 |
 |
 |
 |
ข่าว |
 |
 |
|
 |
 |
กลุ่มสามารถฯ คาด รายได้รวมสิ้นปี' 54 โตกว่า 60%
กลุ่ม สามารถฯ สั่งลุยงานประมูลโครงการภาครัฐ หลังรับรู้รายได้ครึ่งปีแรกเฉียด 10,000 ล้านเผยเป็นรายได้จากการติดตั้งโครงข่าย 3G และรายได้จากธุรกิจโมบายล์มัลติมีเดีย ระบุไตรมาสสองมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ล่าสุดยังคว้างานติดตั้งอุปกรณ์โครงการวางระบบเครือข่ายสื่อสารหลักกระทรวง กลาโหมมูลค่า 447 ล้านบาท เผยเดือนหน้าจะมีโครงการประมูลใหม่เข้ามาอีกกว่า 1,000 ล้านบาท คาดรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้ทะลุ 1.2 หมื่นล้านบาท และไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทในปี' 56
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว ว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัท จะมองการเติบโตในระยะยาวไม่ได้มองเพียงแค่การสร้างรายได้ปีต่อปี โดยมีการวางเป้าหมายไว้ยาวไปถึงปี 2556 ที่กลุ่มสามารถฯ ตั้งเป้ารายได้รวมกันไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายที่ท้าทายดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกสายธุรกิจของกลุ่มกว่า 20 บริษัทเร่งปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคในสังคมออนไลน์
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง บริษัท จะมุ่งเน้นงานประมูล ในสายไอซีที โซลูชั่น ให้มากขึ้น เพราะเมื่อวิเคราะห์ ผลประกอบการของแต่ละสายธุรกิจแล้ว พบว่า รายได้ที่มาจาก บมจ. สามารถเทลคอม มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,374 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 90% มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 142% ซึ่งเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้โครงการขนาดใหญ่ อาทิ งานติดตั้งโครงข่าย 3G ให้แก่ทีโอที และโครงการ School Net และล่าสุด บริษัทยังได้เซ็นสัญญาซื้อขายอุปกรณ์พร้อมติดตั้งในโครงการวางระบบเครือข่าย การสื่อสารหลักส่วนเพิ่มเติมของกระทรวงกลาโหมมูลค่า 447 ล้านบาท และยังมีโครงการใหม่ๆ ที่รอการประมูลอีกกว่า 10 โครงการ อาทิ โครงการ AMR เฟส 2 ของกฟภ. โครงการขยายบริการ CUTE และบริการ RFID ของการท่าฯ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ และโครงการ NGN เป็นต้น รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
ขณะที่สายธุรกิจโมบายล์ มัลติมีเดีย โดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย มีรายได้ในไตรมาส 2 ปีนี้รวมทั้งสิ้น 1,783 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 71% เนื่อง มาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้น และการบริหารต้นทุนขาย รวมทั้งในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ ทั้งในและต่างประเทศประมาณ 2.2 ล้านเครื่อง เนื่องจากมีปัจจัยบวกที่คาดว่าจะส่งผลให้ตลาดมือถือกลับมาคึกคัก นั่นคือการขยายโครงข่าย 3G ของบริษัทผู้ให้บริการที่จะครอบคลุมทั่วประเทศภายในต้นปีหน้า โดย ไอ-โมบาย มีแผนที่จะเปิดตัวมือถือสมาร์ทโฟน อีก 6 รุ่น ในครึ่งปีหลัง และอีกกว่า 10 รุ่น ภายในครึ่งปีหน้า รวมถึงอุปกรณ์ลูกข่ายอื่นๆ ที่รองรับโครงข่าย 3G อาทิ แท็บเล็ต พีซี , ยูเอสบีโมเด็ม, ไว-ไฟ
ส่วนธุรกิจคอนเทนต์ จะมุ่งเน้นพัฒนาข้อมูลให้เป็นแอพพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟน ที่เป็นที่นิยม ทั้งไอโฟน , แอนดรอยด์ และแบล็คเบอร์รี่ ซึ่งปัจจุบันได้มีการทำแอพพลิเคชั่น Sport Arena บนไอ-โฟน ร่วมกับเอไอเอส ส่วนแผนการขยายธุรกิจ MVNO บริษัท มุ่งเน้นเป้าหมายในการขยายช่องทางจัดจำหน่าย จุดเติมเงิน และจุดชำระเงินให้ครอบคลุมทั้งในร้านไอ-โมบาย,ตัว แทนจำหน่าย ไฮเปอร์มาร์ท ร้านไอทีชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อและตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเป็นผู้ให้บริการรายหลักสำหรับการขยายโครงข่าย 3G ทั่วประเทศของทีโอทีต่อไป
ในสายธุรกิจอื่นๆ เช่น Relate Businesses ทั้งบริษัท วันทูวัน คอนเทคส์ จำกัด ผู้ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ และบริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด ผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร และบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด มีรายได้รวมกัน 512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% และสายธุรกิจบริการสาธารณูปโภค Utilities Services ประกอบด้วย บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด, บริษัท Kampot Power Plant จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจที่ประเทศกัมพูชา ยังคงเป็นแหล่งที่มาของรายได้ประจำ โดยในไตรมาส 2 ปีนี้ มีรายได้รวม 250 ล้านบาท
|
 |
 |
 |
 |