User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » กสทแจงขายอุปกรณ์2จี ให้ทรูหมื่นล้านโปร่งใส
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

กสทแจงขายอุปกรณ์2จี ให้ทรูหมื่นล้านโปร่งใส

กสท เตรียมทำหนังสือตอบกลับ สคร.สัปดาห์หน้า มั่นใจตอบคำถามได้ทุกประเด็น การันตีราคาขายคืนอุปกรณ์ 2จีให้ทรูมูฟไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาทแน่

กสท เตรียมทำหนังสือตอบกลับสคร.สัปดาห์หน้า มั่นใจตอบคำถามได้ทุกประเด็น การันตีราคาขายคืนอุปกรณ์ 2จีให้ทรูมูฟไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาทแน่ ยันแค่เสนอเป็นแนวทาง ยังไม่ได้ลงนามสัญญาซื้อคืน ชี้หากเก็บไว้เองก็ไร้ค่าขายคืนให้ทรูมูฟที่จะหมดสัมปทานปี 56 เกิดประโยชน์ต่อองค์กรมากกว่า ระบุตอนนี้มี 3 โปรเจ็คยักษ์รอ "อนุดิษฐ์" อนุมัติงบร่วม 30,000 ล้านบาท

นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กสท โทรคมนาคม กล่าวภายหลัง การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) วานนี้ (23 ส.ค.) ว่า ในต้นสัปดาห์หน้าจะส่งหนังสือชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ถึงประเด็นในการขายคืนอุปกรณ์โครงข่าย 2จีให้แก่บริษัท ทรูมูฟ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยมั่นใจว่า จะตอบข้อซักถาม และประเด็นข้อสงสัยที่สคร.สอบถามมาได้ทุกประเด็น ซึ่งขณะนี้ กสท ได้ทำหนังสือถึงน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ถึงแนวทาง และแผนการดำเนินงานขายคืนอุปกรณ์ดังกล่าวไปแล้ว รอเพียงให้รมว.ไอซีทีเห็นชอบ

รายงาน ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สคร.ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ 08087/3565 ลงวันที่ 15 ส.ค. 2554 ถึงนายอำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง และประธานบอร์ด กสท ขอให้ชี้แจงกรณีบอร์ดมีมติอนุมัติวันที่ 19 ก.ค. 2554 ให้ กสท ขายคืนอุปกรณ์ 2 จีให้บริษัท ทรูมูฟ จำกัดในราคาขั้นต่ำ 10,000 ล้านบาท โดยระบุว่า การขายคืนทรัพย์สินคืนให้เอกชนในมูลค่าสูงนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องดำเนินการพิจารณาอย่างรอบคอบ และอาจมีผลกระทบต่อกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น 100% ในระยะยาวด้วย

เขา กล่าวว่า แผนการขายคืนอุปรณ์ 2จีให้แก่ทรูมูฟนั้น ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาใดๆทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่า กสทไม่ได้เสียประโยชน์ใดๆ เป็นเพียงการร่างแนวทางแผนการรองรับหลังจากที่คู่สัญญาสิ้นสุดสัมปทานลง โดยทรูมูฟ จะสิ้นสุดสัญญาในเดือนก.ย.ปี 2556 เช่นเดียวกับ บริษัท ดิจิตอลโฟน (ดีพีซี) ที่จะสิ้นสุดสัมปทานในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ทางดีพีซี ยังไม่ได้เสนอแผนการดำเนินงานมาให้ อย่างไรก็ตาม หากน.อ.อนุดิษฐ์ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่จะขายคืนให้แก่ทรูมูฟ กสทก็ไม่สามารถทำอะไรได้

“เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับไอซีที ที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ซึ่งรัฐมนตรีไอซีทีแจ้ง มาแล้วว่า จะเข้ามาดูรายละเอียดหลังแถลงนโยบายเสร็จ แต่ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ขายเสาสถานีฐาน และทรานมิชชั่น แต่ขายเฉพาะอุปกรณ์ 2จี ที่ติดอยู่ใน 8,000 สถานีฐาน ซึ่งถ้าเก็บก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะอีก 5 ปีคงเปลี่ยนเป็น 3 หรือ 4จีกันหมด ดังนั้น ขายคืนไปให้ทรูมูฟยังสร้างประโยชน์ให้แก่กสทมากกว่าเก็บไว้เฉยๆ”

การันตีราคาต้องเกินหมื่นล้านบาท
นาย จิรายุทธ กล่าวว่า ส่วนการประเมินราคาในเบื้องต้นการันตีว่าจะขายไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยคำนวนจากส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตที่จะได้ในอัตรา 30% โดยจะมีการตั้งตัวกลางขึ้นมาประเมินราคาอีกครั้ง หรือต้องมีการจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน (เอฟเอ) มาตีมูลค่า ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับมูลค่าปัจจุบัน (เอ็นพีวี) และมูลค่าทางบัญชี (บุ๊ค แวลลู) ที่สำคัญคือการลงนามซื้อขายนี้ทรูมูฟ จะต้องยอมถอนข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ในเสาส่งสัญญาณและตู้คอนเทนต์เนอร์ ที่อยู่ในการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ เพื่อยื่นให้ศาลปกครองเข้ามาชี้ขาดได้เร็วขึ้น ซึ่งแนวทางนี้บอร์ดได้เห็นชอบแล้ว

