User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » (Update) "อนุดิษฐ์" ลั่นเรื่องด่วนเร่งกระจายไอซีทีทั่วถึง
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

(Update) "อนุดิษฐ์" ลั่นเรื่องด่วนเร่งกระจายไอซีทีทั่วถึง

อนุดิษฐ์ รมว.ไอซีที คนใหม่ ประกาศนโยบายเร่งด่วน เร่งกระจายไอทีซีให้ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เดินหน้าพร้อมแจกแท็บเล็ตให้เด็กป.1 เล็งวางโครงข่ายหลักทั่วประเทศ หวังไอทีเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เผยปัจจุบันรายจ่ายด้านบริการไอทีของไทยมากถึง 6% ต่างกับประเทศเจริญแล้วอยู่แค่ 1% ส่วนเรื่องสัญญาสัมปทานใช้หลักนิติธรรมบริหาร ส่วน 3จีการ สรรหากสทช.รอดูรายละเอียดก่อน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาค รทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอโปรดเกล้าฯ และหลังจากนั้นจะถวายสัตย์เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากกระบวนการเหล่านี้เรียบร้อย จะเดินทางเข้าทำงานในกระทรวงไอซีทีโดยเร็วที่สุด โดยขณะนี้มี 2 เรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ คือ 1.ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการไอซีทีอย่างทั่วถึง และ 2.เร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์) และการวางโครงข่ายหลัก (คอร์ เน็ตเวิร์ก)

เขา กล่าวว่า การให้ประชาชนเข้าถึงบริการไอซีทีนั้น จะเน้นในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนในต่างจังหวัดมีโอกาสเข้าถึงบริการไอทียาก อาทิ บริการอินเทอรเน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) และราคาค่าบริการสูงเมื่อเทียบกับรายรับต่อครัวเรือน ซึ่งต่างจากกับประชาชนในกทม.ที่เข้าถึงบริการได้ง่ายและค่าใช้จ่ายต่ำ ซึ่งเรื่องนี้ไอซีทีต้องลดความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงไอซีที (ดิจิทัล ดีไวซ์) ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านไอทีมากถึง 6% ต่อรายได้ แต่ประเทศที่เจริญแล้วมีค่าใช้จ่ายเพียง 1% เท่านั้น

ส่วนเรื่องที่ 2 คือ เร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะต้องมีการทำดัชนีชี้วัด ว่าปัจจุบันระบบไอซีทีของประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งใด ซึ่งการขยายคอร์ เน็ตเวิร์กนี้ จะพิจารณาดูว่าโครงการนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ของรัฐบาลชุดที่แล้วมีประโยชน์ต่อประเทศอย่างใดบ้าง เขาก็ยินดีสานต่อ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบก่อน

"ผมมีหน้าที่ หลักๆโดยการดูแลเรื่องภาพรวมนโยบายภาพกว้าง ซึ่งเราต้องดูสิ่งที่มีอยู่ในมือว่าปัจจุบันเรามีทรัพยากรด้านไอซีทีอะไร บ้าง และส่วนใดสามารถดึงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศได้บ้าง"

ว่าที่รมว.ไอซีที กล่าวว่า สำหรับนโยบายการแจกแท็บเล็ตให้แก่เด็กนักเรียนป.1 ประมาณ 8 แสนเครื่อง ก็จะเร่งดำเนินการเพราะถือเป็นนโยบายที่พรรคใช้ในการหาเสียง ซึ่งขณะนี้ กำลังสรุปเรื่องราคาและสเปคสำหรับการใช้งาน ส่วนปัญหาสัญญาสัมปทาน จะใช้หลักนิติธรรมในการบริหาร ซึ่งหากเรื่องใดมีความไม่ชอบมาพากลและไม่เป็นไปตามกฎหมาย ก็จะไม่ยอมให้ปล่อยผ่าน ซึ่งไม่ได้หมายถึงเรื่องสัญญาโครงการ 3จีเอชเอสพีเอระหว่างบมจ.กสท โทรคมนาคม และบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เพียงอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องรวมๆโดยทั่วไป

