User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » แฉฮั้วประมูลจัดเก็บ Bio Data แรงงาน
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

แฉฮั้วประมูลจัดเก็บ Bio Data แรงงาน

เปิดปมโครงการจัดเก็บข้อมูล Bio Data การผลิตใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองกระทรวงแรงงานฯ 500 ล้านบาท ส่อพิรุธหลายประเด็น ผู้ชนะเสนอราคาต่ำกว่างบแค่ 2.45 ล้านบาท หากปล่อยเซ็นสัญญา คาดเงินสะพัดกว่าร้อยล้านบาทแน่นอน

แหล่งข่าวในวงการไอซีที กล่าวถึงความไม่ชอบมาพากล โครงการประกวดราคาจ้างบันทึกข้อมูล จัดเก็บข้อมูล Bio Data การผลิตใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชา และการจัดเก็บเอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกระทรวงแรงงานฯว่า มีข้อน่าสงสัยหลายประการในการประกวดราคา โดย เฉพาะการที่ไม่ใช้วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชั่น) และเหลือผู้ยื่นซองประกวดราคาเพียง 2 ราย โดยราคาที่ผู้ชนะประกวดราคาเสนอ 497.55 ล้านบาท ต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ 500 ล้านบาทเพียง 2.45 ล้านบาท ชนะคู่แข่งอีกรายที่เสนอราคา 498 ล้านบาท ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นเพียงคู่เทียบราคากันแค่นั้นเพื่อให้สามารถเสนอราคา ได้เกือบเต็มงบหรือไม่

โครงการดังกล่าวคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2554 ให้มีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติ พม่า ลาว กัมพูชา เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานระดับล่าง และให้แรงงานที่ลักลอบทำงานอยู่ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 1.5-2 ล้านคน เข้าสู่ระบบการจ้างงานที่ถูกต้อง หลังจากนั้นวันที่ 14 มิ.ย. 2554 กรมการจัดหางานได้ประกาศประกวดราคางานดังกล่าว โดยกำหนดงบประมาณไว้ 500 ล้านบาท ที่จำนวน 1 ล้านคน เท่ากับค่าจ้างในงานดังกล่าวคนละ 500 บาท

หลังจากขายเอกสารประกวดราคาระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.จนถึงวันที่ 4 ก.ค. ปรากฎว่ามีบริษัทเข้าไปซื้อเอกสารจำนวน 15 บริษัท โดยในเอกสารกำหนดให้ยื่นซองเอกสารประกวดราคาวันที่ 13 ก.ค.และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคา 20 ก.ค. 2554

ต่อมาในวันที่ 8 ก.ค. กรมการจัดหางานได้มีหนังสือชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของร่างขอบเขตของงาน โดยขอให้ผู้ประสงค์จะเสนอราคายื่นเอกสารและชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยให้แนบพร้อมซองข้อเสนอทางด้านเทคนิค ดังนี้ 1. ให้ระบุยี่ห้อ รุ่น ของเครื่องสแกนเอกสาร ที่ใช้ในการสแกนเอกสารตามร่างขอบเขตของงาน 2. ให้แนบตัวอย่างของกระดาษที่ใช้พิมพ์และรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ตามร่างขอบเขตของงานและ 3. สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนการสาธิตและการทดสอบระบบการจัดเก็บ Bio Data จะพิจารณาจากเอกสารเบื้องต้น

หลังจากซื้อทีโออาร์มาแล้ว บริษัทที่ซื้อซองได้รับหนังสือแจ้งให้ไปสาธิตและทำการทดสอบระบบการจัดเก็บ Bio Data ในวันที่ 14 ก.ค. 2554 ตั้งแต่เวลา 09.30 น ปรากฏว่าเมื่อถึงวันที่ 13 ก.ค.ซึ่งเป็นวันยื่นซอง มีบริษัทเข้าร่วมยื่นซองจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท จันวาณิชย์ จำกัด บริษัท MFEC จำกัด (มหาชน) และบริษัท วีสมาร์ท จำกัด โดยในวันที่ 14 ก.ค. ทั้ง 3 บริษัท ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการสาธิตระบบตามที่ระบุในทีโออาร์ โดย บริษัท จันวาณิชย์ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่กว่า 50 คน เพื่อติดตั้งระบบและทำการสาธิต บริษัท MFEC ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 6 คน ส่วนบริษัท วีสมาร์ท ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่กว่า 20 คน เพื่อติดตั้งระบบและทำการสาธิต

