แทบ เล็ตพีซี ในตลาดเมืองไทย มีหลายค่ายที่ออกผลิตภัณฑ์ ภายใต้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มุ่งเน้นใช้งานดาต้า เล่นเกม, เล่น Facebook กระนั้นแท็บเลต พีซี แอนดรอยด์ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ในบางกลุ่ม ที่ติดกับคีย์บอร์ด ติดกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เหมือนอย่างที่เคยใช้โน้ตบุ๊กนั่งทำงาน หรือถือเน็ตบุ๊กไปนอกสถานที่

กระแสความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ จึงเป็นโอกาสของตลาดแท็บเลตพีซี ที่มาพร้อมกับโอเอสวินโดวส์ ซึ่งจุดเด่นคือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นใหม่ลงบนเครื่อง ผู้ใช้สามารถใช้งาน ได้ทันที ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และเล่นเฟสบุ๊ก เฉกเช่นเดียวกับโน้ตบุ๊ก

บุญชัย ดำรงวงศ์สกุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดแท็บเล็ตพีซี ภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ที่มาพร้อมกับเครื่อง ได้แก่รุ่น Acer Iconia W500P ที่วางขายอยู่ในตลาดมองว่า เป็นโอกาส แต่ยังคาดเดาจำนวนยอดขายได้ยาก เพราะตลาดใหม่มากๆ และถ้าไปสำรวจดูในตลาดที่เป็นยี่ห้อดังๆ จะมีเอเซอร์เพียงแบรนด์เดียวที่ลงมาเล่นในตลาดวินโดวส์ นอกนั้นเป็นแท็บเลต พีซี ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไอที ต้องลงแอพพลิเคชั่นใหม่ให้พนักงาน พนักงานต้องเรียนรู้เพิ่ม

ขณะที่แท็บเลต พีซี วินโดวส์ เจ้าหน้าที่ไอที ไม่ต้องออกแบบแอพพลิเคชั่นใหม่ ผู้ใช้ในองค์กรสามารถใช้งานได้ทันที จากระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ที่มาพร้อมกับเครื่อง และเป็นโปรแกรมที่ทุกคนคุ้นเคย ทำให้การใช้งานแท็บเลตพีซี วินโดวส์ 7 ไม่แตกต่างกับโน้ตบุ๊กตัวหนึ่ง สามารถดูหนังฟังเพลง เชื่อมต่อสังคมออนไลน์ เล่น Facebook ได้ และมีคีย์บอร์ด สามารถจะเสียบ หรือถอดออกได้ตามความต้องการ ทำงานบน แอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้ ส่วนหน้าจอ ก็เป็น High-definition และมีระบบเสียง Dolby

ขณะนี้บริษัท ได้นำแท็บเล็ต วินโดวส์ไปแนะนำให้กับลูกค้าหลายๆ องค์กร ส่วนใหญ่สนใจ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ไอที และพนักงานขาย จากเดิมที่พวกเขาต้องถือโน้ตบุ๊กที่มีน้ำหนักมากกว่าลงพื้นที่ เพื่อแนะนำสินค้าให้ลูกค้า แต่พอมีแท็บเลตวินโดวส์ ลูกค้าหลายคนบอกว่า อยากได้เทคโนโลยีลักษณะแบบนี้มาตั้งนานแล้ว เพราะแอพพลิเคชั่นที่ใช้กันอยู่กว่า 90% ก็ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์

เขากล่าวว่า บริษัท คงไม่มุ่งเน้นเพียงแค่ตลาดองค์กรธุรกิจ หรือผู้ใช้ทั่วไปเพียงอย่างเดียว เพราะมีแผนที่จะนำแท็บเล็ตพีซี เข้าประมูลในโครงการภาครัฐด้วย หลังจากบริษัทสามารถคว้างานประมูลติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีให้กับ โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร กว่า 20,600 เครื่อง และ เซิร์ฟเวอร์ กว่า 500 เครื่อง ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา คาดว่าภายในปีนี้จะมีโครงการภาครัฐเข้ามาอีกหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะเข้ามาไล่เลี่ยกันเพราะเป็นการอั้นซื้อมานาน ไม่ว่าจะเป็นโครงการแจกแท็บเล็ตพีซี ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงศึกษาธิการ

ล่า สุดบริษัท ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาหลายรอบแล้ว คาดว่าการรับรู้โครงการภาครัฐที่จะเข้ามาจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนช่วงปลายไตร มาส 3 ไปจนถึงไตรมาส1 ปี 2555

"ตอนนี้รอดูเสป็ค แท็บเล็ตพีซี ของรัฐบาลอยู่ว่า จะมีรายละเอียดออกมาเป็นอย่างไร คาดว่าสเป็คจะสูง และราคาอาจจะสูงกว่า 7,000 บาท ส่วนจำนวนเครื่องหากมีการส่งมอบเป็นจำนวนมากๆ หรือประมาณ 800,000 – 1,000,000 เครื่อง เชื่อว่ามีสินค้าเพียงพอสามารถที่จะส่งของให้ได้ตามจำนวนนี้" บุญชัยกล่าว

สำหรับนวัตกรรมที่มาพร้อมกับเครื่องโน้ตบุ๊กได้แก่ ระบบป้องกันความปลอดภัย ที่เรียกว่า Acer Pro Shield Security ทำให้ผู้บริหารระบบไอที สามารถเข้าไปตั้งค่าต่างๆ ได้แม้อยู่คนละสาขา และมีรหัสผ่าน ทำให้เครื่องปลอดภัยจากบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ ส่วนโน้ตบุ๊กสายพันธ์แกร่ง ที่เปิดตัวล่าสุด ได้แก่ Acer TravelMate 8481 Series หน้าจอ 14 นิ้ว บางแค่ 18 มิลลิเมตร ซึ่งตัวฝาเครื่องผลิตจากวัสดุคาร์บอน ไฟเบอร์ มีน้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม พร้อมฝาเครื่องที่ผลิตจากวัสดุเมทอล อัลลอย (Matal Alloy Hinge) พร้อมความอึดทำงานยาวนานถึง 6.5ชั่วโมง จากแบตเตอรี่ขนาด 4 เซลล์ ในราคาเริ่มต้น 26,900 บาท

กลุ่มผลิตภัณฑ์พีซี ปีนี้มั่นใจจะครองตลาดเป็นอันดับ 1 โดยคาดว่าจะมียอดขายเติบโตทั้งปี อยู่ที่ 20% จะเห็นได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก,เครื่องพีซี , เครื่องเดสก์ท็อป รวมกัน มีส่วนแบ่งตลาดช่วงไตรมาส 1 เท่ากับ 26% ,คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปอย่างเดียวมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 13% ,โน้ตบุ๊กสำหรับตลาดผู้ใช้ทั่วไป (คอนซูเมอร์) อย่างเดียว มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 36% ถือเป็นอันดับ1ของตลาด , คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป สำหรับองค์กรมีส่วนแบ่งตลาด อยู่ที่ 16% และโน้ตบุ๊กสำหรับองค์กร มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 22%คาดว่าจะเพิ่มเป็น 25% ในสิ้นปีนี้ หรือมีอัตราการเติบโตมากกว่า 62% ในส่วนผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายในปีก่อนหน้า