ซี เกท เทคโนโลยี ระบุ อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ อยู่ในช่วงตลาดโตมหาศาล ล่าสุดผลประกอบการในไตรมาส 4 ปีนี้ มีการจัดส่งดิสก์ไดรฟ์ จำนวน 52ล้านตัว โดยมียอดรายรับ จำนวน 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐจากผลประกอบการทั้งปี ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 มีรายได้รวมทั่วโลก 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สตีฟ ลุคโซ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี กล่าว ว่า อุตสาหกรรมฮาร์ดดิกส์ไดรฟ์กำลังได้รับประโยชน์จากปริมาณความต้องการ การจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการใหม่ ๆโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ที่เชื่อมผู้คนเข้า ด้วยกัน ซึ่งส่งผลต่อปริมาณความต้องการของทั้งอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นเกือบร้อยละ 40 ในปีการเงิน 2011 ที่มีความต้องการจัดเก็บข้อมูลสูงถึง 330 ล้านเทราไบต์

นับ ว่าเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมฮาร์ดดิกส์ไดรฟ์ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้งและศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายทุกรายที่กำลังขยายการลงทุน

โดย ไตรมาส 4 ปีนี้มีรายงานความจุโดยเฉลี่ยของไดรฟ์ซีเกทแต่ละตัวที่ถูกจัดส่งไปยังลูกค้า เพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณ 590 กิกะไบต์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39เมื่อเปรียบเทียบกับปีการเงินก่อน โดยมีการจัดส่งดิสก์ไดร์ฟ์จำนวน 52 ล้านตัว ส่งผลต่อยอดรายรับไตรมาสนี้ ทั้งหมด 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนผลประกอบการทั้งปีของบริษัทที่สิ้นสุด 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554 มียอดรายรับจำนวน 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก หรือมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 19.6 กำไรสุทธิ จำนวน 511 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี เท่ากับ 1.09 เหรียญสหรัฐ

ด้านวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮิตาชิดาต้า ซิสเต็มส์ จำกัด เปิดเผย "เทเลคอมเจอนัล"ว่า บริษัทมีแผนนำเซิร์ฟเวอร์เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ แม้ว่าจะไม่เคยทำตลาดเซิร์ฟเวอร์ในไทยมาก่อนก็ตาม ทั้งนี้เพื่อนำมาเสริมให้โซลูชั่นคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่บริษัทจะมุ่งเน้นต่อไปนั้นครบวงจรทุกผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรุกขยายตลาดงานประมูลราชการ และกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร สื่อสารประกันภัย และกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงาน เนื่องจากลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่ต้องการซื้อระบบเบ็ดเสร็จจากผู้ให้บริการ เพียงรายเดียว

ทั้ง นี้ในการขยายตลาดอุปกรณ์การจัดเก็บข้อมูลปัจจุบันยังขายผ่านผู้จัดจำหน่าย ได้แก่ อินแกรมไมโคร เอ็นฟอร์ทและผ่านตัวแทน (รีเซลเลอร์) อีก 7 ราย ที่เป็นผู้รวบรวมระบบและตัวแทนรายย่อยอีกหลายรายโดยบริษัท จะเป็นผู้แนะนำและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า

สำหรับ ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตมากกว่าไอดีซีคาดการณ์หรือโตกว่า 15%เนื่องจากมีลูกค้ารายใหม่เข้ามา 6-7 ราย ขณะที่ลูกค้าองค์กรรายเก่าส่วนใหญ่ยังมั่นใจแบรนด์ฮิตาชิ

สำหรับทิศทางไอทีครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยดีการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะเรียบร้อย ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น