User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » นักวิเคราะห์ชี้ LG เหนื่อยอุ้มธุรกิจมือถือ
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

นักวิเคราะห์ชี้ LG เหนื่อยอุ้มธุรกิจมือถือ

หลังจากขาดทุนในธุรกิจโทรศัพท์มือถือต่อเนื่อง 5 ไตรมาส นักวิเคราะห์เชื่อแอลจีกำลังถูกกดดันให้จำหน่ายธุรกิจโทรศัพท์มือถือทิ้งไป เพราะยิ่งทิ้งไว้หุ้นของแอลจีก็ยิ่งดิ่งเหว บนต้นทุนค่าใช้จ่ายที่คิดเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในบรรดาธุรกิจอื่นๆของแอลจี ด้านแอลจียังประกาศชัด พร้อมสู้ไม่มีถอยแต่ขอตัดเป้ายอดขายสมาร์ทโฟนปีนี้ลง 20%

สำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างคำวิเคราะห์ของแฮร์ริสัน โค (Harrison Cho) นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย KB Investment & Securities ว่าการจำหน่ายธุรกิจที่ขาดทุนนั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนต้องการ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับแอลจีในขณะนี้ คือการผจญกับความกดดันให้จำหน่ายธุรกิจโทรศัพท์มือถือซึ่งขาดทุนต่อเนื่อง 5 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยขณะนี้ ธุรกิจสมาร์ทโฟนของแอลจีคือปัจจัยหลักที่ทำให้แอลจีมีมูลค่าตลาดลดลงเหลือ 7,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบเท่าเพียง 1 ใน 3 ของมูลค่าตลาดคู่แข่งอย่างเอชทีซี (HTC) ทั้งที่แอลจีมีธุรกิจทีวีและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านซึ่งครองส่วนแบ่ง ไม่น้อยในตลาดโลก

"หากแอลจีเลือกขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือจริง แอลจีก็จะไม่ได้ผลดีจากการขายเท่าที่ควร เพราะแอลจีควรจำหน่ายในช่วงก่อนหน้าที่ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนยังไม่สะท้อนภาพ ติดขัดเท่านี้ ทำให้เห็นชัดเจนว่าแอลจีพลาดโอกาสไป" โคระบุว่านักลงทุนไม่ได้คล้อยตามกับคำที่แอลจียืนยันมาตลอดว่า มีความมุ่งมั่นกับธุรกิจโทรศัพท์มือถือ และกำลังสามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าพอใจ

ก่อนหน้านี้ แอลจีเคยร่วมทุนฟิลิปส์ (Philips) และนอร์เทล (Nortel) ในการกระจายความเสี่ยงธุรกิจผลิตหน้าจอชนิดแบนและอุปกรณ์โทรคมนาคม จุดนี้โคมองว่าการร่วมทุนก็ยังเป็นไปได้ยากสำหรับธุรกิจโทรศัพท์มือถือของ แอลจี เนื่องจากจะมีพันธมิตรไม่กี่รายที่ยอมร่วมทีมกับธุรกิจที่ขาดทุนเช่นนี้

***ลดเป้าสมาร์ทโฟน

แอลจีซึ่งมีดีกรีเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 3 ของโลก ประกาศลดเป้าหมายจำหน่ายสมาร์ทโฟนในปี 2011 ลงจากเป้าหมายเดิม 20% เหลือ 24 ล้านเครื่อง แปลว่าแอลจีรู้ดีว่าสามารถจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้น้อยกว่าที่ตั้งใจไว้ และไม่ตอบคำถามว่าแอลจีจะกลับมามีกำไรได้เมื่อไร

การปรับเป้าหมายครั้งนี้ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นผลมาจากสมาร์ทโฟนตระกูล Optimus ของแอลจีไม่สามารถสร้างกระแสในตลาดเท่าที่ควร ที่ ผ่านมา สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android ของแอลจีทั้งรุ่น Optimus 2X และ Optimus 3D ยังไม่สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างที่ Galaxy ของซัมซุง หรือ iPhone ของแอปเปิลทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้แอลจีเสียหลัก เพราะผู้บริหารแอลจีเคยย้ำว่าจะดำเนินนโยบายลดความสำคัญสินค้าฟีเจอร์โฟน ซึ่งทำกำไรได้น้อยกว่า ไปให้ความสำคัญกับธุรกิจสมาร์ทโฟนซึ่งทำกำไรได้มากกว่าแทน

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่าแอลจีต้องเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการที่คู่ แข่งในตลาดโทรศัพท์มือถือต่างมีทางออกของตัวเองแล้ว ทั้งโนเกีย (Nokia) ที่ประกาศจับมือกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) ไปก่อน และโมโตโรลาโมบิลิตี้ (Motorola Mobility) ก็ขายกิจการให้ยักษ์ใหญ่กูเกิล (Google) เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะเป็น 2 ขั้วอำนาจที่จะบีบให้แอลจีต้องดิ้นเพื่อหาทางออกให้ตัวเองในเร็ววัน

'สิ่งที่แอลจีทำได้ในตอนนี้คือการรักษาข้อดีของตัวเองไว้ต่อ ไป ทั้งการเพิ่มฮาร์ดแวร์คุณภาพดีให้สินค้า การสร้างความต่างให้ผลิตภัณฑ์แอลจี และพยายามสร้างความหลากหลายไม่ผูกติดกับ Android อย่างเดียว โดยหันมาหา Windows อีกทาง' จุง กุน-ซิก (Jung Kyun-sik) ผู้จัดการกองทุนบริษัทวิจัย Eugene Asset Management ในกรุงโซลวิเคราะห์ไว้

แอลจีนั้นมีดีกรีเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับที่ 6 ในตลาด มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5.6% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือตลอด 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย. 54) รวมมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.2 ล้านล้านวอน (ราว 9 หมื่นล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 5 ของยอดขายรวมแอลจี
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.