ทั้งนี้ ข้อเสนอนี้เกี่ยวพันกับการขายคืนอุปกรณ์ 2จี และการเพิกถอนคดีฟ้องร้องนั้น จะทำให้ กสท ได้ประโยชน์ เพราะข้อพิพาทนี้อยู่ในอนุญาโตฯ มาหลายปีแล้ว ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งปกติต่อให้อนุญาโตฯ ชี้ขาดมาแล้ว ผู้ที่แพ้ก็จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่ออยู่ดี แต่ถ้าส่งให้ศาลพิจารณาตอนนี้เลย ก็จะได้รู้เร็วขึ้นว่าใครเป็นเจ้าของเสากับตู้คอนเทนต์เนอร์ ซึ่งเงื่อนไขนี้ จะใช้เจรจากับทั้งดีพีซี ที่มีสถานีฐานราว 2,000 แห่ง ส่วนบมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ที่จะหมดสัมปทานในปี 2561 ก็จะมีการหารือถึงแนวทางแผรการรองรับเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันดีแทคที่มีสถานีฐานกว่า 12,000 แห่ง

สำหรับการบริหารจัดการลูกค้าหลังหมดสัมปทานนั้น ภายใน 2555 กสท ในฐานะเจ้าของคลื่นคงามถี่ 850 เมกะเฮิรตซ์ จะต้องเสนอแผนให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม(กสทช.) ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับลูกค้าทรูมูฟ และดีพีซี เพราะคลื่นความถี่จะถูกดึงกลับไปสู่กสทช. แต่ในทางเดียวกัน กสทช. ก็จำเป็นจะต้องมีแผนให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรกับคลื่นนี้ต่อไป จะมีรูปแบบการประมูลแบบใดด้วย ซึ่งในเวลานั้น กสท จะเข้าประมูลด้วยหรือไม่ก็ต้องดูความเหมาะสม และคุ้มค่าการลงทุนอีกครึ่งหนึ่ง

ระบุมี 3 โปรเจ็ครอ"อนุดิษฐ์"เคาะ
เขา กล่าวว่า ปัจจุบัน กสท มีแผนการลงทุน 3 โครงการ ที่ต้องรอขอความเห็นชอบ และการอนุมัติของน.อ.อนุดิษฐ์ รมว.ไอซีที มูลค่า 28,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.แผนการขายคืนอุปกรณ์ 2จีให้แก่ทรูมูฟมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท 2.การขอความเห็นชอบจากไอซีที กรณีการสร้างโครงข่าย 3จีอุปกรณ์ส่งสัญญาณ และทรานมิชชั่น ในโครงการ 3จีเอชเอสพีเอที่ กสท ทำร่วมกับกลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งหากไอซีทีเห็นชอบแล้ว จะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อขออนุมัติงบต่อไป

และ 3.การอนุมัติการติดตั้งโครงข่ายไพเบอร์ออฟติก โครงการใยแก้วนำแสงทั่วประเทศเพื่อให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตความเร็ว สูง ผ่านโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติก (เอฟทีทีเอ็กซ์) มูลค่า 6,000 ล้านบาท

โดยเรื่องนี้บอร์ด กสทฯ ได้อนุมัติ และส่งให้สศช. และกระทรวงไอซีที ตรวจสอบ และพิจารณาอนุมัติและนำเสนอไปยังครม. ซึ่งต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้อนุมัติโครงการ ซึ่งเชื่อว่าหากโครงการได้รับการอนุมัติ จะมีส่วนช่วยให้รายได้จากบริการธุรกิจสื่อสารข้อมูลทได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท

รอหนังสือจากอัยการกรณีดีแทค
ส่วน กรณีดีแทคเปิดให้บริการ 3จี ด้วยเทคโนโลยีเอชเอสพีเอ นายจิรายุทธ กล่าวว่า แม้ดีแทคจะยืนยัน และตอบคำถามสื่อมวลชนทางหน้าหนังสือพืมพ์ว่า การเปิดให้บริการ 3จีบนการอัพเกรดเทคโนโลยในคลื่นความถี่เดิม ไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการใด ๆ แต่ความจริงดีแทคไม่ควรประกาศว่าเป็นการให้บริการแบบคอมเมอร์เชียล (พาณิชย์) เพราะยังไม่ได้รับอนุญาต แต่สามารถให้บริการในรูปแบบการเปิดทดลองซึ่งทาง กสท อนุญาตให้ทำได้อยู่แล้ว

ขณะนี้ก็ได้แต่หวังว่าภายใน 90 วัน หลังจาก กสท ส่งหนังสือแจ้งเตือนดีแทคไปเมื่อ 17 ส.ค. จะมีหนังสือตอบกลับข้อหารือจากอัยการสูงสุดจากที่กสท ส่งหนังสือไปถามตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. เรื่องอำนาจของ กสท ในการอนุญาตให้ดีแทคเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ คาดว่าในเร็วๆ นี้ ดีแทคจะทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการกลับมาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร

นอก จากนี้ ที่ประชุม ยังมีการอนุมัติ การจ่ายเงินปันผลพิเศษรายไตรมาสให้กับกระทรวงการคลัง 1,270 ล้านบาท สำหรับงวดไตรมาส 2 ซึ่งเป็นปันผลพิเศษที่เพิ่มจากปันผลปกติที่ กสท จะต้องจ่ายให้ในอัตรา 40% ของกำไรสุทธิทุกปี ทั้งนี้ การประชุมบอร์ดนัดสุดท้ายมีกรรมการ3คนที่ไม่ร่วมประชุม คือ นายดุสิต เขมะศักดิ์ชัย , นายกฤษดา กวีญาณ และม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.