User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ล็อกเป้า SMART THAILAND ดันเกิด 3G ภารกิจหลัก ICT เลือดใหม่
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ล็อกเป้า SMART THAILAND ดันเกิด 3G ภารกิจหลัก ICT เลือดใหม่

เข้า รับตำแหน่งหมาดๆ รมว. ICT เลือดใหม่ก็แย้มนโยบายที่ล็อคเป้ากลยุทธ์เดินหน้าขับเคลื่อน อุตฯ ICT ไทยทันที ด้วย “SMART THAILAND” ที่ไม่ได้มองแค่ การแจกสมุดคอมพิวเตอร์ 3G หรือบรอดแบนด์ แต่การใช้งานไอที ต้องครอบคลุมทุกอย่าง

รม ว. ICT เผยหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ชี้ยังไม่มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัด รอรัฐแถลงต่อสภาก่อน ตั้งเป้าให้เป็น SMART THAILAND พร้อมยืนยันสนับสนุนให้ 3G เกิดขึ้นในประเทศไทย ชี้นโยบายแจกแท็บเล็ตต้องทำงานเชิงบูรณาการ

นาวา อากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโยลีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวภายหลังเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงไอซีทีเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จะยังไม่มีการมอบนโยบายให้กับหน่วยงานในสังกัด รวมทั้งการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองของกระทรวงไอซีที เนื่องจากจะต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน

ใน ขณะนี้จะเป็นการศึกษางานในเบื้องต้นก่อน จากนั้นจะนำนโยบายของรัฐบาลมาปรับใช้กับนโยบายทางด้านไอซีทีเข้าด้วยกัน โดยตนมีเป้าหมายให้เป็น SMART THAILAND ให้การใช้งานไอทีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชน ซึ่งไม่เพียงแต่การให้บริการอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่จะครอบคลุมถึงการดำรงชีวิตของประชาชนและการบริหารงานในหน่วยงานภาครัฐ

ยันหนุนให้ไทยมี 3G

ขณะ ที่สัญญาสัมปทานโทรศัพท์มือถือ และสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3G ระหว่าง บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท โทรคมนาคม ที่มีกับผู้ประกอบการเอกชนนั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า จะขอศึกษาอำนาจหน้าที่ และดูว่าการดำเนินการสัญญานั้น ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคงไม่ปล่อยปละละเลยอย่างแน่นอน แต่ยืนยันว่าต้องการที่จะสนับสนุนให้เกิดระบบ 3G ในประเทศไทย

แจกแท็บเล็ตต้องบูรณาการ

ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลนั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง คงจะต้องมีการหารือร่วมกัน และทำงานในลักษณะเชิงบูรณาการ และการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือ Workshop เพื่อให้การดำเนินนโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

“วันนี้ คำว่าแท็บเล็ตพีซี ขอใช้ภาษาว่าสมุดคอมพิวเตอร์แล้วกัน ซึ่งเป็นเครื่องมือฉลาดอย่างหนึ่ง ที่ตัวของมันจะเกิดประโยชน์หรือไม่ จะต้องเชื่อมโยงกับระบบเครือข่ายที่บรรจุข้อมูลที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมดต้องการให้เข้าถึง ซึ่งเครื่องมือที่ชาญฉลาดอย่างเดียว จะไร้ค่าหากเน็ตเวิร์คยังไปไม่ถึง มีการตั้งคำถามเยอะมากเรื่องนี้ว่าหากแจกแล้ว นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลในพื้นที่ป่าเขาจะสามารถเข้าถึงหรือใช้แท็บเล็ต เข้าสู่คลังความรู้ของประเทศอย่างไร ตรงนี้เป็นคำตอบที่ไอซีทีต้องหา และเดินไปให้ถึง”

นอกจากนี้ เรื่องของเครื่องแท็บเล็ตนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แต่ในมิติหรือองค์ประกอบมีหลายกระทรวงที่จะต้องบูรณาการเชื่อมโยงกัน ทั้งในส่วนของข้อมูลที่ต้องการเด็กนักเรียนแต่ละชั้นวัยเข้าถึง ซึ่งต้องมีตำราเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้จะไม่ใช่ความรับผิดชอบกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง อีกทั้งยังถือเป็นความได้เปรียบของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่เป็นเสียงข้างมาก และได้บริหารในหลายกระทรวงร่วมกัน การสร้างความสำเร็จจึงมีโอกาสสูง ซึ่งการบริหารและบูรณาการด้านไอทีในอนาคตเชื่อว่ามีทิศทางได้เปรียบในการ บริหารประเทศ

