ห่างหายจากแวดวงโทรคมนาคมไทยไปกว่า 4 ปี หลังผละจากเก้‰าอี้ซีอีโอ "ดีแทค" ไปนั่งเก้าอี้ใหญ่กว่าคุมเทเลนอร์เอเชีย ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาต้องเข้าไปรับบท "ซีอีโอ" ใน "ยูนินอร์" บริษัทร่วมทุนที่ "อินเดีย" อีกตลาดที่ว่ากันว่า มีอนาคตสดใสแต่ได้ชื่อว่าแข่งขันสุดร้อนแรง

สมัยนั่งเก้าอี้ซีอีโอ ดีแทคคู่ "วิชัย เบญจรงคกุล" อดีต รมช.กระทรวงกลาโหมของนอร์เวย์ ก็ขับเคลื่อนผลักดันให้ "ดีแทค" ยืนโดดเด่นท้าทายทุกคู่แข่งขันได้อย่างน่าชื่นชม

"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "ซิคเว่ เบรคเก้" ทั้งที่เกี่ยวกับอนาคตใหม่ในหมวก ซีอีโอ "เทเลนอร์เอเชีย" มุมมองต่ออุตสาหกรรมสื่อสารไทย และอนาคตดีแทค

- ได้ยินว่าพาร์ตเนอร์ที่ไปร่วมทุนในอินเดียโดนจับ

การ สอบสวนตอนนี้เกี่ยวพันกับปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่เทเลนอร์จะเข้าไปลงทุน ตอนเราเริ่มธุรกิจไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อว่า ไลเซนส์ที่ได้มาจากรัฐบาลอินเดียจะไม่ถูกต้อง เทเลนอร์เพียงลงทุนในบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากภาครัฐ ต้องการสร้างธุรกิจใหม่ นำประสบการณ์ที่สะสมจากหลายประเทศในเอเชียไปบุกเบิกที่นั่น

- กรณีนี้กระทบการลงทุนไหม

การ สอบสวนรวมทั้งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล และเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย คาดว่าจะดำเนินการต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งเราไม่อยากแสดงความเห็นหรือคาดการณ์ผลการสอบสวนว่าจะเป็นอย่างไร แต่ในแงˆธุรกิจ 2 ปีที่ผ่านมา ลงทุนไป 1.2 พันล้านเหรียญ ให้บริการ 2G และจะลงทุนต่อ หวังว่าจะเห็นผลการลงทุนในปีครึ่งข้างหน้า ถือว่าประสบความสำเร็จในฐานะอีกทางเลือกของผู้บริโภค ยูนินอรŒ มีลูกค้าเกือบ 30 ล้าน เป็นอันดับ 8 จาก 13 ราย

- ตลาดใหญ่มากและแข่งขันสูงมาก

การ แข่งขันสูงมาก ยอดยกเลิกระบบ (churn) ในธุรกิจมือถือที่อินเดียสูงมาก 10% ต่อเดือน เทียบกับเมืองไทยแล้วยอดยกเลิกอยู่ที่ 10-15% ต่อปี

- ARPU เท่าไร

ตอน เริ่มทำตลาดใหม่ ๆ ARPU (รายได้ต่อเลขหมายต่อเดือน) อยู่ที่ 250 บาท ตอนนี้อยู่ที่ 65 บาท เพราะค่าโทร.ต่อนาทีต่ำมาก ประมาณ 0.25 บาทต่อนาที

ต้องบอกว่า ทุกอย่างในอินเดียแข่งขันสูงมาก แม้แต่ในวงการสื่อ ที่อินเดียมีหนังสือพิมพ์มากกว่า 250 ฉบับ มีสถานีโทรทัศน์มากกว่า 100 ช่อง เราใช้เวลาค่อนข้างมากพูดคุยกับสื่อเพื่อทำความเข้าใจและส่งเสริมภาพลักษณ์ องค์กร

- ในแง่การบริหารงานล่ะ

ยูนินอร์ต่างจากที่ดีแทค เพราะคนอินเดียชอบการแข่งขัน ต้องตั้งเป้าให้ชัดเจน และต้องมีระบบในการตรวจสอบติดตามผลที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน

เรื่องการสร้างแรงจูงใจทีม งานไม่ค่อยต่างจากตอนที่ผมอยู่ดีแทค อาจง่ายกว่าเพราะไม่มีอุปสรรคด้านภาษา คนที่นั่นชอบการแข่งขันและต้องการเป็นผู้ชนะ แต่การลาออกของพนักงานก็สูงมากด้วย ยอด turn over 25% ต่อปี สูงมาก ๆ และส่วนใหญ่มักออกไปอยู่กับบริษัทคู่แข่ง เทียบกับคนไทยแล้วจะไม่ค่อยทำในแง่ความภักดีต่อองค์กรคนไทยสูงกว่า

- เทเลนอร์ลงทุนในเอเชียกี่ประเทศ

มีไทย อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ และมาเลเซีย ตลาดที่ท้าทายที่สุดคือ อินเดีย เทียบกันแล้วในไทยถือว่าปัญหาน้อยที่สุด

- ทำไมเลือกคุณจอนมาดูแลเมืองไทย

เพราะ มีความรู้ความสามารถด้านเทคนิค เนื่องจากเคยเป็นซีทีโอมาก่อน ด้วยประสบการณ์ด้านนี้จะช่วยให้ดีแทคพร้อมสำหรับพัฒนาเพื่อให้บริการ 3G จอนยังมีประสบการณ์ในเอเชียหลายปี ทั้งที่มาเลเซียและปากีสถาน

