ผู้ค้าไอทีภูธร ถอดใจตลาดพรินเตอร์ดัดแปลงติดแท็งค์ ระบุปัญหาเยอะ แบกรับต้นทุนบริการซ่อมอ่วม เฉลี่ยเครื่องละ 60 บาท/เดือน ล่าสุดแห่ขายเครื่อง"เอชพี" ที่มาพร้อมหมึกเทคโนโลยีอิงค์แอดแวนเทจ ราคาถูก ระบุต้นทุนเฉลี่ยต่อแผ่น 50 สต. ใกล้เคียงเครื่องติดแท็งค์
นายชาคริต ปารินทร์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอทีโซน จำกัด ผู้ค้าไอทีรายใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ว่าขณะนี้ได้ปรับแนวทางการทำตลาดเครื่องพิมพ์ หรือพรินเตอร์ใหม่ โดยลดปริมาณการทำตลาดเครื่องพิมพ์ดัดแปลงติดแท็งค์หมึกพิมพ์ลงจากเดิมมีสัด ส่วนการทำตลาด 70% ของยอดขายพรินเตอร์ทั้งหมดของบริษัท เหลือเพียง 20% เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถแบ่งรับต้นทุนการให้บริการได้ อีกทั้งในขณะนี้ผู้ผลิตพรินเตอร์บางรายเริ่มทำหมึกพิมพ์ราคาประหยัดออกมาสู่ ตลาด
โดยที่ผ่านมาเครื่องพรินเตอร์ติดแท็งค์มีปัญหาการใช้งานค่อนข้างมาก ทั้งการดัดแปลงเครื่องทำให้การประกันจากผู้ผลิตหมดลงทันที และการดัดแปลงไม่มีการตรวจสอบคุณภาพ ทำให้มีปัญหาค่อนข้างมาก ทั้งหัวพิมพ์ตัน และการเกิดฟองอากาศในการพิมพ์ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทในฐานะตัวแทนจำหน่าย และเป็นผู้ดัดแปลง ต้องรับผิดชอบดูแลรักษาเครื่องให้กับลูกค้าหากมีปํญหาเกิดขึ้น ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนการให้บริการเอาไว้ ซึ่งโดยปกติลูกค้ากว่า 50% ที่ซื้อเครื่องติดแท็งค์ไปจะเริ่มมีปัญหากลับมาให้บริษัทเป็นผู้ดูแลภายใน ระยะเวลา 1 เดือน
อย่างไรก็ตามขณะนี้เอชพีได้พัฒนาเทคโนโลยีหมึกพิมพ์ราคาประหยัด อิงค์ แอดแวนเทจ 320 บาท ออกมาสู่ตลาด โดยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นอยู่ที่ 50 สตางค์ จากเดิมต้นทุนการพิมพ์อยู่ที่ 1 บาท ต่อแผ่น ทำให้ต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นลงมาใกล้เคียงกับพรินเตอร์ติดแท็งค์ ที่มีอัตรา 25 สตางค์ต่อแผ่น ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้กลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มอาจารย์ที่มีการพิมพ์ปริมาณมาก จะหันมาซื้อเครื่องพิมพ์ที่ผลิตจากโรงงานโดยตรงมีการรับประกันหลังการขาย
เช่นเดียวกับ นายสุวรรณ ศรีรพีพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์คอมแอนด์เน็ตเวิร์ก จำกัด ผู้ค้าสินค้าไอทีรายใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าที่ผ่านมามีสัดส่วนการทำตลาดเครื่องพรินเตอร์ติดแท็งค์ ประมาณ 95% โดยต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านบริการหลังการขายเฉลี่ยเครื่องละ 60 บาทต่อเดือน อีกทั้งการขายเครื่องพรินเตอร์ดัดแปลงติดแท็งค์นั้นร้านค้ายังต้องขายแบบขาด ทุนเครื่องละ 5 บาท แต่จะได้ผลตอบแทนจากการผลักดันยอดขายให้ผู้ผลิต ซึ่งถ้าบริษัทขายเครื่องพรินเตอร์ติดแท็งค์มากเท่าไร ก็แบกรับภาระมากขึ้น
ทั้งนี้ปกติแล้วผู้ซื้อเครื่องพิมพ์ติดแท็งค์ จะเริ่มมีปัญหาภายหลังจากใช้งานไป 1 เดือน หรือหลังจากที่หมึกพิมพ์แท้หมด อาทิ ปัญหาหัวพิมพ์ตัน หรือหัวพิมพ์เสีย ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังส่งผลให้ลูกค้ามีต้นทุนแฝงเกิดขึ้นมากกว่าการใช้ เครื่องที่ผลิตจากโรงงานโดยตรง โดยต้องเสียเวลายกเครื่องมาซ่อมที่ร้าน
ซึ่งขณะนี้ก็ได้ปรับแนวทางการทำตลาดใหม่ โดยหันมามุ่งเน้นการทำตลาดเครื่องพิมพ์ พร้อมหมึกแท้จากโรงงานมากขึ้น เนื่องจากมีทางเลือกใหม่จากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ คือ เอชพี ที่ผลิตหมึกเทคโนโลยี อิงค์แอดแวนเทจ ราคาประหยัดตลับละ 320 บาท สามารถพิมพ์ได้ 600 แผ่น ออกมาสู่ตลาด ทำให้ร้านค้ามีทางเลือกในการนำเสนอกับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะมีสัดส่วนการทำตลาดเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึก เทคโนโลยี อิงค์แอดแวนเทจ เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 25-30% ขณะที่ยอดพรินเตอร์ติดแท็งค์จะลดลงไปเหลือราว 70%
ด้านนายกฤษณ์ กิตติทัตต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ตลาดคอนซูเมอร์ กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย)ฯ หรือเอชพี กล่าวว่าพรินเตอร์อิงค์เจ็ต ทั้งแบบฟังก์ชันการทำงานพิมพ์อย่างเดียว และมัลติฟังก์ชัน เทคโนโลยีหมึกพิมพ์ อิงค์แอดแวนเทจ เติบโตประมาณ 120% โดยเฉพาะต่างจังหวัดมีการเติบโตมากกว่ากรุงเทพฯ ซึ่งจังหวัดพิษณุโลกมีการเติบโตสูงถึง 200% ซึ่งบริษัทจะมีการทำตลาดเชิงรุกโดยใช้กลยุทธ์ทั้งผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการขาย ราคา และช่องทางจัดจำหน่ายแบบครบวงจร ขณะเดียวกันก็จะมุ่งให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับผู้บริโภค