สำหรับการให้บริการ 3จีและการสรรหาคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั้น ยังไม่มีข้อมูลมากพอ จึงอยากขอเวลาศึกษาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบก่อน แต่โดยส่วนตัวอยากให้ไทยมีบริการ 3จีอย่างแพร่หลายโดยเร็ว

ปลัดไอซีทีเตรียมเรื่องเสนอรมว.ใหม่
นาง จีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ในขณะนี้ได้เรียกให้หน่วยงานในสังกัด และรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงไอซีที มารับทราบนโยบาย โดยได้ให้ทุกหน่วยงานไปดำเนินทำแผนงานต่างๆ ว่ามีเรื่องใดบ้างที่เป็นภาระเร่งด่วน เพื่อจะได้นำเรียนต่อรมว.ไอซีทีคนใหม่ต่อไป ทันทีที่เข้ามาทำงานในกระทรวงไอซีที

ทั้ง นี้ ในส่วนของสำนักงานปลัดไอซีที ได้เสนอแผนงานคือ บรอดแบนด์แห่งชาติ การใช้ให้เกิดการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านเครือข่ายสื่อสารข้อมูลภาค รัฐ หรือ GIN มีการพัฒนาและเชื่อมโยงให้กับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะนำไปสู่การให้บริการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แบบวันสต็อป เซอร์วิส เพื่อสร้างการบริการที่เกิดประโยชน์สูงสุด ตามนโยบายการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

สามารถฯเชื่อนโยบายรัฐทำอุตฯเติบโต
นาย วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น มั่นใจว่ารัฐบาลทุกยุคทุกพรรค ก็ได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งนั้น ซึ่งไม่ว่าจะการเมืองใดจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก็จะไม่ส่งผลต่อแผนธุรกิจ หรือแม้แต่โครงการ 3จี ที่ได้เซ็นสัญญากับ บมจ.ทีโอที ไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องเร่งดำเนินการ เพราะจากการหาเสียงของพรรคการเมือง ต่างมีนโยบายเน้นบรอดแบนด์แห่งชาติ บริการ 3จี ไว-ไฟ ไว-แม็กซ์

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าปี 2554 เทคโนโลยี 3จี ต้องเกิดจึ้น อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลใหม่ ที่ประกาศมาว่าจะแจกแท็ตเล็ต เพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานอย่างทั่วถึงและครอบคลุมประเทศตามเป้าหมายก็จะมี ราคาที่ถูกลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปีหน้าราคาแท็ตเล็ตจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-8,000 บาท ในส่วนของบมจ.สามารถ ไอ-โมบายเองได้เตรียมที่ออกแท็ตเลท็ต ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ในราคาประมาณ 7,000 บาท เพื่อตอบรับกับกระแสการใช้งานในปัจจุบัน

“ส่วนตัวผมไม่ว่าใครจะมา เป็นรัฐบาล ก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับบริษัท เพราะเราเองก็พ่อค้า จากนโยบายหลายๆ นโยบายนั้น ต้องการใช้ไอทีเข้ามาช่วย ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ การประมูลโครงการต่างๆ” นายวัฒน์ชัย กล่าว

เขา กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ กลุ่มสามารถฯ มีแผนเข้าประมูลงานของหน่วยงานภาครัฐไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ อาทิ กระทรวงมหาดไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและนครหลวง กรมที่ดิน โครงการโครงข่ายอัจฉริยะ (เอ็นจีเอ็น)ของทีโอที รวมมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะได้เซ็นสัญญามากกว่า 30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด

ทั้งนี้ ยอมรับว่า การเปลี่ยนผ่านรับบาลทำให้งานประมูลบางโครงการล่าช้าลง โดยโครงการวางระบบไอทีต่างๆ กระจุกตัวมาตั้งแต่ช่วงการปฏิวัติ ไม่มีงบประมาณสำหรับการวางระบบไอซีทีของประเทศ แต่ปัจจุบันการขยายบริการเป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นต่อการแข่งขันในเวทีโลก ดังนั้น รัฐบาลจะมาจากพรรคการเมืองใดก็ไม่กระทบกับธุรกิจ เนื่องจากทุกพรรคได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.