นับว่าเป็นบิ๊กแบรนด์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับ "แอปเปิล" และ"ไอโฟน" ยิ่งใกล้ถึงกำหนดเปิดตัวรุ่นใหม่ยิ่งมีการคาดเดาไปต่าง ๆ นานา ทั้งต่อรุ่นใหม่ "ไอโฟน 5", ไอแพด 3 หรือกระทั่ง "ไอโฟน 4" ขนาด 8 GB รุ่นใหม่ที่ว่ากันว่าจะมีราคาถูกลง (มาก ๆ) เพื่อขยายฐานลูกค้า ไอโฟนไปยังกลุ่มใหม่ ๆ บ้าง

โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ นิตยสารชื่อดัง "ไทม์ แมกาซีน" รายงานว่า แอปเปิลอาจกำลังวางแผนที่จะออกไอโฟน 4 เวอร์ชั่นราคาถูก พร้อมกำหนดเปิดตัว ไอโฟน 5 ในเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ โดยมี เป้าหมายเพื่อเจาะตลาดโทรศัพท์มือถือราคาถูกในเอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งหากเป็นความจริง กลยุทธ์นี้ของ "แอปเปิล" น่าจะช่วยเพิ่มสัดส่วนผู้ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอสได้มากขึ้น อีกทั้งช่วยลดเสียง วิพากษ์วิจารณ์ที่ผู้บริโภคมักมองว่า สินค้าของแอปเปิลมีอายุบนชั้นขายของสั้น เพราะโดนแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ

ข้อมูลจาก "ไทม์" ระบุว่า ไอโฟน 4 ราคาย่อมเยาที่ว่าจะมีความจุ 8 GB (รุ่นที่วางตลาดปัจจุบันมีความจุ 16 และ 32 จิกะไบต์) เน้นเจาะตลาดเกิดใหม่ที่ไม่ได้มีความต้องการสมาร์ทโฟนแบบไฮเอนด์มากนัก เช่น ในประเทศจีน และประเทศอื่น ๆ แถบเอเชีย-แปซิฟิก โดยจะมีการปรับลดราคาลงมาให้อยู่ในระดับที่แข่งขันกับแบรนด์อื่นได้คือ ไม่เกิน 6,000 บาท หรืออาจถึงระดับ 4,500 หรือ 3,000 บาทได้เลยทีเดียว (หลายฝ่ายมองว่าไม่น่าเป็นไปได้)

แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมา ผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากกลยุทธ์ที่ว่านี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นบิ๊กแบรนด์ "โนเกีย" ที่ในระยะหลังสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก "โนเกีย" อาจเจ็บหนักกว่าใคร เพราะมีส่วนแบ่งในตลาดมือถือระดับล่างเป็นจำนวนมาก

นี่ไม่ใช่ครั้ง แรกที่แอปเปิลออกกลยุทธ์ธุรกิจในลักษณะนี้ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณปีที่แล้ว ช่วงเปิดตัวไอโฟน 4 แอปเปิลก็ปล่อยไอโฟน 3 Gs ความจุ 8 จิกะไบต์ ที่ถูกกว่า 3 พันกว่าบาท !

กลับมาที่ "ไอโฟน 5" อีกรอบ หลายฝ่ายมองว่าไอโฟน 5 จะมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ให้โค้งมนและเบาบาง รวมถึงอาจมีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่กว่าไอโฟน 4 โดย "ไทม์ แมกาซีน" มองว่า การที่แอปเปิลยังตัดสินใจเก็บไอโฟนรุ่น 4 ไว้ทำตลาดต่อไปก็น่าจะทำประโยชน์ให้แอปเปิลอีกหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น แม้ตอนนี้แอปเปิลจะเป็นบริษัท ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว แต่จำนวนผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ "ไอโอเอส" ยังห่างชั้นจากระบบปฏิบัติการ "แอนดรอยด์" ของกูเกิล

ปัจจุบัน "แอนดรอยด์" มีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกประมาณ 37% ขณะที่ "ไอโอเอส" มีประมาณ 26% แน่นอนว่าแอนดรอยด์มีข้อได้เปรียบจากการที่มันขยับขยายระบบปฏิบัติการของตน เองลงบนอุปกรณ์สื่อสารทั้งมือถือ และแท็บเลตได้หลายรุ่นหลายยี่ห้อ

และ การที่แอปเปิลจะตัดสินใจเก็บ ไอโฟน 4 ไว้ทำต่อ น่าจะบ่งบอกถึงความต้องการในการขยับขยายส่วนแบ่งการตลาดของไอโอเอสเพิ่มมาก ขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายรายได้จากการจำหน่ายแอปพลิเคชั่นผ่านแอปสโตร์ของแอปเปิลให้ มากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้ "ไทม์" ยังมองว่า มันน่าจะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดีขึ้นในสายตาผู้บริโภค เพราะเป็นการต่ออายุไอโฟน 4 ให้นานขึ้นอีกหน่อย ป้องกันสถานการณ์ที่ผู้บริโภครู้สึกแย่เมื่อตัดสินใจซื้อไอโฟนเวอร์ชั่นใหม่ แต่อีกไม่กี่เดือนถัดมาก็พบว่ามีเวอร์ชั่นใหม่กว่าออกมาวางตลาดอีกแล้ว หนำซ้ำการออกไอโฟนรุ่นที่ 5 ทั้งที่ผู้บริโภคยังมองว่าไอโฟน 4 เป็นสมาร์ทโฟนชั้นนำในตลาด ยังน่าจะเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งในการเป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนให้แอปเปิล มากขึ้นด้วย

ก่อนจะถึง "ไอโฟน 5" อีกความเคลื่อนไหวของ "แอปเปิล" ที่แม้ไม่เหนือความคาดหมายนัก คือ กรณี "สตีฟ จ็อบส์" ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอแล้ว (24 ส.ค. 2554) โดย จะมี "ทิม คุก" หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการและการขาย ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน

อย่างไรก็ตาม "จ็อบส์" ยังคงดำรงตำแหน่งประธานของ "แอปเปิล" ต่อไป

อนาคต "แอปเปิล" ในวันที่ไร้ "สตีฟ จ็อบส์" จึงกลับมาดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง