ทรู ปั้นแบรนด์ “ทรูมูฟ เอช” ให้บริการ 3G ลูกค้าทั่วไทย คาดครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศสิ้นปี 55 ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท ขยายโครงข่ายไวไฟแตะ 1 แสนจุด ให้สิทธิ์ลูกค้าซื้อ 1 แถม 1 ฉลองเปิดแบรนด์...

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน ทำให้พฤติกรมการใช้งานของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป คาดว่าภายใน 4-5 ปีข้างหน้าจะมีความต้องการเข้าถึงวิดีโอและคอนเทนท์ต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมถึงการเติบโตในกลุ่มสมาร์ทดีไวซ์ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 17% ต่อปี

สำหรับ การเปิดตัวแบรนด์ทรูมูฟ เอช บริษัทฯ จะใช้เพื่อทำตลาดและให้บริการ 3จี ส่วนแบรนด์ทรูมูฟจะใช้เพื่อการทำตลาดและให้บริการ 2จี ซึ่งเชื่อว่าบริการ 2จี จะยังไม่หายไปจากตลาดโทรคมนาคมในช่วง 1-2 ปี แม้อายุสัมปทานการให้บริการจะหมดลงแต่คาดว่าสามารถอยู่ในตลาดได้อีก 6-7 ปี โดยในส่วนลูกค้าทรูมูฟที่ต้องการใช้บริการ 3จี ของทรูมูฟ เอช จะต้องย้ายออกจากเครือข่ายทรูมูฟเพื่อเข้าใช้บริการทรูมูฟ เอช ปัจจุบัน มีลูกค้าใช้บริการ 3จี ทรูมูฟประมาณ 4 แสนราย ขณะที่จำนวนลูกค้าทรูมูฟ เอชในขณะนี้มีประมาณ 1 แสนราย ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีลูกค้าครบ 5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ ส่วนการโอนย้ายฐานลูกค้าเดิมจากเครือข่ายฮัทช์มายังทรูมูฟ เอชนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555

การแข่งขันในตลาดบรอดแบนด์นั้น บริษัทฯ มองเป็นพื้นที่ของกลุ่มทรู ซึ่งมีการลงทุนและใช้เทคโนโลยีก้าวหน้ากว่าผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) รายอื่น ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสถานีฐาน 2,500 แห่งต่อปี แต่ปัจจุบันมีการลงทุนร่วมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กว่า 24,000 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีฐานให้รองรับการให้บริการ 3จี ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยภายในช่วงสิ้นปีหน้า

“ตลาดรวมการใช้ บริการ 3จี ในปี 2555 อาจมีผู้ใช้ 7-8 ล้านราย ซึ่งคาดว่าจะเป็นลูกค้าทรูมูฟ เอช ประมาณ 5 ล้านราย คิดเป็นส่วนแบ่งประมาณ 80% ของตลาดรวม อย่างไรก็ตามภายในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ามีพื้นที่ให้บริการ 3จี ครอบคลุมทั่วประเทศโดยเทียบเท่าพื้นที่ให้บริการ 2จี ของทุกโอเปอเรเตอร์ และมีจุดบริการไวไฟครบ 1 แสนจุดอีกด้วย” นายศุภชัย กล่าว

ด้าน นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือนนี้ บริษัทฯ จะทำตลาด 3จี โดยใช้แบรนด์ทรูมูฟ เอช ที่พร้อมให้บริการด้วยแบนด์วิธ 15MHz ให้ความเร็วสูงสุด 42Mbps ได้ทันที โดยบริษัทฯ คาดหวังเป็นผู้นำในการให้บริการ 3จี ด้านจำนวนผู้ใช้บริการ ส่วนการเพิ่มพื้นที่ให้บริการไวไฟจากปัจจุบัน 30,000 จุด เป็น 100,000 จุดภายในสิ้นปีนี้ บริษัทฯ มีการลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยในอนาคตจะมีการเปิดบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (โรมมิ่ง) สำหรับผู้ใช้บริการไวไฟที่เดินทางไปยังต่างประเทศ และรองรับลูกค้าจากต่างระเทศที่จะเข้ามาใช้บริการไวไฟในประเทศไทยด้วย

ขณะ นี้ภาพรวมตลาดโทรคมนาคมไทยมีการใช้งานซิมการ์ดทั่วประเทศรวม 73 ล้านซิม ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรในประเทศไทย โดยผู้ใช้ 1 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมดอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนสาเหตุของการใช้งานหลายซิมต่อคนนั้น มีสาเหตุจากความหลากหลายของอุปกรณ์มือถือในปัจจุบัน ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาตลาดโทรคมนาคมไทยมีรายได้ 150,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 9% ต่อปี โดยในอดีตสัดส่วนรายได้ 80-90% มาจากบริการด้านเสียง แต่ปัจจุบันรายได้หลักมาจากบริการที่ไม่ใช่เสียง (นอนวอยซ์) โดยในปี 2553 รายได้ในกลุ่มบริการที่ไม่ใช่เสียงของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 24% ขณะที่บริการด้านเสียงเติบโตขึ้น 2%

โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริการที่ไม่ใช่เสียงมีอัตราการเติบโตอย่างมาก โดยโมบายอินเทอร์เน็ตสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทฯ สูงเป็นอันดับที่ 1 ตามด้วยรายได้จากบริการคอนเทนต์ บริการข้อความ และเสียงรอสาย-เสียงเรียกเข้า ตามลำดับ ทั้งนี้ ทรูมูฟมีจำนวนลูกค้ารายเดือนเพิ่มขึ้น 13% และมีรายได้เพิ่มขึ้น 16% ทั้งยังมีรายได้จากโมบายอินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้นถึง 110%

นายสุภกิจ กล่าวอีกว่า สำหรับโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 นั้น มองว่าเป็นโอกาสที่ผู้บริโภคจะได้สิทธิ์ซื้อสินค้าราคาถูก ซึ่งเป็นการแข่งขันในตลาด โดยบริษัทฯ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการทรูมูฟแบบรายเดือนที่เปิดใช้บริการก่อนวันที่ 31 ก.ค.2554 จำนวน 100 คนแรก ที่มาร่วมงานทรูมูฟ เอช ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 31 ส.ค.นี้ สามารถรับสิทธิ์ดังกล่าวเมื่อซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใดยี่ห้อใดก็ได้ ส่วนลูกค้าตั้งแต่คนที่ 101 จะได้รับส่วนลด 3,000 บาท หรือผ่อน 0% เมื่อซื้อไอโฟน4.