แซส ชี้แนวโน้มอาชญากรรรมทางการเงินโลกนับวันมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้มีการลงทุนโซลูชันป้องกันการฟอกเงินทั่วโลกในอีก 2 ปีข้างหน้าสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนตลาดไทยสดใส ไร้คู่แข่ง หลังพ.ร.บ.ฟอกเงินประกาศใช้ 26 ส.ค.นี้ แซสเน้นเจาะกลุ่มธนาคารเป็นหลัก มั่นใจสิ้นปีคลุมตลาดธนาคารได้เกือบ 100%

นายสตู เบรดลี่ย์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการด้านอาชญากรรมและการทุจริตทางการเงิน บริษัท แซส กล่าวว่า แนวโน้มปัญหาการฟอกเงินทั่วโลกนับวันจะมีมากขึ้น ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกรรมการเงินทางด้านบัตรเครดิต มีสถิติการสูญเสียประมาณ 0.1% ในอุตสาหกรรมประกันภัยก็มีการเคลมประกันที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสูงถึง 10% ขณะที่การประกันสุขภาพก็มีสถิติอาชญากรรมทางการเงินสูงถึง 10% เช่นกัน

ถึงแม้ดูเหมือนเป็นวงเงินไม่มากนัก แต่แนวโน้มอาญชกรรมทางการเงินในปัจจุบันมีความสลับซับซ้อนมากขึ้นกว่าในอดีต และมีการมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่ง ผลให้หน่วยงานที่ดูแลการฟอกเงินหรืออาชญากรรมทางการเงินต่างก็มีการออก กฎเกณฑ์ข้อบังคับให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับมือกับความซับซ้อนของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ส่งผลให้องค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านธุรกรรมทางการเงินมีแนวโน้มลงทุนระบบป้องกันการฟอกเงินถึง 56%

ขณะที่มีแนวโน้มการลงทุนในการอัปเกรดระบบป้องกันการฟอกเงินถึง 95% และมีการประเมินมูลค่าการลงทุนระบบป้องกันการฟอกเงินของธุรกิจกด้านการเงิน ทั่วโลกในปีนี้อยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยการลงทุนดังกล่าวจะมีการลงทุนทางด้านซอฟต์แวร์ป้องกันการฟอกเงินถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2557

'ปัญหาความสูญเสียทางด้านการ เงินอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับสถาบันการเงิน แต่เรื่องความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ จึงทำให้สถาบันการเงินมีการลงทุนในระบบป้องกันการฟอกเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งโซลูชันของแซสถือว่าเป็นผู้นำตลาดในส่วนนี้ หลังจากที่เปิดตัวโซลูชันนี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แซสมีการติดตั้งโซลูชันป้องกันการฟอกเงินไปแล้ว 140 แห่งทั่วโลก'

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟต์แวร์ (ไทยแลนด์) กล่าวว่า สำหรับตลาดประเทศไทยในปีนี้ แซ สจะโฟกัสการทำตลาดธนาคารเป็นหลัก เนื่องจากพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จะมีผลบังคับใช้ประมาณวันที่ 26 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ทำให้หน่วยงานที่มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องทางการเงิน โดยเฉพาะธนาคารจำเป็นต้องมีโซลูชันป้องกันการฟอกเงินเข้ามาช่วยในการทำงาน เพิ่ม โดยเวลานี้ได้มีการติดตั้งโซลูชันดังกล่าวทั้งระบบให้กับ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบและติดตามบัญชีลูกค้าทั้งบัญชีเดิมที่มีความ เคลื่อนไหวและบัญชีใหม่ที่เพิ่มขึ้น

'แซสได้มีการเซ็นสัญญากับ ธนาคารในประเทศไทยแล้ว 4 ธนาคาร ส่วนใหญ่เป็นธนาคารในประเทศ ส่วนธนาคารที่เหลือกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ แต่เชื่อว่า โอกาสที่แซสจะได้ลูกค้ากลุ่มธนาคารทั้งหมดในประเทศไทยมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากบริษัทที่มีโซลูชันแบบนี้ในประเทศไทยมีน้อย และที่สำคัญไม่มีทั้งสำนักงานและทีมงานในประเทศไทย เหมือนกับแซส'

ทั้งนี้แซสมีแผนที่จะตั้งพาร์ทเนอร์ที่ดูแลการทำตลาดโซลูชันป้องกัน การฟอกเงินในไทยเพิ่มเป็น 5 รายจากเดิมที่มีอยู่ 3 ราย เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดรวมถึงเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการ ดูแลและติดตั้งโซลูชันให้กับลูกค้า นแกจากนี้แซสก็จะมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวการลงทุนโซลูชันป้องกันการ ฟอกเงินเพิ่มขึ้น