"ที่พูดกันว่าโน เกียกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ผมขอยืนยันว่าไม่ใช่ เราไม่เคยเป็นแบบนั้น ถ้าจะให้ถูกควรใช้คำว่าถึงจุดที่จะต้องเปลี่ยน"

ผู้ชายอารมณ์ดี ท่าทางใจดี รูปร่างลักษณะเหมือนบิ๊กแดดดี้ แต่แบกรับภาระบอสใหญ่ระดับท็อปของยักษ์มือถือสัญชาติฟินแลนด์ ตำแหน่งรองประธานฝ่ายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม แห่งโนเกีย คอร์ปอเรชั่น นายมาร์ค เซลบี ให้ สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงสำหรับเจาะตลาดแมสทั่วโลก จำนวน 3 รุ่นรวด บนระบบปฏิบัติการซิมเบียนเวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุดโค้ดเนม "เบลล์" ณ เกาะฮ่องกง

พร้อม เผยถึงจุดยืนและบทบาทของการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า เสมือนต้นหนประจำเรือลำใหญ่ ที่ต้องคอยควบคุมทิศทางฝ่าฟันกับคลื่นการแข่งขันที่ดุเดือด รุนแรงในตลาด ท่ามกลางเสียงสะท้อนที่ใครต่อใครต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "โนเกียคงไม่ไหวแล้ว" หรือ "ซิมเบียนตายไปแล้ว"

กระทั่ง "นับวันเหมือนยิ่งดิ่งลงเหวมากขึ้น" ไม่ให้จมลงไป ทั้งยังเพิ่มเงื่อนไขสุดหินไว้ด้วยว่าต้องผงาดขึ้นมาใหม่ในฐานะเจ้าตลาดที่ครองอันดับหนึ่งวงการโมบายมาหลายปีให้จงได้

ชนิดระหว่างเจ้าหมาน้อย และแมวเหมียวว่า ถ้าสัตว์เหล่านี้ตายไป แน่นอนว่าไม่อาจนำชีวิตพวกมันกลับคืนมาได้ แต่ซิมเบียนหรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีอื่นๆ คนละเรื่องกัน
“เบลล์”

พร้อมเทคโนโลยีเอ็นเอฟซีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโนเกียกลับมาได้แล้วจริงๆ

เช่นเดียวกันกับประโยคที่ได้ยินได้ฟังกันบ่อยครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนมิติ ที่ตีความได้หลากหลายว่าอะไรกันแน่คือความหมายที่แท้จริงที่ผู้พูดต้องการ สื่อสารออกมา และมีนัยสำคัญที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนซ่อนเอาไว้ในวลีสั้นๆ นี้กันแน่ ซึ่งนายเซลบี เป็นอีกหนึ่งคนที่ยกถ้อยคำนี้ออกมาเพื่อแสดงจุดยืนของบริษัทว่า "Nokia is back"

อย่างไรก็ตามด้านแอพพลิเคชั่นที่ดูเหมือนว่าคู่แข่งได้ทิ้งห่างไป หลายช่วงตัว ต้นหนใหญ่โนเกียตอบอย่างมั่นใจว่า บริษัทพร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านดีไวซ์ เครื่องมือ องค์ความรู้ และบทบาทของแบรนด์ที่วางตัวเองไว้แบบเปิดกว้างมากที่สุด เพื่อทำให้นักพัฒนาเชื่อมั่น ส่งเสริมให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่ต้องการ ไม่ใช่จำกัดให้อยู่ในกรอบเดียวกัน แตกแถวไม่ได้เหมือนบางแบรนด์ ขณะนี้บริษัทได้ตั้งศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีเอ็นเอฟซีในยุโรปแล้ว

"มองจากตรรกะและความพร้อมที่เรามีผมเชื่อว่าเรามีทางที่จะชนะได้

"
คิดต่าง เห็นต่าง ชอบต่าง

ส่วนคำถามที่ว่า แน่ใจได้อย่างไรว่าสินค้าใหม่รุ่นนี้จะติดตลาดและแข็งแรงพอจะต่อสู้กับคู่ แข่งได้ นายเซลบี มองว่าต่อไปอีโคซิสเต็มใหญ่ของวงการโมบายจะประกอบไปด้วย ไอโอเอส แอนดรอยด์ และวินโดว์สโฟน ความชอบหรือไม่ชอบในโอเอสหรือแบรนด์ใด ก็เหมือนกับกรณีของหมากับแมวข้างต้นที่ใครบ้างจะฟันธงได้เด็ดขาดว่าสัตว์ ชนิดใดที่น่ารักและมีคนชอบมากกว่ากัน

ถึง บรรทัดนี้คงพอสรุปได้ว่าโนเกียต้องการสะท้อนภาพเช่นไรออกมาสู่สายตาคนภายนอก ขณะเดียวกันกับประเด็นยอดฮิตอ้างอิงจากมุมมองของนักวิเคระห์และกูรูต่างๆ ทั่วโลกที่ว่า จริงหรือไม่ที่ศึกครั้งนี้เป็นแค่หนึ่งในยุทธวิธีการตั้งรับเพื่อรอรบใน สงครามครั้งใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ด้วยการส่งกำลังรบแนวหน้าระดับขุนศึกออกไปขัดตาทัพพลางๆ รอให้วินโดว์สโฟนถึงกำหนดคลอดออกมาเสียก่อน

ต่อ จากนั้นแล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ในแบบฉบับของโนเกียที่มีรากฐานอันมั่นคงมากพอจะทุ่มทุนสร้าง ตัดต่อพันธุกรรมแบบไหนออกมาก็ได้ เรื่องนี้คงต้องลองพิจารณาเหตุและผลตามปัจจัย รวมทั้งสภาวะที่เกิดขึ้นจริงดู และโปรดคอยติดตามตอนต่อไปในอีกไม่กี่อึดใจ...