนหลัก คือ ส่งเสริมพัฒนาอุตสหากรรมไอที ซอฟต์แวร์ของประเทศให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค โดยหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารในอนาคต

จากการสำรวจมูลค่าตลาดไอซีทีปี 53 ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า พบว่า มีมูลค่ากว่า 6.7 แสนล้านบาท ตลาดคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์มีมูลค่าเพียง 11.91% ของตลาดรวม คิดเป็น 7.2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก ไอซีทีจึงต้องเร่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรไอซีทีไทย ให้มากขึ้น ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และบริการ โดยวางแผนพัฒนาทักษะระดับการพัฒนาโปรแกรม และแอพพลิเคชั่นที่ใช้บนโทรศัพท์มือถือให้มากขึ้น เพราะเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยม

"เราต้องจับกระแสของอุตสาหกรรมว่าเทรนด์ไปทางไหน เมื่อในไทยตลาดมือถือสมาร์ทโฟนกำลังเป็นที่นิยม ไอซีทีจึงเป็นตัวกลางในการร่วมกับภาครัฐ เอกชน และผู้ผลิตซอฟต์แวร์ หาแนวทางฝึกทักษะนักพัฒนาแอพฯ และโปรแกรมเมอร์" รมว.ไอซีที กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงไอซีทีได้ ร่วมกับสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สาขาซอฟต์แวร์ โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุม อุทยานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย (ทีซีอีพี) และบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ดำเนินการโครงสร้างนักพัฒนาโปรแกรมมือถือ หรือ "ซีเอเอส โค้ด แคมป์" เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านซอฟต์แวร์ให้มีความรู้ทักษะ เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นสร้างนวัตกรรมซอฟต์แวร์

การฝึกจัดอบรมมี 6 หลักสูตร คือ หลักสูตรนักพัฒนาโปรมแกรมบนไอโฟน ไอแพด หลักสูตรนักพัฒนาโปรแกรมบนแอนดรอยด์ หลักสูตรนักพัฒนาโปรแกรมบนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติไมโครซอฟท์ โฟน หลักสูตรนักพัฒนาโปรแกรมเกมด้วยไมโครซอฟท์ เอ็กซ์เอ็นเอ หลักสูตรนักพัฒนาโปรแกรมระดับองค์กรด้วยไมโครซอฟท์ วิช่วล สตูดิโอ และหลักสูตรนักพัฒนาโปรแกรม ไมโครซอฟท์ แชร์ พอยท์

นายสุชาย ธนวเสถียร ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สาชาซอฟต์แวร์ กล่าวว่า ภาพรวมเรื่องพัฒนาซอฟต์แวร์นั้น ไทยต้องการโปรแกรมเมอร์จำนวนไม่ต่ำว่า 1.6 แสนคน จึงต้องเกิดความร่วมมือของไอซีทีและภาคเอกชน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้