กลุ่มลูกค้าไอโฟนในเกาหลีใต้มากกว่า 25,000 คนรวมตัวฟ้องร้องแอปเปิล (Apple) เรียกค่าเสียหายเป็นเงินมูลค่า 26 ล้านเหรียญ ระบุว่าถูกแอปเปิลละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว เพราะไอโฟนนั้นเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวเรื่องสถานที่ใช้งาน (location information) โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว

เงินค่าเสียหาย 26 ล้านเหรียญนี้เป็นการคำนวณจากผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้จำนวน 27,612 คนที่ต้องการให้แอปเปิลชดใช้ค่าเสียหายรายละ 1 ล้านวอน (ราว 932 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 28,000 บาท) ทั้งหมดนี้ทนายความของกลุ่มนามคิม ฮุง-ซก (Kim Hyeong-seok) ระบุว่าการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปเพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งทั้งหมดยังไม่มีรายงานความเห็นจากประชาสัมพันธ์แอปเปิลประจำกรุงโซลใน ขณะนี้

การฟ้องร้องครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องหลังจากนักวิจัยด้านความ ปลอดภัยของอังกฤษประกาศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าสมาร์ทโฟนยอดฮิตของแอปเปิลอย่างไอโฟนนั้นติดตามเก็บข้อมูลว่าเจ้าของ เครื่องเดินทางไปที่ไหนบ้าง โดยจะบันทึกข้อมูลลงในเครื่องก่อนจะ อัปโหลดอัตโนมัติลงในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เมื่อโทรศัพท์ถูกเชื่อมกับ คอมพิวเตอร์ผ่านโปรแกรมไอจูนส์ (iTune) ทั้งข้อมูลพิกัดเส้นรุ้ง-เส้นแวงของตำแหน่งใช้งานเครื่อง รวมถึงวันเวลาโดยประมาณ ทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในไฟล์ลับซึ่งยังไม่ได้รับการปกป้องที่รัดกุมพอ

แม้แอปเปิลจะรับผิดชอบด้วยการออก iOS 4.3.3 เพื่อแก้ไขปัญหาการติดตามข้อมูลตำแหน่งผู้ใช้ พร้อมยืนยันว่าการเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นความตั้งใจเพื่อเก็บฐานข้อมูลจุด ให้บริการ Wi-Fi และข้อมูลของเสาผู้ให้บริการเครือข่ายรอบบริเวณที่ใช้งาน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าของไอโฟนมีโอกาสถูกสอดแนมและละเมิดสิทธิ ส่วนบุคคล ทั้งหมดนี้ทำให้ชาวเกาหลีใต้บางส่วนออกมาร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมจากศาลกิมจิ

ยังไม่มีความชัดเจนว่าการร้องเรียนครั้งนี้จะถูกตัดสินไปในทางใด เนื่องจากแม้ในทางทฤษฎี ข้อมูลเหล่านี้จะถูกมองว่าเป็นข้อมูลชั้นยอดสำหรับนักโฆษณาที่ต้องการสอดแนม พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำเสนอโฆษณาที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายให้ตรงเป้า ที่สุด แต่รายงานย้ำว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้ถูกส่งไปที่แอปเปิลหรือบริษัทรายอื่น (third party) แต่จะถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของเจ้าของไอโฟนเท่านั้น แสดงถึงความไม่ตั้งใจของแอปเปิลซึ่งทุกชาติที่เคยออกมาตรวจสอบไม่ได้ดำเนิน การใดๆและยอมรับความบริสุทธิของแอปเปิล

หน่วยงานที่เคยสอบสวนแอปเปิลต่อกรณีที่เกิดขึ้นนั้นมีทั้งหน่วยรักษาสิทธิมนุษยชนสหรัฐฯ House Energy and Commerce Committee และอีกหลายหน่วยงานในยุโรปที่ส่งจดหมายถึงแอปเปิลให้ชี้แจงข้อมูลทั้งหมดที่ เกี่ยวข้องกับกระบวนการติดตามพิกัดการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคทั่ว โลก ทั้งรายละเอียดข้อมูลที่ถูกเก็บ การนำไปใช้ การจัดเก็บ และการแบ่งปัน รวมถึงเหตุผลในการติดตามเก็บ โดยเรียกร้องให้ทั้งสองให้ความกระจ่างก่อนวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ซึ่งหลังจากนั้น หน่วยงานเหล่านี้ก็ยังไม่มีการประกาศมาตรฐานลงโทษแอปเปิลต่อกรณีที่เกิดขึ้น

ครั้งนั้นไม่เพียงแอปเปิล แต่หน่วยงานสหรัฐฯยังส่งจดหมายเรียกชี้แจงถึงผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ โทรศัพท์มือถือรายอื่นในตลาดอีก 4 ราย ทั้งไมโครซอฟท์ (Microsoft) โนเกีย (Nokia) ริม (Research in Motion) และฮิวเล็ตแพคการ์ด (Hewlett-Packard) รวมถึงกูเกิลเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีระบบปฏิบัติการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องใดจะลักลอบตามเก็บข้อมูลพิกัดผู้ใช้โทรศัพท์มือถืออีก

สำหรับกรณีการฟ้องร้องของชาวเกาหลีใต้ ทนายความฮุง-ซกเชื่อว่าคดีจะสามารถเริ่มพิจารณาในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน นี้ ซึ่งหากศาลกิมจิตัดสินให้ประชาชนชนะ แอปเปิลจะต้องจ่ายเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 2.76 หมื่นล้านวอน ทั้งหมดนี้ทนายความระบุว่าค่าเสียหายคนละ 1 ล้านวอนนั้นเป็นค่าเสียหายที่เป็นธรรมตามกฎหมายเกาหลีใต้ ซึ่งต่ำกว่าอัตราที่กฏหมายสหรัฐระบุ

แอปเปิลนั้นมีดีกรีเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของสหรัฐฯในขณะ นี้ มีกำไรสูงราว 7.31 พันล้านเหรียญในช่วงไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถจำหน่ายไอโฟนได้เกิน 20 ล้านเครื่อง และแท็บเล็ต"ไอแพด"อีก 9 ล้านเครื่อง