กูเกิล ยักษ์เสิร์ชเอ็นจินตั้งสำนักงานไทย ดัน "อริยะ พนมยงค์" ขึ้นแท่นผู้บริหารดูรายได้-ทิศทางธุรกิจ วงการออนไลน์ขานรับเตรียมปรับตัวสู้

กูเกิล ยักษ์เสิร์ชเอ็นจินตั้งสำนักงานไทย ดัน "อริยะ พนมยงค์" ขึ้นแท่นผู้บริหารดูรายได้-ทิศทางธุรกิจ เปิด 4 ยุทธศาสตร์หลักกุมฐานลูกค้าไทย เดินหน้าชูนวัตกรรมใหม่ ปั้นคอนเท้นท์ไทยเร่งเจาะตลาด โดดลุยตลาดโฆษณาออนไลน์เต็มสูบหลังเห็นโอกาสยังสูง หวังชิงส่วนแบ่งเทียบชั้นตปท.ที่รวบตลาดออนไลน์ได้กว่า 50% วงการออนไลน์ขานรับเตรียมปรับตัวสู้ หวั่นทำตลาดยากขึ้น

นายอริยะ พนงยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ บริษัทกูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า กูเกิลได้เปิดสำนักงานประจำประเทศไทยแล้ว ซึ่งเขาได้รับมอบหมายให้ดูทิศทางธุรกิจ ลูกค้า รวมถึงการรับรู้รายได้ของกูเกิลในไทย และยังต้องรายงานตรงไปยังกูเกิล สิงคโปร์ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ที่ดูแลลูกค้าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยหลังจากนี้บทบาทการทำธุรกิจกูเกิลไทยจะชัดเจน มีทิศทางเป็นของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดโฆษณาออนไลน์

"ตอน นี้การใช้จ่ายในสื่อโฆษณาออนไลน์ในไทยยังน้อยมากไม่ถึง 1% ยังมีโอกาสอีกกว่า 99% ที่จะเจาะเข้าไปได้ ในอังกฤษมีการใช้จ่ายในสื่อออนไลน์เกือบ 50% อเมริกา 30% ตลาดไทยเองก็ไม่น่าจะมีเหตุผลที่ทำไม่ได้ เป้าของผม คือ ต่างประเทศทำได้เท่าไหร่ ไทยก็น่าจะน่าจะทำได้เหมือนกัน กูเกิลไม่ได้มองที่ 1% แต่เรามองที่ 99% ที่จะเป็นโอกาสมากกว่า"

วาง 4 ยุทธศาสตร์เจาะตลาดไทย
จากนี้ไป กูเกิลจะ เน้น 4 ยุทธศาสตร์ทิศทางธุรกิจ ได้แก่ 1. เน้นให้คนไทย เข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเขาให้ได้มากที่สุด หรือเสิร์ช เอ็นจิน 2.เน้นนำเสนอนวัตกรรมใหม่เพื่อคนไทย ยกตัวอย่างแคมเปญโฆษณาโครม ครั้งแรกของกูเกิลในไทย แคมเปญธุรกิจไทย โก ออนไลน์ และจะมีนวัตกรรมอื่นๆ ตามมาอีก 3. เน้นสนับสนุนสร้างเนื้อหาที่เป็นภาษาไทยให้มากขึ้น และ 4.กูเกิลจะ เข้าไปช่วยให้ธุรกิจทุกระดับ ตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ กระตุ้นรายได้ของลูกค้าผ่านสื่ออนไลน์ ที่จะเน้นการเข้าไปให้คำปรึกษาโดยตรง แนะนำวิธีการลงทุน

"ทีมงานในไทย จะมีทั้งทีมฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายปฏิบัติการที่ทำหน้าที่รวมดูแลลูกค้า อาจมีคอลล์เซ็นเตอร์ ลูกค้ากูเกิลใน ไทย ก็จะติดต่อเราได้ง่ายขึ้น โดยอยู่ระหว่างคัดเลือก ช่วงแรกน่าจะมีทีมงานเข้ามาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 คน และคาดว่า ปีหน้าจะเพิ่มเป็น 20 คน"

อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการบริหารของกูเกิลใน ไทย ยังมีลักษณะเป็นองค์กรแนวราบ โดยตำแหน่งของเขา และนางสาวพรทิพย์ กองชุน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อยู่ระดับเท่ากัน โดยแต่ละฝ่ายจะต้องรายงานตรงต่อผู้บริหารของสิงคโปร์ที่กำกับดูแลธุรกิจใน แต่ละส่วน

