สมรภูมิสมาร์ทโฟนแห่งปี 2011 เพิ่มดีกรีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ครึ่งปีแรกเจ้าบัลลังก์สมาร์ทโฟนถึงคราวเปลี่ยนมือ

โดย "วอลล์สตรีต เจอร์นัล" รายงานว่า ยักษ์มือถือโลก "โนเกีย" ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 (สิ้นสุดเดือน ก.ค.) มีการจัดส่งสมาร์ทโฟนรวมทั้งสิ้น 16.7 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ต่างกันลิบลับกับค่ายดัง "แอปเปิล" ที่ทำยอดขายไอโฟนได้มากถึง 20.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นมโหฬารเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 8.4 ล้านเครื่อง

หมาย ความด้วยว่า ยักษ์ "โนเกีย" ได้สูญเสียตำแหน่งแชมป์มือวางอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ทโฟนโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีให้ "แอปเปิล" หลังเปิดตัว ไอโฟนได้เพียง 5 ปีเท่านั้น มากกว่านั้นสถานะทางการตลาดของ "โนเกีย" ยังมีแนวโน้มที่จะร่วงหล่นสู่อันดับที่ 3 ตามหลัง "ซัมซุง" ด้วยซ้ำไป หลังจากยอดขนส่งสินค้าโนเกียโดยเฉพาะรุ่นไฮเอนด์ลดลงถึง 1 ใน 3 ซึ่งต้องรอดูผลประกอบการไตรมาส 2 ของซัมซุงเร็ว ๆ นี้

นับตั้งแต่ปี 1996 "โนเกีย" ครอง ตำแหน่งเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนมาตลอด แต่หลังจากแอปเปิลเปิดตัวไอโฟนเป็นครั้งแรกในปี 2007 ส่วนแบ่งการตลาด โนเกียก็ค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันโนเกียยังโดนโจมตีจากแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ของกูเกิล โดยมีพันธมิตรเช่น ซัมซุง เอชทีซีเป็นแกนนำบุกตลาดด้วย

ทำให้เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โนเกียได้ตัดสินใจละทิ้งระบบปฏิบัติการซิมเบียน พร้อมกับหันไปจับมือกับยักษ์ซอฟต์แวร์โลก "ไมโครซอฟท์" พัฒนา วินโดวส์โฟนร่วมกันเพื่อหวังทวงมาร์เก็ตแชร์คืน

"สตีเฟ่น อีลอป" ซีอีโอของยักษ์มือถือ "โนเกีย" พูดถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ผ่านมาว่า น่าผิดหวังอย่างชัดเจนเนื่องจากบริษัทเผชิญความท้าทายหลายอย่างรุมเร้า เช่น สินค้าคงเหลือในยุโรปและจีนที่มีมากขึ้น, ยอดขายที่เอียงไปทางสินค้ารุ่นโลว์เอนด์ที่มีกำไรน้อยมากขึ้น รวมถึงการตัดราคาของคู่แข่ง

อย่างไรก็ดีบริษัทจะเร่งดำเนินการแก้ไข ปัญหาสินค้าคงคลัง และเปลี่ยนกลยุทธ์การขายและการตลาดโดยหันมาโฟกัสการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามาก ขึ้น รวมทั้งเดินหน้าเปิดตัว "วินโดวส์โฟน" ในปีนี้และเพิ่มมากขึ้นในปี 2012 พร้อมกับมุ่งมั่นลดค่าใช้จ่าย 1 พันล้านยูโร ให้ได้ภายในปี 2013

"เรา กำลังเดินหน้าเข้าสู่ไตรมาส 3 ซึ่งสิ่งที่กำลังทำอย่างหนักคือการแก้ไขกลยุทธ์ และเริ่มมองเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับความแข็งแรงของโนเกีย ซึ่งเรายอมรับว่าความกดดันจากการแข่งขันยังมีอย่างต่อเนื่อง"

ในไตร มาส 2 ที่ผ่านมา "โนเกีย" มียอดขายโทรศัพท์มือถือลดลง 18% หรือได้ที่ 88.5 ล้านเครื่อง จากที่เคยทำได้ 108.5 ล้านเครื่องในไตรมาส 1

