User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ไอบีเอ็มดัน "ไทย" ฮับอินโนเวชั่นอาเซียน
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ไอบีเอ็มดัน "ไทย" ฮับอินโนเวชั่นอาเซียน

ไอบีเอ็มเล็ง ตั้ง "อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์" ปั้นไทยเป็นศูนย์กลางการวิเคราะห์ข้อมูลระดับอาเซียน เผยผลสำรวจซีไอโอยุคไฮเทคกว่า 3 พันคนทั่วโลกสนใจลงทุน บิสสิเนส อินทิลิเจนซ์ โมบายโซลูชั่น และคลาวด์คอมพิวติ้ง ชี้ไทยมีทิศทางเดียวกับทั่วโลก ขณะนี้เทคโนโลยีพร้อมแล้ว เหลือช่องว่างด้านบุคลากรต้องรีบเติมเต็ม

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็มประเทศไทยจำกัด กล่าวว่า ไอบีเอ็มประเทศ ไทย มีแผนจัดตั้ง "อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์" หรือศูนย์กลางการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจประจำภูมิภาคอาเซียนที่ประเทศไทย เร็วๆ นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างแผนงานเพื่อให้บริษัทแม่อนุมัติและรอการสนับสนุน ด้านงบประมาณเข้ามา

โดยผลสำรวจล่าสุดถึงบทบาทและแนวคิดของประธาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (ซีไอโอ) เริ่มจัดทำเมื่อเดือน ต.ค.53 จำนวน 3,018 คนทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับ 3 ประเด็นหลักในการบริหารองค์กรที่ตรงกันคือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้า การพัฒนาทักษะของบุคลากร และการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลทางธุรกิจที่มีอยู่

ทั้งนี้ ด้านการลงทุนเทคโนโลยีต่างให้ความสำคัญเรื่อง “บิสสิเนสอินเทลลิเจนซ์” และ “ระบบวิเคราะห์ข้อมูล” เป็นอันดับที่ 1 ผลสำรวจชี้ว่า 4 ใน 5 ของซีไอโอทั่วโลก และ 86% ในอาเซียน มองตรงกันว่าสำคัญสูงสุด เนื่องจากองค์กรยุคปัจจุบันและอนาคตต้องรับมือกับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจำนวน มหาศาล

ขณะที่อันดับที่ 2 คือ “โซลูชั่นอุปกรณ์โมบาย” ซึ่ง 3 ใน 4 ของกลุ่มตัวอย่าง และ 68% ในอาเซียน เชื่อว่า โมบายแอพพลิเคชั่นก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ช่วยให้ก้าวทันตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในฐานะเครื่องมือสำหรับพลิก เกมธุรกิจให้กับองค์กร

อันดับที่ 3 “เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง” โดย 57% ในอาเซียนพร้อมที่จะปรับใช้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และการขยายธุรกิจให้เติบโต เมื่อเทียบกับการศึกษาเมื่อ 2 ปีที่ก่อนพบว่าเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า

เธอ กล่าวเสริมว่า ผลสำรวจได้แบ่งพันธกิจของซีไอโอออกเป็น 4 ประเภท คือ 1.เพิ่มประสิทธิผล มีสัดส่วน 14% ในบทบาทการเพิ่มความคล่องตัวในระบบปฏิบัติงานและประสิทธิภาพขององค์กร 2.เพิ่มขยาย 50% ที่มองว่าซีไอโอมีหน้าที่การจัดการระบบงานและเพิ่มการประสานงานภายใน พร้อมที่จะเปลี่ยนข้อมูลที่มีให้เกิดประโยชน์

นอกจากนี้ พันธกิจประเภทที่ 3.การปฏิรูป 23% ที่มองว่าบทบาทของไอทีคือการนำไอทีโซลูชั่นมาตอบโจทย์ และเพิ่มคุณค่า เสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าและลูกค้า และ 4.ผู้บุกเบิก 13% ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด

นาง พรรณสิรี กล่าวเสริมว่า กลุ่มที่กระตือรือร้นสูงมาก คือ ผู้บุกเบิก ในไทยมีมากกว่าทั่วโลก 1% เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังเติบโต ต้องลงทุนโมเดลธุรกิจใหม่ๆ พร้อมด้านเทคโนโลยี ตื่นตัวใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นเครื่องมือทำตลาด สร้างให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น แต่ยังมีสิ่งที่ขาด คือ ช่องว่างด้านบุคลากรที่ต้องเร่งพัฒนาทักษะให้มีศักยภาพมากขึ้น

“แค่ ทักษะด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ไม่เพียงพออีกต่อไป ต้องมีหลักสูตรวิทยาศาสตร์การบริการ การบริหารจัดการและวิศวกรรมเข้ามาช่วยเสริม ซึ่งไอบีเอ็มได้ เซ็นเอ็มโอยูร่วมกับกระทรวงไอซีที กระทรวงวิทย์ฯ การทรวงศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยต้นแบบบางแห่งเพื่อปรับใช้ให้เข้ากับหลักสูตรแล้ว”

อย่าง ไรก็ตาม ในจำนวนผู้บริหารไอทีดังกล่าว มีบริษัทตัวแทนจากประเทศไทย 40 ราย จากการสัมภาษณ์ พบว่า ความต้องการสอดคล้องกับเทรนด์ในระดับโลก จากนี้ไปไอบีเอ็มมีแผนต่อยอด โดยการส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้คำปรึกษาตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำกระทั่งบรรลุเป้าหมายขององค์กรนั้นๆ
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.