ขั้นตอนการสาธิตนั้น กรมฯ ได้ให้แต่ละบริษัทติดตั้งระบบในช่วงเช้าและให้แต่ละบริษัททำการสาธิตตาม ลำดับครั้งละหนึ่งบริษัท โดยเรียงลำดับจากการยื่นซอง โดยจันวาณิชย์ ได้สาธิตเป็นบริษัทแรก ตามด้วย MFEC และ วีสมาร์ท หลังจากการสาธิตแล้ว กรมการจัดหางานจะประกาศผลผู้ผ่านข้อเสนอ ในวันที่ 19 ก.ค.ซึ่งข้อเสนอส่วนที่ 1 คุณสมบัติผู้เสนอราคาผ่านเพียง 2 รายคือ จันวาณิชย์และ MFEC แต่การทดสอบทางด้านเทคนิคผ่านทั้ง 3 ราย ทำให้มีเพียงจันวาณิชย์ และ MFEC จำกัด มีสิทธิ์เปิดซองเสนอราคา

หลังจากนั้นในวันที่ 20 ก.ค. ได้มีการเปิดซองราคา ปรากฏว่าบริษัทที่ชนะการประกวดราคาคือ จันวาณิชย์ โดยยื่นเสนอราคาที่ 497.55 ล้านบาท ต่ำกว่างบประมาณเพียง 2.45 ล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่าในการประมูลครั้งนี้มีส่อพิรุธหลายประเด็นคือโครงการ ขนาดใหญ่งบประมาณ 500 ล้านบาท แต่กลับไม่ใช้วิธีอี-ออกชั่น , ระยะเวลาขายซองและยื่นซองประกวดราคากระชั้นชิดกันมาก, การกำหนดให้ติดตั้งและสาธิตระบบหลังยื่นซองเพียง 1 วัน อาจมองได้ว่าหากไม่รู้ล่วงหน้าหรือไม่มีโนว์ฮาว ก็จะไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน, ในวันที่ทดสอบระบบ ไม่ได้มีเกณฑ์การให้คะแนนใดๆ เพื่อประเมินความสามารถของผู้เสนอราคา เพราะบางบริษัทอุปกรณ์ไม่ดี ยังสามารถผ่านการพิจารณาได้

แต่ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างในการกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาที่ระบุว่า

'ผู้เสนอราคาต้องมีผลงานในการจำหน่ายและติดตั้งระบบ คอมพิวเตอร์หรือมีผลงานในการออกแบบและพัฒนาระบบ โดยมีมูลค่าในด้านใดด้านหนึ่ง หรือรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท (สิบล้านบาทถ้วน) ต่อสัญญา และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่กรมการจัดหางานเชื่อถือ โดยผู้เสนอราคาจะต้องแสดงเป็นหนังสือรับรองผลงาน หรือเอกสารสัญญาคู่ฉบับ ทั้งนี้ กรมการจัดหางานของสงวนสิทธิ์ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้โดยตรง' นั้นไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงกับงานขนาดใหญ่ระดับ 500 ล้านบาท

'เข้าใจว่ายังไม่ได้มีการเซ็นสัญญา เพราะมีความไม่ชอบมาพากลหลายประเด็นมาก คงต้องรอให้รมว.แรงงานฯ คนใหม่มาสะสาง เพราะในวงการพูดกันหนาหูว่าหากประมูลเกือบเต็มงบอย่างนี้ ต้องมีตกหล่นเกินกว่าร้อยล้านบาทแน่นอน'
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.