บริษัท วิจัย "ไอดีซี" รายงานว่า ปัจจุบันโนเกียครองส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกที่ 16% ลดลงจาก 37% เมื่อปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นก็ยังคงเป็นผู้นำในตลาดฟีเจอร์โฟน แม้ ซัมซุงกำลังเขยิบเข้ามาหายใจรดต้นคอเช่นกัน แต่หากดูภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือทั้งหมดแล้ว โนเกียมีส่วนแบ่งการตลาด 25% ลดลงจาก 34% เมื่อปีที่ผ่านมา

"ไอดีซี" มองว่าผลประกอบการที่เลวร้ายครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ท่ามกลางอุตสาหกรรมที่มีการเคลื่อนไหวสูง ความเลวร้ายจะคืบคลานเข้าสู่ธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว หากบริษัทไม่เข้าใจแนวโน้มของคู่แข่ง หรือตอบโต้แนวโน้มของตลาดช้าเกินไป

"โน เกียกำลังเลือดไหลออกทุกทาง ฝั่งเซ็กเมนต์สมาร์ทโฟนสินค้าไม่ได้รับการดึงดูดจากคอนซูเมอร์ในหลายด้าน เช่น ประสบการณ์ใช้งาน อีโคซิสเต็มส์และราคา โดยตั้งแต่ปี 2009 ที่โนเกีย เริ่มประสบภาวะความยากลำบากจากกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของราคาเป็น อุปสรรคที่ให้ปริมาณยอดขายสูงขึ้น แต่ตอนนี้คอนซูเมอร์มองหาอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่มีราคาถูกกว่า โนเกียแทนเรียบร้อยแล้ว"

สถานการณ์ของโนเกียอาจเลวร้ายลงไปอีกในไตร มาสหน้า เนื่องจากมีข่าวหนาหูเป็นอย่างยิ่งว่าแอปเปิลจะผลิต "ไอโฟน" ที่มีราคาถูกออกสู่ตลาดในเดือน ก.ย.นี้ หากเป็นเรื่องจริง "โนเกีย" จะยิ่งสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นไปอีกจนกว่าแพลตฟอร์มใหม่ที่ร่วมพัฒนา กับไมโครซอฟท์จะเสร็จสมบูรณ์"

สิ่งที่เกิดขึ้นกับ "โนเกีย" ช่างตรงข้ามกับ "แอปเปิล"

นอก จากจะโค่นบัลลังก์ยักษ์ฟินแลนด์ "โนเกีย" ก้าวขึ้นแท่นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนแล้ว ผลประกอบการของแอปเปิลในภาพรวม โดยเฉพาะยอดขายของไอโฟนและไอแพดได้สร้างสถิติหน้าใหม่ให้แอปเปิลอีกด้วย

"ไฟ แนนเชียล ไทมส์" รายงานว่า รายรับของแอปเปิลในไตรมาสล่าสุดมีมูลค่า 28.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจาก 15.70 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เติบโตขึ้นถึง 82% ขณะที่กำไรเติบโตถึง 125% โดย แอปเปิลประเมินว่าเป็นผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดใหม่อย่างจีน โดยไอแพด 2 มียอดขายถึง 9.25 ล้านเครื่อง เพิ่มจาก 3.3 เครื่องเมื่อปีกลาย หรือเติบโต 183% ทั้งที่มีปัญหาขาดแคลนสินค้าอย่างหนักเพราะผลิตไม่ทันความต้องการ

"ปี เตอร์ ออพเพนไฮเมอร์" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ "แอปเปิล" ระบุว่า "จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาในอนาคต แต่ยังไม่ขอพูดถึงรายละเอียดในขณะนี้ บอกได้แต่เพียงว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคาดว่าจะกระทบกับยอดขายในเดือน ก.ย."

สิ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์คือ ในเดือน ก.ย.นี้แอปเปิลน่าจะเผยโฉม "ไอโฟน 5" ออกสู่ตลาด เพราะเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา "สตีฟ จ็อบส์" ไม่ได้เผยโฉมไอโฟนรุ่นใหม่เหมือนที่เคยปฏิบัติมา...โปรดจับตา