พันธุ์ ทิพย์พลาซ่า มองทิศทางตลาดไอทีครึ่งปีหลังโต 10-15% จากปัจจัยบวกทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมืองอยู่ในเกณฑ์ดี เผยกลยุทธ์กำลังสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ และรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิม ระบุมีผู้มาเดินพันธุ์ทิพย์เฉลี่ย 30,000 คน/วัน ยังไม่ตก มั่นใจเก๋าเกมในการเป็น ”ไอที มาร์เก็ต เพลส” ร่วม 20 ปี คาดการณ์รายได้ปีนี้ตามเป้าที่ 1,000 ล้านบาท เผยตัวเลขมีผู้ประกอบการรายใหม่จองคิวเช่าพื้นที่กับพันธุ์ทิพย์สูงถึง 50ราย

ยงยุทธ ไชยชนะ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด ผู้บริหารห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า เปิดเผย “เทเลคอมเจอนัล”ว่า ทิศทางตลาดไอทีครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% จากปัจจัยบวกหลายด้านทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมืองอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะนี้บริษัท อยู่ระหว่างสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ กรณีมีคอนโด อพาร์ทเมนท์เกิดขึ้นในย่านนี้หลายจุด ไม่รวมแหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหารที่มาเปิดย่านประตูน้ำ ไปจนถึงพารากอน ซึ่งถือเป็นย่านเศรษฐกิจที่ไม่มีวันตาย และไม่เคยตก ด้วยสภาพแวดล้อม และทำเลที่เชื่อมต่อกันหมด ทำให้เกิดการไหลลื่นของปริมาณคนที่มาเดินในย่านนี้ค่อนข้างมาก มองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน คนที่มาเดินพันธุ์ทิพย์ไม่มีที่จอดรถ ยังสามารถไปจอดในจุดช้อปปิ้งใกล้เคียง หรือไม่คนที่มารับประทานอาหารย่านนี้ เมื่อเสร็จแล้วก็มาซื้อสินค้าไอทีในห้าง การไหลลื่นของปริมาณและโครงการเกิดใหม่ดังกล่าว ถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ ซึ่งจะต้องดูแล โดยจะต้องมีแคมเปญออกมาให้ครอบคลุม

ขณะ ที่ฐานลูกค้ากลุ่มเดิม ก็ยังต้องรักษา ปัจจุบันมีผู้มาเดินพันธุ์ทิพย์พลาซ่า เฉลี่ยประมาณ 30,000 คน/วัน ไม่สูง หรือต่ำไปกว่านี้มากนัก มีทั้งลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งเดินทางมาในวันเสาร์-อาทิตย์ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเดินซื้อของในห้างฯ มีค่อนข้างมากเช่นกัน การบริหารจัดการ เพียงแค่ว่าจะแก้ไขปัญหาจราจรที่แออัดอย่างไร เพื่อให้ผู้บริโภคมีความคล่องตัวและสะดวก

สำหรับ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า เป็นศูนย์การค้าไอทีที่เปิดให้บริการทุกวัน โดยดำเนินการมาร่วม 20 ปี กับบทบาทชัดเจนในการเป็น ไอที มาร์เก็ต เพลส ลูกค้าทุกคนเข้าใจหากต้องการซื้อสินค้าที่ครบ ทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ต้องมาที่พันธุ์ทิพย์ และราคาก็ไม่แพง หาซื้อได้ นับว่าแตกต่างจากงานแสดงสินค้าไอทีทั่วไป อย่างไรก็ตามมีบ้างที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยน ไป อาทิ ปัจจุบันสินค้ากลุ่มแท็บเล็ตพีซี และสมาร์ทโฟน กำลังมาแรง กิจกรรมส่งเสริมการตลาดในแต่ละครั้งต้องมากพอสมควร ซึ่งห้างใช้งบส่งเสริมการตลาด ประมาณ 5-6ล้านบาท/ครั้ง หรือกว่า 10ล้านบาทในบางครั้ง ซึ่งรวมงบประมาณในการจัดกิจกรรมและการตลาดทั้งปีประมาณ 60-70 ล้านบาท

ขณะ เดียวกันการใช้พื้นที่ด้านล่างของห้าง ซึ่งจะมีพันธมิตรธุรกิจหมุนเวียนกันเข้ามาจัดกิจกรรม บริเวณด้านล่างของพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาประตูน้ำ กับบรรยากาศร้านค้าทั้งหมดกว่า 600 ร้านค้า ซึ่งเป็นการเช่าพื้นที่ค่อนข้างเต็ม 100% ส่วนอัตราการหมุนเวียน หรือการไหลออกของร้านค้าในห้างฯมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นรายเก่าอยู่กันนาน