ไม่หนักใจนั่งบริหารไอซีที

อย่างไรก็ดี ไม่หนักใจในการทำหน้าที่ รมว.ไอซีที แม้จะมีผลประโยชน์จำนวนมาก อีกทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการให้การทำงานมีความตรงไปตรงมา โปร่งใส และตั้งใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

ส่วน การปิดเว็บไซต์ที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงนั้น รมว.ไอซีที กล่าวว่า เป็นสิ่งที่กระทรวงไอซีทีได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งคงจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป

TISPA ขอบรอดแบนด์ราคาต่ำ

อนันต์ แก้วร่วมวงศ์ นายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (TISPA) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการผลักดันนโยบายบรอดแบนด์ของหน่วยงานภาครัฐหากมีการสานต่อ แต่ถ้าจะให้นโยบายนี้ประสบความสำเร็จมีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้าถึงประชาชน อย่างแท้จริง เรื่องราคาบรอดแบนด์ก็มีส่วนสำคัญ โดยมองว่า ราคาบรอดแบนด์ในระดับราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 บาท/เดือน หรือต่อครัวเรือน ส่วนราคา 600 บาท/ เดือน ที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือไอเอสพี ให้บริการกันอยู่ในปัจจุบันนั้น เป็นราคาที่สูงเกินไปหรือไม่ จะมีแนวทางเป็นไปได้อย่างไร หากจะลดความเร็วให้ลดน้อยลง เพื่อให้ครัวเรือนที่อยู่ห่างไกลสามารถใช้บริการได้ เช่นเดียวกับเครื่องมือถือในสมัยก่อน ซึ่งในยุคแรก ๆ มือถือก็มีราคาสูงคนไม่ค่อยใช้ในตอนแรก แต่เมื่อลดราคาเครื่องมือถือลงมาที่ระดับ 3,000-5,000 บาท ทำให้ตลาดมือถือโดยรวมเติบโตขึ้นมาในปัจจุบัน

“หากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้รับความนิยม ปัจจัยเรื่องราคาน่าจะมีส่วนสนับสนุนตลาดบรอดแบนด์โดยรวมของประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ยังไม่ลดราคา มองได้ว่าเป็นเพราะมีเรื่องกลไกการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งองค์กรที่ใช้บริการส่วนใหญ่ ยังยอมรับในราคา 600บาท / เดือน ในระดับความเร็วที่ต้องการ ไม่ต้องการที่จะลดระดับความเร็ว ดังนั้น กรณีจะดำเนินการเพื่อให้ลดความเร็วลงมา เพื่อให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกครัวเรือนตามเป้าหมาย หรือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความนิยม เป็นเรื่องที่ กสทช. ต้องเข้ามาดูและและจัดสรรต่อไป”

สามารถฯ ลั่น พร้อมร่วมวง แจกสมุดคอมพิวเตอร์

วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า นโยบายภาครัฐที่กำลังพยายามสร้างรากฐานระบบการเรียนรู้ กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคด้วยการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะเป็นตัวผลักดันให้อุตสาหกรรมไอซีทีในภาพรวมเติบโต เช่นเดียวกับนโยบายแจกแท็บเล็ตพีซีของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทางบริษัทอยู่ ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการทั้งเรื่องเนื้อหาที่จะไปถึงตัวเด็กนัก เรียนและเสป็คของเครื่อง ว่าควรจะมีเสป็กประมาณไหน เพื่อจะได้กำหนดราคา และเรื่องบริการหลังการขายจะออกมาเป็นอย่างไร

“เนื่องจากเครื่องไม่ใช่ราคาบาท สองบาท หากเด็กนักเรียนทำตกแตกใครจะรับผิดชอบ เชื่อว่า หากดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวจะมีเรื่องที่ต้องให้ทำอีกมาก คงไม่ง่ายแค่การเข้าประมูล อย่างไรก็ตามหากจะดำเนินการ ขั้นตอนการประมูลต้องให้เสร็จภายในปีนี้เพราะ การส่งมอบงานที่มีจำนวนเครื่องมากกว่า 8 แสนเครื่องคงจะทำไม่ทันหากล้าช้าออกไป แต่ขณะ นี้บริษัทยังไม่ได้เจรจากับรมว.ไอซีที คนใหม่อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ส่วนราคาแท็บเล็ตพีซีที่คิดว่าเหมาะสมน่าจะประมาณ5,000-7,000บาท/เครื่อง กำลังดี"วัฒน์ชัยกล่าว”


