เอ็กซ์สตรีมพลัส บุกตลาดดิจิตอลดิสเพลย์ ชี้ตลาดโตปีละ 100% รับเทรนด์การสื่อสารที่สามารถโต้ตอบระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค ชูจุดแข็งผู้ให้บริการครบวงจร ล่าสุดเตรียมเนรมิตสวนสัตว์เชียงใหม่ สู่สวนสัตว์ดิจิตอล มูลค่าโครงการรวม 20 ล้านบาท
นายอนันต์ ตรีสิริเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอ็กซ์สตรีม จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทมีความพร้อมในการนำเสนอเทคโนโลยีการแสดงภาพและเสียงระบบ ดิจิตอล หรือ ดิจิตอลดิสเพลย์ ที่สามารถโต้ตอบ หรือ อินเตอร์แอกทีฟ สู่ตลาดประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสเติบโตทางการตลาด โดยตลาดมีการเติบโตขึ้น 100% ทุกปี อีกทั้งในตลาดยังมีผู้ให้บริการทางด้านนี้น้อยราย ทำให้การแข่งขันไม่สูง ซึ่งตลาดดังกล่าวนั้นแข่งขันที่ไอเดีย การออกแบบการนำเสนอ และการผสมผสานเทคโนโลยีด้านการแสดงภาพและเสียง
นอกจากนี้ขณะที่องค์กรธุรกิจมีความต้องการเครื่องมือการสื่อสารที่ดึงดูด ความสนใจของผู้บริโภคมากขึ้น อีกทั้งกลุ่มผู้บริโภคสินค้ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป โดยมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีการสั่งการระบบสัมผัสผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน และแท็บเลตมากขึ้น ทั้งยังมีความต้องการในการควบคุมการรับข้อมูล และสื่อสารข้อมูลออกไป ทำให้ผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับวิธีการนำเสนอสินค้าและบริการจากภาพนิ่ง ไปสู่เทคโนโลยีการแสดงภาพและเสียงที่สามารถโต้ตอบได้ สามารถแบ่งปันบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก มากขึ้น
ทั้งนี้จุดแข็งของบริษัท คือ เป็นผู้ให้บริการดิจิตอล ดิสเพลย์แบบครบวงจร โดยเป็นทั้งผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งขณะนี้มีซอฟต์แวร์ที่เป็นผู้วิจัยและพัฒนาขึ้นมา 8 เทคโนโลยีหลัก อาทิ ซอฟต์แวร์ การแสดงภาพ 3 มิติ ทั้งภายในและนอกอาคาร , การแสดงภาพและเสียงแบบ 3 มิติเสมือนจริง หรือ โฮโรแกรม , การแสดงภาพแบบหน้าจอสัมผัสที่สามารถโต้ตอบได้ ,ซอฟต์แวร์เน็ตซิส ที่เชื่อมต่อจอแสดงผลได้ตั้งแต่ 2 - 200 จอภาพพร้อมกัน และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์จอสัมผัส แบบมัลติทัช ที่รองรับการสั่งการได้ 32 จุดพร้อมกัน
รวมถึงการพัฒนาเนื้อหาหรือ คอนเทนต์ รองรับการนำเสนอแบบ 3 มิติ การออกแบบและให้คำปรึกษากับลูกค้าในการแสดงภาพและเสียง นอกจากนี้ยังเป็นผู้จัดหาฮาร์ดแวร์ โดยปัจจุบันเป็นผู้แทนจำหน่ายจอภาพแอลซีดี พีคิวแล็ปจากสหรัฐฯ ทั้งยังเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาเซอร์เฟส ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ลักษณะคล้ายโต๊ะทำงานใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส
นายอนันต์ กล่าวต่ออีกว่าสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงภาพและ เสียงดิจิตอล นั้นขณะนี้ค่อนข้างหลากหลาย โดยมีทั้งกลุ่มโรงพยาบาล,โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และภาครัฐ โดยปีนี้บริษัทมีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการแสดงผลด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล มากกว่า 10 โครงการ ซึ่งครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ คือ โครงการพัฒนาระบบสวนสนุกดิจิตอล หรือ ดิจิตอล ธีม ปาร์ค ให้กับสวนสัตว์เชียงใหม่ โดยในโครงการดังกล่าวจะผสมผสานเทคโนโลยี โฮโลแกรม อินเตอร์แอกทีฟ และ 3 มิติ เข้าด้วยกัน โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2554 นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีการแสดงภาพด้วยดิจิตอลให้กับ ศูนย์เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียน โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปพัฒนาเทคโนโลยี 3 ดี แม็ปปิ้ง แสดงภาพ 3 มิติ บนตัวอาคาร และ 3 ดีโฮโลแกรม และทัชสกีนต่างๆให้กับศูนย์เอสซีจีเอ็กซ์พีเรียนแล้วรวมมูลค่า 50 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ยังคงมีโครงการพัฒนาต่อยอด รวมถึงโครงการใหม่ที่ศูนย์เอสซีจีเอ็กซ์พีเรียนที่บางนา
นอกจากนี้ยังได้พัฒนาอุปกรณ์เอช เลิร์นนิ่ง หรือ การเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีโฮโลแกรมขึ้นมาให้กับโรงเรียนเซ็นต์ฟรังส์ โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการต้นแบบ ทำให้มีมูลค่าการลงทุนสูงระดับ 500,000 บาท ซึ่งในปีหน้ามีแผนทำตลาดระดับมวลชน หรือ แมสไปยังสถานการศึกษาอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าหากมีการทำตลาดสู่วงกว้างน่าทำให้ราคาลดลงมาเหลือไม่เกิน 200,000 บาท