"แอ๊ฟฟินิตี้" แปลงโฉมธุรกิจ สู่ไอทีเอาท์ซอร์สซิ่งเต็มตัว ฟอร์มทีมขยายโมเดลธุรกิจมุ่งสู่ตลาดโลกต้นปี 2555

แอ๊ฟฟิ นิตี้เผยจุดยืนใหม่ เปลี่ยนบริษัทเป็นผู้ให้บริการไอทีเอาท์ซอร์สซิ่งด้านคอนแท็คเซ็นเตอร์ - ซีอาร์เอ็มเต็มรูปแบบ ระบุแต่ละปีตลาดโตมากกว่า 40% ประกาศความพร้อมบุกตลาดไทยแบบออนดีมานด์ ปีนี้ขอรายได้ 40 ล้านบาท ปีหน้าหวังโตเพิ่มกว่า 50%

นางสาวศิริพร พรหมรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ฟฟินีตี้ โซลูชั่น จำกัด เผยว่า ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2553 บริษัทปรับโฉมตัวเองจากบริษัทจัดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม และระบบเครือข่าย มาให้บริการด้านซีอาร์เอ็ม และคอนแท็ค เซ็นเตอร์ เอาท์ซอร์สซิ่งเต็มรูปแบบ พร้อมทำตลาดอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2554

ทั้ง นี้ การใช้จ่ายด้านไอทีเอาท์ซอร์ทไทยเติบโตขึ้นปีละ 30-40% เห็นได้ชัดว่าความต้องการในตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากค่าใช้จ่ายถูกกว่า ราคาเริ่มต้นหลักไม่กี่แสนบาท เทียบกับการทำระบบหลังบ้านด้วยตัวเองต้องใช้งบประมาณมากกว่า 2-3 ล้านบาทแต่ใช้งานไม่เต็มศักยภาพ เพียง 2-3 ปีต้องเลิกใช้ไป

เธอ กล่าวว่า บริษัทใช้แผนการทำตลาดทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เน้นช่องทางโซเชียลมีเดียให้ความรู้ลูกค้า และการส่งบทความลงนิตยสาร จดหมายข่าวให้โฟกัสกลุ่มโทรคม ประกันภัย อุตสาหกรรมยานยนต์ และรัฐวิสากิจเป็นหลัก ให้ทางเลือกลูกค้าแบบออนดีมานด์ ยืดหยุ่นได้

นอก จากนี้ ปี 2555 บริษัทมีแผนเพิ่มโมเดลทางธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับยุคสมัย พร้อมเพิ่มกลุ่มลูกค้าธุรกิจคอนซูเมอร์ อสังหาริมทรัพย์ และภาครัฐมากขึ้น เพื่อนำตัวเองเข้าไปเป็นผู้เล่นระดับโลกแบบเต็มตัว โดยกำลังเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุดช่องว่างที่เป็นจุดอ่อนของคนไทยด้านภาษาอังกฤษยังไม่ดีพอจะสู้กับคู่แข่ง จากอินเดีย และฟิลิปปินส์

อย่างไรก็ดี ขณะนี้เมื่อ 3 จีเริ่มเกิดขึ้น บริษัทเริ่มเข้าไปคุยกับลูกค้าสายโทรคมเรื่องการทำคอนแท็ค เซ็นเตอร์ที่สามารถผสมผสานการทำงานได้ทั้งวอยซ์ และนอนวอยซ์ในฐานะของเครื่องมือทางการตลาดได้สมบูรณ์มากขึ้น ทั้งยังมีองค์กรขนาดใหญ่ระดับไฮเอนด์ในกลุ่มอื่นๆ เป็นลูกค้า รวมทั้งได้รับการติดต่อจากลูกค้าต่างประเทศ แต่ต้องรอความพร้อมปีหน้า

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากกลุ่มโซลูชั่นที่ให้บริการด้านฐานข้อมูล ออกแบบโปรแกรม และที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการลูกค้า 60% กลุ่มธุรกิจเอาท์ซอร์สซิ่ง 40% ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 40 ล้านบาท ปีหน้าจะเติบโตกว่า 50% ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาด

พร้อม กันนี้ เธอประเมินว่า การแข่งขันในตลาดยังไม่ถึงขั้นรุนแรงมาก บริษัทเป็นผู้ให้บริการแบบครบวงจร โดยประยุกต์ระบบให้เข้ากับการใช้งานจริงของลูกค้าแบบวัน สต็อป ช้อปปิ้งเพียงรายเดียว รายอื่นๆ นอกนั้นจะเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และคาดว่ากว่าคู่แข่งจะตามทันต้องใช้เวลาอีกพอควร ซึ่งในฐานะเอสไอ บริษัทมีคู่ค้าระดับโลกผู้ให้บริการระบบเช่น อวาย่า นอร์เทล ซิสโก้ และคู่ค้าระดับโลคอลอื่นๆ ที่ให้บริการโซลูชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าได้