เอปสัน อัดเทคโนโลยีหัวพิมพ์ไมโคร เปียโซ่ ลงเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง ชูคุณสมบัติ เด่นพิมพ์เร็ว-หัวพิมพ์แข็งแกร่ง เจาะกลุ่ม โรงพิมพ์-สตูดิโอถ่ายภาพ พร้อมนำเครื่อง พิมพ์ชัวร์เพรส เจาะอุตสาหกรรมการพิมพ์แพ็กเกจจิ้ง-ฉลากมูลค่า 70,000 ล้านบาท นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย)ฯ เปิดเผยว่าภายใต้กลยุทธ์ ไซโก้ เอปสัน 2015 นั้นบริษัทได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการ เติบโตในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยมุ่งสร้างทีมงานและตลาดใหม่ในส่วนต่างๆ รวมถึงตลาดโปรกราฟิกที่ใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ ไมโครปิเอโซเป็นแกนในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะตลาดพิมพ์เชิงอุต-สาหกรรม ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่เอปสันจะเน้นการทำการตลาดในปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในตลาดการพิมพ์เชิงพาณิชย์ โดยเป็นผู้นำ ในตลาดพรีเพรส และสตูดิโอภาพถ่าย รวมถึงโรงพิมพ์ ที่มีการใช้ตรวจสอบด้วยระบบดิจิตอล หรือ ดิจิตอล ปรู๊ฟ โดยเครื่องพิมพ์หน้ากว้างเอปสันมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 85% ด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัด การทั่วไป ด้านการขายและการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่าล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง หรือ ลาร์จ ฟอร์แมต พรินเตอร์ ใหม่ 2 รุ่น คือ เอปสัน สไตลัส โปร 7890 ขนาด 24 นิ้ว และ เอปสัน สไตลัส โปร 9890 ขนาด 44 นิ้ว โดยเครื่องพิมพ์ทั้ง 2 รุ่น มีการพัฒนาในส่วนของหัวพิมพ์ใหม่ ภายใต้เทคโนโลยีไมโครปิเอโซ ที่ช่วยให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น และหัวพิมพ์มีความแข็งแรงมากขึ้น ทั้งนี้จะมุ่งการทำตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง ทั้ง 2 รุ่น จะมุ่งขยายฐานลูกค้า เดิมในธุรกิจงานพิมพ์เชิงพาณิชย์ ซึ่งจาก การสำรวจพบว่าทั่วประเทศ มีโรงพิมพ์อยู่ประมาณ 5,000 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ กว่า 1,000 แห่ง ที่เหลือกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยในจำนวนโรงพิมพ์ทั้งหมดนั้นมี 500-600 แห่ง ที่มีระบบการตรวจสอบต้นฉบับด้วยระบบดิจิตอล หรือ ดิจิตอลปรู๊ฟ ซึ่งในระยะเวลา 1-2 ปี โรงพิมพ์มีโอกาสขยายไปสู่ระบบดิจิตอลประมาณ 2,000 แห่ง ซึ่งมองว่าน่าจะเป็น โอกาสทางการตลาดของบริษัทในการนำเสนอเครื่องพิมพ์หน้ากว้างไปยังกลุ่มตลาด ดังกล่าวเพื่อพิมพ์ต้นฉบับออกมาตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสตูดิโอถ่ายภาพ ซึ่งขณะนี้มีสตูดิโอถ่ายภาพในต่างจังหวัดกว่า 40 แห่ง จัดซื้อเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง เอปสันไปใช้งาน พร้อมกันนั้นบริษัทจะเริ่มขยายการทำลาดไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ในธุรกิจโรง พยาบาล ธุรกิจผลิตสื่อการเรียนการสอน สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ หน่วยงานราชการ รวมถึงกำลังขยายเข้าสู่ตลาด ใหม่กลุ่มธุรกิจออกแบบเสื้อผ้า สื่อเอาต์ดอร์ ตกแต่งรถยนต์ และเอเยนซีโฆษณา นายยรรยง กล่าวต่ออีกว่าตลาดหนึ่ง ที่มีการเติบโตสูง คือ ตลาดการพิมพ์แพ็กเกจจิ้ง และฉลาก โดยมีมูลค่าสูงถึง 70,000 ล้านบาท เติบโตสูงสุดในอุตสาหกรรมการพิมพ์ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสทางการ ตลาด โดยได้นำเครื่องพิมพ์เอปสัน ชัวร์เพรส แอล 4033 เอ เครื่องพิมพ์แพ็กเกจ จิ้งและฉลากเข้ามาทำตลาด เพื่อรองรับกับกลุ่มธุรกิจที่ต้องการพิมพ์แพ็กเกจจำนวนไม่มาก โดยเครื่องพิมพ์ดังกล่าวมีต้นทุนการพิมพ์แพ็กเกจ 1,000 ชิ้นอยู่ที่ชิ้นละ 1.68 บาท ขณะที่การพิมพ์แบบซิลก์สกรีน เดิมมีต้นทุนอยู่ที่ชิ้นละ 8 บาท ทั้งนี้จะ มุ่งการทำตลาดไปยังกลุ่มโรงพิมพ์แพ็กเกจจิ้ง และกลุ่มองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและต้องการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ตลอด เวลา สำหรับปีงบประมาณ 2554 (เริ่มเม.ย. 54-มี.ค. 55) บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายเครื่องพิมพ์หน้ากว้างไว้ทั้งหมด 150 ล้านบาท ส่วนเครื่องพิมพ์เอปสันชัวร์เพรส นั้นยังไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ ที่บริษัทเริ่มต้นขยายเข้าไป เจาะกลุ่มตลาดงานพิมพ์แพ็กเกจ และฉลาก ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงในอุตสาหกรรมการพิมพ์ โดยมีมูลค่ารวม ประมาณ 70,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีลูกค้าในธุรกิจรับจ้างพิมพ์ เซ็นสัญญาซื้อแล้ว 1 ราย โดยจะส่งมอบสินค้าประมาณเดือนกันยายนนี้ และมีลูกค้าที่มีโอกาสเซ็นสัญญาซื้อขายเพิ่ม อีก 1 ราย