"ผมจะเน้นเรื่องอื่นที่กูเกิลยังทำได้ไม่เต็มที่ เช่น การขาย สนับสนุนกลุ่มลูกค้า ที่ยังมีอีกมากที่กูเกิลยัง ไม่ได้เข้าไปคุย เบื้องต้นก็น่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่สามารถนึกชื่อออกได้ทันที ซึ่งไม่ใช่แค่องค์กรขนาดใหญ่ แต่เราจะเน้นเข้าไปทุกกลุ่มลูกค้าในเชิงของการให้คำปรึกษา"

นายอริยะ กล่าวด้วยว่า นโยบายการผลักดันการใช้อินเทอร์เน็ตของภาครัฐ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการ หรือบริษัทอย่างกูเกิลเพียง อย่างเดียว แต่เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ถ้าบริการถูกลง สปีดดีขึ้น ผู้ใช้ก็จะได้ประโยชน์มากขึ้น และต้องขึ้นอยู่กับหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ตลาดขยายตัวขึ้นด้วย

"เรา พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายภาครัฐ และผลักดันการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยเรามีแคมเปญ เว็บคือสิ่งที่คุณสร้าง เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยทำให้คนรู้ว่าจะใช้เว็บไซต์ทำอะไรได้บ้าง และเกิดการต่อยอดต่อไป" นายอริยะกล่าว

อย่างไรก็ตามกูเกิลไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะโตเท่าไร แต่ที่เห็นคือ ในสหรัฐโต 20-30% ในสิงคโปร์ 7% ดังนั้นโอกาสโตมีอยู่แล้ว

เว็บไทยส่งสัญญาณเร่งปรับตัวสู้
ขณะที่นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ การตลาด และธุรกิจ เอ็มไทยดอทคอม กล่าวว่า การลงทุนของกูเกิลในไทยส่งผลดีต่อตลาดโฆษณาออนไลน์อย่างมาก เพราะกูเกิลครอง ส่วนแบ่งตลาดเครื่องมือสืบค้นข้อมูลออนไลน์ถึง 99.11% และเป็นช่องทางที่เชื่อมโยงกับการทำโฆษณาออนไลน์ ดังนั้นการมีสำนักงานในไทยจะยิ่งทำให้ตลาดโฆษณาออนไลน์ในประเทศคึกคักมาก ขึ้นไปอีก

แต่การที่กูเกิลมี ฐานตลาดขนาดใหญ่ในประเทศอาจเป็นการปิดกั้นการเติบโตของผู้เล่นรายอื่นๆ โดยเฉพาะคู่แข่งในประเทศที่จะทำตลาดได้ยากขึ้น และมีโอกาสพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาแข่งได้ยาก

"ตลาดโฆษณาออนไลน์ปี นี้คึกคักอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการเติบโตตามกระแสของโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ค และมือถือ 3จีที่ต้องใช้คอนเทนท์ไปวิ่งบนเน็ตเวิร์ค และเป็นปัจจัยจะทำให้โฆษณาออนไลน์โตตามไปด้วย ทำให้เอเจนซี่เริ่มสนใจ แต่ขณะที่เอเจนซี่ยังอยู่ช่วงเริ่มๆ เข้ามาสนใจใช้สื่อออนไลน์ ตัวเว็บทุกเว็บก็ต้องมีส่วนช่วยสร้างตลาดด้วย โดยเราเองก็จะเน้นเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับลูกค้ามากขึ้น ไม่ใช่เป็นแค่ตัวกลางการซื้อขายโฆษณาเหมือนเดิม" นายปฐมพงศ์กล่าว

ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดดอทคอม กล่าวว่า แผนการลงทุนของกูเกิลใน ไทยทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ และบุคลากรเข้ามาในประเทศมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดการลงทุนศูนย์วิจัยและพัฒนาในอนาคตที่จะช่วย กระตุ้นให้ตลาดโฆษณาออนไลน์ของไทยเติบโตมากขึ้นไปอีก ขณะที่ ข้อดีอีกมุมหนึ่งคือ ช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในประเทศตื่นตัวมากขึ้น และมีแคมเปญทางการตลาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

แต่ทั้งนี้ต้องมองในมุมที่ผู้ประกอบการไทยจะได้รับด้วย เพราะการทำแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้คนใช้โฆษณาออนไลน์ของกูเกิล นั่นหมายถึง เงินหรือรายได้ทั้งหมดก็จะถูกดึงออกไปที่กูเกิลด้วย ขณะที่คนไทยก็เริ่มใช้เว็บไทยน้อยลง แต่หันไปใช้เว็บต่างประเทศ เช่น กูเกิล และเฟซบุ๊คกันมากขึ้น