แอดไวซ์ เปิดเกมรุกเชนสโตร์ค้าปลีกไอที รับการแข่งขันตลาด-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน มุ่งขายสินค้าสำเร็จรูป โน้ตบุ๊ก-แท็บเลต ทุ่ม 80 ล้านปรับโฉมหน้าร้าน พร้อมชูกลยุทธ์เอ็กซ์คลูซีฟโมเดลราคาประหยัด เจาะลูกค้าต่างจังหวัด ตั้งเป้าหมายยอดรายได้ปีนี้ 8,500 ล้านบาท
นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวซ์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าบริษัทได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจใหม่ โดยมุ่งธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีที่เป็นสินค้าสำเร็จรูป (Finish goods) อาทิ คอมพิวเตอร์พกพาโน้ตบุ๊ก และแท็บเลตมากขึ้น จากเดิมธุรกิจหลักของบริษัท เน้นการค้าปลีกและค้าส่งชิ้นส่วนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นหลัก งนี้เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งการซื้อสินค้าสำเร็จรูปมากกว่าการซื้อชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท ปรับปรุงหน้าร้านใหม่ แอดไวซ์ ช็อป ทั้งหมด 110 แห่ง ให้มีความทันสมัย และเป็นไลฟ์สไตล์ให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้ามากขึ้น จากเดิมเป็นหน้าร้านแบบปิด
"พฤติกรรมของผู้บริโภคสินค้าไอทีเปลี่ยนไปผู้บริโภคมีความรู้ด้านไอทีมาก ขึ้นการเดินเข้ามาเลือกซื้อสินค้าก็ไม่เหมือนเดิม โดยเดิมอาจเดินเข้ามาซื้อชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อประกอบคอมพิวเตอร์ หรือ อัพเกรดคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ แต่ขณะนี้ผู้บริโภคเดินเข้ามาเลือกซื้อสินค้าสำเร็จรูป ทำให้เราต้องปรับปรุงหน้าร้านใหม่ให้เปิดโล่งให้คนเข้ามาได้สัมผัสสินค้ามาก ขึ้นจากเดิมเป็นห้องกระจก"
นายณัฎฐ์ กล่าวต่อไปว่าปีนี้จะมีสัดส่วนธุรกิจค้าส่งชิ้นส่วน ประมาณ 80% จากเดิม 90% และธุรกิจค้าปลีก โน้ตบุ๊ก และแท็บเลต ประมาณ 20% จากเดิม 10% โดยครึ่งปีหลังของปีนี้กระแสแท็บเลตมาแน่นอน ส่วนโน้ตบุ๊กนั้นจะมีการเจรจากับผู้ผลิต ในการพัฒนาสินค้ารุ่นมีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านแอดไวซ์ และแอดวัน หรือ เอ็กซ์คลูซีฟ โมเดล ขึ้นมา โดยที่ผ่านมาได้เริ่มทำตลาดรุ่นเอ็กซ์คลูซีฟ โมเดล กับทางอัสซุสแล้ว โดยเป็นรุ่นที่ใช้หน่วยประมวลผลเอเอ็มดี ซี 50 หน่วยความจำ 2 กิกะไบต์ ราคา 9,900 บาท ซึ่งด้วยราคาดังกล่าวที่ต่ำกว่าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายโน้ตบุ๊กทุกแบรนด์รวมกันทั้งหมด 10,000 เครื่อง ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะมียอดขาย 15,000 เครื่อง
นอกจากนี้ยังมุ่งการขยายหน้าร้านในรูปแบบกึ่งแฟรนไซส์ ภายใต้ชื่อ "แอดวัน" ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนดีลเลอร์ในการเข้ามาร่วมทำลักษณะเชน สโตร์ ภายหลังจากก่อนหน้านี้ดีลเลอร์รายใหญ่ในต่างจังหวัดได้รับผลกระทบจากการขยาย หน้าร้านค้าปลีกไอทีของผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ ทั้งนี้จะให้การสนับสนุนด้านระบบบริหารจัดการขาย บริหารจัดการสต๊อก ที่มีการทำงานแบบเรียลไทม์ออนไลน์ทั่วประเทศ รวมถึงการสนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งขณะนี้มีร้านแอดวันในระดับอำเภอเมืองประมาณ 100 แห่ง โดยตามแผนธุรกิจจะสนับสนุนให้ดีลเลอร์แต่ละจังหวัด ขยายสาขาไปยังอำเภอรอบข้างจังหวัดละประมาณ 3 แห่ง ซึ่งเท่ากับว่าภายในปีนี้จะมีหน้าร้านค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ"แอดไว ซ์"และ"แอดวัน"ครอบคลุมทั่วประเทศ 400 สาขา โดยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีสาขาเพิ่มเป็น 20 แห่ง จากเดิม 5 แห่ง
สำหรับยอดขายปีนี้นั้นคาดว่าจะมีรายได้รวม 8,500 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมามียอดขายรวม 3,900 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 45% โดยในครึ่งปีหลังจะต้องพยายามรักษาอัตราการเติบโต 45% เอาไว้ โดยมีรายได้เฉลี่ยในช่วง 6 เดือนที่เหลือเดือนละ 770 ล้านบาท