อย่าง ไรก็ตามบริษัท ไม่มีนโยบายที่จะให้ผู้เช่ารายเดิมออก ร้านค้ารายใหม่ ที่จองเช่าไว้ ล่าสุดมีถึง 50 ราย ถือว่าสูงมาก ที่ทางห้างยังจัดสรรพื้นที่ให้ไม่ได้ บางรายรอไม่ไหวก็ไปหาพื้นที่ตามศูนย์การค้าอื่นๆ เพราะบางแห่งก็มีการจัดโซนรองรับ ส่วนพันธ์ทิพย์สาขาอื่น ที่อยู่ชานเมืองมีการปล่อยเช่าพื้นที่เฉลี่ยกว่า 90% ทั้งนี้การปล่อยพื้นที่ให้เช่าของพันธุ์ทิพย์ จะมีการพิจารณาค่าเช่าขึ้นทุกปี โดยดูภาวะเศรษฐกิจ เช่น ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม จะปรับค่าเช่าต่ำกว่า 7% หรือลดลงหากเห็นว่า ร้านค้าอยู่ในมุมอับ และหากเศรษฐกิจดี ปรับค่าเช่าไม่เกิน 10% ถือว่าต่ำกว่าศูนย์การค้าทั่วไป แต่ก็ยังมีเงื่อนไขอื่นอีก เช่น สัญญาเช่าไม่เกิน 3 ปี เมื่อครบ3ปี ค่อยพิจารณาค่าเช่าใหม่

ยง ยุทธ กล่าวว่า เหตุการณ์ประท้วงที่ราชประสงค์ในปี 2553 บริษัท ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุการทางการเมือง เป็นเวลา 2 เดือนคือช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ปีก่อน ลดค่าเช่าลง 30% มีส่วนทำให้ตัวเลขรายได้จากค่าเช่าสูญหายไปประมาณ 20 ล้าน อย่างไรก็ตามพันธุ์ทิพย์จะปรับค่าเช่าทุกๆ ปี คาดว่าปีนี้รายได้อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายเพราะไม่มีรายได้จากทางอื่น

สำหรับ พื้นที่บริเวณชั้น สอง ที่มีปัญหาปิดอยู่ ในบริเวณที่ศูนย์ดาต้าไอทีเคยเช่าอยู่ เป็นปัญหาภายในระหว่างพันธุ์ทิพย์และผู้เช่ารายเดิมที่จะต้องเจรจาเกี่ยวกับ ค่าเช่าค้างชำระเดิมให้ลงตัว เพราะพื้นที่บริเวณนี้ มีความต้องการสูงมาก ล่าสุด บริษัท อยู่ระหว่างเจรจากับผู้เช่ารายใหม่ 2-3 ราย และ 1 ในนี้มี ดาต้าไอทีรวมอยู่ด้วย ซึ่งผลการเจรจาค่อนข้างลงตัว คาดว่าจะเปิดพื้นที่บริเวณนี้ได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า

คอมมาร์ตไม่กระทบ

ยง ยุทธ เปิดเผยว่า งานแสดงสินค้าข้างนอก ไม่คิดว่าจะกระทบกับคนเดินพันธุ์ทิพย์ เพราะเชื่อว่าเป็นการเอื้อประโยชน์กันมากกว่า เป็นการกระตุ้นตลาดไอทีโดยรวมให้เติบโตไปด้วยกัน และหากพิจารณาการจัดงานแสดงสินค้าส่วนใหญ่ ก็จัดกัน 4 วัน ต่อการจัดงานหนึ่งครั้ง ขณะที่พันธุ์ทิพย์เปิดให้บริการทุกวัน


ส่วน กรณีจะมีร้านค้าในพันธุ์ทิพย์ไปร่วมออกบูธในงานข้างนอก มองว่าทำให้เกิดประโยชน์ สร้างฐานลูกค้าใหม่ ลูกค้าก็จะตามมาใช้บริการกับร้านค้าในพันธุ์ทิพย์ ทำให้เกิดความต่อเนื่องในการให้บริการ และเลือกซื้อสินค้าอื่นๆ ตามมา เป็นการเสริมบรรยากาศการค้าขาย ศูนย์การค้าเอง ก็ได้ประโยชน์ ผู้เช่าก็อยู่ในศูนย์ การไปออกงานข้างนอก ที่สุดเขาก็ต้องกลับมา เพราะพันธุ์ทิพย์เหมือนเป็นบ้าน การที่ลูกค้ามีสัญจรไปที่อื่น แต่ร้านค้าที่อยู่ก็ต้องเติมเต็มบุคลากรเข้ามาเสริม เพียงแค่อย่าปิดร้าน

ปัจจุบัน พันธุ์ทิพย์พลาซ่า มีสาขาประตูน้ำ สาขางามวงศ์วาน สาขาบางกระปิ และดิจิตอลเกตเวย์ ตรงเซ็นเตอร์พอยท์ ก็เป็นของพันธุ์ทิพย์เพียงเปลี่ยนชื่อให้แตกต่างกัน รวมทั้งสาขาที่เชียงใหม่ ปัจจุบันมีรายได้ 50 ล้านบาท/ปี