คลื่นคอนเทนต์มาแล้ว

สุภสิทธิ์ รักกสิกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ มัลติมีเดีย จำกัด เปิดเผย "เทเลคอมเจอนัล" ว่า หากมองอุตสาหกรรมคอนเทนต์ไทยเมื่อ 4-5 ปีก่อน ตลาดไม่หวือหวามาก เพราะแม้จะทำเนื้อหาคอนเทนต์ดีแค่ไหน ก็ไปติดที่ขีดความสามารถของเครือข่าย การขยายตลาดในยุคนั้น ผู้ให้บริการทุกรายจึงมุ่งไปที่เรื่องเทคโนโลยี และมุ่งเน้นออกแพ็คเกจการให้บริการใหม่ๆ ร่วมกับการทำโปรโมชั่น

แต่ภาพของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ได้เริ่มเปลี่ยนไปในช่วง 2 ปี ก่อนหน้านี้ จากแนวโน้มที่ทุกคนมองว่า เครือข่าย 3G เริ่มมา ดังนั้นปัจจุบันจะเห็นการปรับตัวของบรรดาผู้ให้บริการคอนเทนต์โพรวายเดอร์ แต่ละรายพยายามคิดหาวิธี โดยเฉพาะจะเห็นภาพการจับมือร่วมกันระหว่างพันธมิตรที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับการแข่งขัน

เมื่อโครงข่าย 3G เชิงพาณิชย์ หรือไลเซนส์ใหม่ออกมาในปีหน้า ถึงตอนนั้น จะได้เห็นภาพการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการชนิดดุเดือด สำหรับบริษัท เป็นผู้เล่นรายเดิม มีการปรับตัวเรื่องบรอดแบนด์มาล่วงหน้า 2 ปีแล้ว โดยมีการลงทุนพัฒนาคอนเทนต์ต่อเนื่องเพื่อรองรับกับขีดความสามารถของเครือ ข่าย ไม่ว่าจะเป็น MVNO, ADSL, GSM 3G ไม่ต่ำกว่าปีละ 30-50 ล้านบาท มีบุคลากรทำงานกว่า 200 คน

ทั้ง นี้มองว่าใครที่ยังเล่นอยู่ในตลาดหากไม่เร่งปรับตัว อาจจะไปต่อไม่ได้ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก การบริโภคข้อมูลข่าวสารของผู้บริโภคไม่ใช่เพียงแค่หาข้อมูลบนเครือข่ายอิน เทอร์เน็ตอีกต่อไป ทุกคนเปลี่ยนมาอยู่ในสังคมออนไลน์

ดัง นั้นคอนเทนต์ที่จะมาต่อไปจะผูกกับสังคมออนไลน์อย่างเครือข่ายเฟซบุ๊ก แต่คอนเทนต์ที่ออกมาจะทำอย่างไร ให้ดูเหมือนว่าไม่ใช่โฆษณา และจะให้คนในสังคมออนไลน์เข้ามามีส่วนร่วมในคอนเทนต์นั้นๆ ได้อย่างไร เช่น แอพพลิเคชั่น สตรีมมิ่ง เซอร์วิส ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คอนเทนต์โพรวายเดอร์แต่ละรายต้องคิด และจะต้องมีพันธมิตร

สำ หรับคอนเทนต์ที่บริษัท มุ่งเน้น ยังเป็นเรื่องข้อมูลกีฬา กิน ดื่ม เที่ยว โหราศาสตร์ ขยายตลาดในลักษณะ "อินทริเกรทเต็ด เซอร์วิส มาร์เก็ตติ้ง" ส่งผ่านข้อมูลไปยังลูกค้าในลักษณะเป็นแอพพลิเคชั่น ไม่ใช่เพียงแค่ส่งข้อมูลแบบเอสเอ็มเอสเหมือนเดิม เชื่อว่า คอนเทนต์โพรวายเดอร์ ที่จะแข็งแรงต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ใดๆ ก็รองรับบริการคอนเทนต์ที่จะมาตามช่องทางต่างๆ ได้

ทั้ง นี้บริษัทมีการรับรู้รายได้ในส่วนคอนเทนต์ประมาณ 20 ล้านบาท/ปี แต่ในปีหน้า คาดว่ารายได้ส่วนนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น หรือมีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาท จากความพร้อมของโครงข่าย 3G
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.