User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "พนา" ยอมรับผล กสทช. ยืนยัน "ไม่ฟ้อง"
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"พนา" ยอมรับผล กสทช. ยืนยัน "ไม่ฟ้อง"

“พนา”แอ่นอกยอมรับผลคัดเลือก “กสทช.” ยันไม่มีฟ้องร้อง ปฏิเสธความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับ ”อากู๋” แกรมมี่

“พนา”แอ่นอกยอมรับผลคัดเลือก “กสทช.” ยันไม่มีฟ้องร้อง ปฏิเสธความสัมพันธ์เชิงธุรกิจกับ”อากู๋” พร้อมแจงเงินบริจาคให้สว. 84 ล้านบาท ภายใต้โครงการ ”อิ่มบุญ” ขณะที่”สุรนันท์”ฝากกสทช.ชุดใหม่ กำหนดกรอบแผนแม่บทชัดเจน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศ

นายพนา ทองมีอาคม 1 ใน 44 ผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า แม้จะพลาดหวังที่ไม่ได้รับเลือกเป็นกสทช.แต่ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นกสทช.ชุดใหม่ทั้ง 11 คน โดยจะไม่ฟ้องร้องใดๆ เพราะยอมรับการคัดเลือกดังกล่าว ขอให้กสทช.ชุดใหม่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และขอให้สังคมให้โอกาสกสทช.ชุดใหม่ทำงาน และพิสูจน์ฝีมือ

ส่วน ภารกิจที่อยากจะฝากสานงานให้เกิดความต่อเนื่อง คือ การออกใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุชุมชน โทรทัศน์ และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหม่ ส่วนประกาศใดที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันก็สามารถแก้ไขปรับเปลี่ยน ได้

"สำหรับสิ่งที่ต้องการชี้แจงให้สังคมรับทราบ คือ ความสัมพันธ์กับนายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศนั้น เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อน ไม่มีผลประโยชน์และธุรกิจเข้ามาเกี่ยวพันกันแน่นอน ส่วนประเด็นการบริจาคเงินเพื่อโครงการ”อิ่มบุญ” 84 ล้านบาทให้กับวุฒิสภา(ส.ว.)นั้น เป็นโครงการที่ส.ว.ยืนขอมาเอง มิใช่กสทช.นำเสนอเงินให้ และการบริจาคเงินดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนกระบวนการสรรหากสทช."

นาย พนา กล่าวว่า รักษาการ กสทช ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีพระบรมโปรดเกล้าแต่งตั้งฯ โดยในวันที่ 7 ก.ย.นี้จะมีการประชุมบอร์ดตามปกติ ส่วนวาระที่จะพิจารณาได้แก่ การพิจารณานำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคม และการอนุมัติใบอนุญาตต่าง ซึ่งเป็นงานประจำ (รูทีน) ที่ทางสำนักงานกสทชฯส่งเรื่องมา โดยมีวาระค้างอยู่ในที่ประชุมร่วม 100 วาระ ดังนั้น หากรักษาการกสทช.ชุดนี้ไม่ประชุม ก็จะทำให้ผู้ประกอบการเอกชนได้รับความเสียหาย

“กรรมการที่เหลือจะมี 4 คนคือ นายประสิทธิ์ ประพิณมงคลการ รักษาการประธานกสทช. นายสุธรรม อยู่ในธรรม นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร และตัวเอง ส่วนพันเอกนที ศุกลรัตน์ ได้รับเลือกเป็นกสทช.แล้ว ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ แต่คนที่เหลือ 4 คนสามารถอนุมัติงานที่เหลือคั่งค้างได้”

นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร รักษาการกสทช. กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนที่กสทช.ชุดใหม่ต้องเร่งดำเนินการคือการจัดทำแผนแม่บทกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ซึ่งจะเป็นกรอบการทำงานทั้งหมดของกสทช.เพราะหากไม่ชัดเจนแล้ว เมื่อนำไปสู่แผนปฏิบัติงานแล้ว อาจเกิดปัญหาและข้อกังขาของสังคมได้ อีกทั้งกสทช.มี ที่มาของแต่ละคนแตกต่างกัน การจะหลอมรวมความคิดของกรรมการทั้ง 11 คน เป็นเรื่องที่ยาก ที่จะกำหนดทิศทางการทำงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีกทช.แค่ 7 คน การตัดสินใจหรือดำเนินการต่าง ๆ ยังใช้ต้องใช้เวลา จนถูกเรียกว่า 7 คน 7 อย่าง แล้วกสทช. มี 11 คน ซึ่งแต่ละคนมาจากที่แตกต่างกัน มีความคิด ความเห็นที่แตกต่างกัน แต่เมื่อมาทำงานร่วมกันแล้ว จะต้องพยามปรับความเห็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในช่วงแรกอาจยุ่งยากมาก แต่เชื่อว่าเมื่อเข้ามาทำงานไประยะหนึ่ง กสทช.ทั้ง 11 คนก็คงจะปรับตัวได้”

ส่วน เรื่องยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ถึงที่สุดนั้น นายสุรนันท์ กล่าวว่า ได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลได้รับเรื่องเข้าสู่การกระบวนไต่สวนเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ฉะนั้นก็คงต้องรอคำตัดสินพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด จึงจะเป็นที่สิ้นสุด แม้จะได้ตัว 11 กสทช.แล้ว แต่ล่าสุดศาลปกครองสูงสุด รับคำร้องอุทธรณ์ฉุกเฉินคดีที่กทช.ยื่นฟ้องว่ากระบวนการสรรหาไม่โปร่งใส

"โดยประเด็นที่ยื่นเห็นว่าคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ยกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ฟ้องว่ากระบวนการสรรหากสทช.ไม่โปร่งใส นอกจากนี้ยังเห็นว่า คำแถลงคดีของตุลาการนอกสำนวน และคำพิพากษา ยังแตกต่างกันชัดเจน"
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.