- มองกรณีกสทฯกับดีแทคอย่างไร

จาก ความเข้าใจของเราคือ เมื่อดีแทคได้ไลเซนส์ในการติดตั้งโครงข่ายจาก กสทช.แล้วก็ไม่น่ามีเหตุผลอะไรที่ กสทฯจะหยุดดีแทคไม่ให้ทำ 3G บนคลื่น 850 MHz ดีแทคยังคงจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ กสทฯเหมือนเดิม วันนี้มีคนใช้ 3G กว่า 3.5 แสนรายหลังเปิดให้บริการไม่กี่วัน แสดงว่าลูกค้ามีความต้องการในการใช้มาก เอไอเอสและทรูมูฟเองก็ทำ 3G แล้ว ดีแทคก็ต้องทำ

- ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาต่อไป

เราไม่ได้มีปัญหา กับการที่ กสทฯและทรูบรรลุข้อตกลงที่ดีกับทั้งคู่ แต่ในความเข้าใจของเรา ดีแทคในฐานะคู่สัญญาสัมปทานกับ กสทฯเช่นกัน ก็ควรได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

- จะถอนฟ้องแลกทำ 3G ไหม

ถ้าดีแทคถอนฟ้อง กสทฯ จะอนุญาตให้ทำ 3G ได้ ผมไม่แน่ใจว่าข้อเสนอเช่นนี้อยู่ภายใต้กฎระเบียบหรือกฎข้อใด

จริง ๆ แล้ว ถ้า กสทฯและทรูมั่นใจว่า สัญญาระหว่างกันถูกต้องทุกอย่าง ผมก็มองไม่เห็นเหตุผลว่า ทำไมต้องกังวลกับเรื่องนี้ ที่ดีแทคนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของศาล เพราะเข้าใจว่า กสทฯต้องให้การปฏิบัติที่เท่าเทียม และเป็นธรรมกับดีแทคในฐานะคู่สัญญาเช่นกัน

ดีแทคไม่ได้ตั้งใจขัดขวางทรู ตลาดเมืองไทยใหญ่พอที่จะมีผู้ให้บริการ 3 ราย

- คาดหวังอะไรกับรัฐบาลใหม่

ผม เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะพยายามผลักดันให้เกิด 3G และประมูลไลเซนส์ 2.1 GHz เพราะทำให้มีการลงทุนใหม่ ๆ และกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจได้

นโยบาย หลายอย่างที่ประกาศไว้ระหว่างการเลือกตั้งต้องการงบประมาณสูง ซึ่งการเปิดประมูล 3G จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ และกระตุ้นเศรษฐกิจ

ระหว่าง รอดีแทคยังคงให้บริการบนคลื่นเดิมต่อไป แต่สิ่งที่ดีที่สุดต่ออุตสาหกรรมนี้ คือ การออกใบอนุญาตใหม่ จัดการประมูลให้มีความโปร่งใส มีการจ่ายค่าไลเซนส์ ให้โอเปอเรเตอร์ลงทุนและเป็นเจ้าของเครือข่ายเอง

- ถ้าเป็นทรูจะประมูลไลเซนส์ใหม่ไหม

ผม ยังบอกไม่ได้ว่า ระหว่างสัญญาของทรูกับ กสทฯ กับใบอนุญาตใหม่อันไหนจะมีเงื่อนไขที่ดีกว่ากัน เพราะไม่รู้ว่า ทรูต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เท่าไรภายใต้สัญญาใหม่

แต่ไม่ช้าก็เร็ว คิดว่าการประมูลไลเซนส์ใหม่ต้องเกิดขึ้นโดยเฉพาะเมื่อสัมปทานกำลังจะหมดอายุ และต้องคืนคลื่นกลับไปที่ กสทช. ซึ่งเราหวังว่า กสทช.จะจัดประมูลไลเซนส์ที่เป็น technology neutral

- ปัญหาผู้ถือหุ้นต่างด้าวจัดการอย่างไร

เรา มั่นใจว่าการถือหุ้นของเราในดีแทคเป็นไปตามกฎหมายไทย และเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากรัฐบาลต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือกฎระเบียบใด ๆ เราก็พร้อมปฏิบัติตาม

ที่ผ่านมาเราเปิดเผยโครงสร้างผู้ถือหุ้นมา ตลอด แต่ต้องยอมรับว่าในฐานะนักลงทุน ความชัดเจนในแง่กฎหมาย กฎระเบียบของภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะช่วยให้เรากำหนดทิศทางในการทำงานต่อไป

- ที่มาเลเซียก็มีปัญหานี้

ตอน เราเข้าไปลงทุนใหม่ ๆ ภาครัฐอนุญาตให้เราถือหุ้นได้มากกว่า 50% เพื่อกระตุ้นการเติบโต ให้เวลา 5 ปี หลังครบกำหนดแล้วเราก็ต้องลดสัดส่วนหุ้นลงตามที่ตกลงไว้ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับที่เกิดขึ้นที่เมืองไทย

แต่ทั้งหมดแล้ว มีคำถามที่ไม่ค่อยมีใครเคยถามก็คือ หลังเทเลนอร์หรือแม้แต่เทมาเส็กเข้ามาลงทุนในเมืองไทยแล้ว บริการต่าง ๆ ดีขึ้นหรือแย่ลง เราเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะบอกว่าดีขึ้น ทั้งในแง่ของคุณภาพและราคา หากวันหนึ่งมีนโยบายว่าให้เฉพาะผู้ประกอบการคนไทยสามารถให้บริการได้ ผู้บริโภคก็ต้องรับผลกระทบที่ตามมา