เอกชนอยากเห็นแผนงานต่อยอด หลังพท. เปิดนโยบายไอที แจกแท็ปเล็ตนักเรียน พร้อมสะท้อนมุมมอง นโยบายเบื้องต้นฉลุย แต่สุดท้ายจะสร้างประโยชน์ หรือทิ้งภาระให้นักเรียน...



หลังจากที่พรรคเพื่อไทย หรือ พท. ใช้นโยบายที่เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการแจกแท็ปเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 หรือ หนึ่งคนหนึ่งแท็ปเล็ต (one syudent one tablet) เปิดตัวในช่วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จนทำให้เป็นที่รู้จัก และสร้างความคาดหวังถึงแนวทางการใช้งานไอทีของเด็กนักเรียนจำนวนไม่น้อย

ล่า สุดดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวยังคงเงียบอยู่ ทิ้งสิ่งที่คาใจให้เกิดคำถามตามมามากมาย อาทิ เงื่อนไข และแผนการดำเนินงานต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร มีการพัฒนาคอนเทนต์ตามมาหรือไม่ ระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจะรองรับได้มากน้อยแค่ไหน วิธีการป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ จะทำได้จริงตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ว่า ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลได้ง่ายขึ้น และพร้อมจะใช้ประโยชน์จากไอทีให้มากที่สุด ได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ พท.ต้องตอบคำถามสังคม และสร้างความชัดเจน

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) เผยว่า เบื้องต้นเห็นด้วยกับนโยบายแจกแท็ปเล็ต แต่ยังต้องพิจารณารอบด้าน ทั้งความพร้อมของบุคคลการที่เกี่ยวข้อง และครูผู้สอน อย่างไรก็ตาม หวังว่าการปรับเปลี่ยนรัฐบาลจะไม่ทำให้โครงการต่อเนื่องที่เป็นประโยชน์หาย ไป นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าพท. มีส่วนช่วยส่งเสริม และกระตุ้นให้เกิดการใช้งานสูงขึ้น และยังเพิ่มดัชนีตัวชี้วัดผู้บริโภคสูงขึ้น โดยมองหากนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นจริงจะส่งผลให้มูลค่าตลาดคอนเทนต์สูงถึง 1 หมื่นล้านบาท

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เชื่อมั่นว่า ตลาดไอทีหลังการเลือกตั้งจะคึกคักจากนโยบายแจกแท็ปเล็ต ขณะที่ เบื้องต้นเห็นด้วยกับนโยบายนี้ เพราะใช้สำหรับการศึกษาของเด็กนักเรียน โดยมองว่าหากใช้อุปกรณ์ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนจะดีมาก แต่ก็ต้องดูแนวนโยบายต่อไปว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน

“นโยบายนี้ เป็นการเริ่มนับ1 ที่ดี หวังว่าจะเกิดการปรับเปลี่ยน และสานต่อ แต่ไม่ได้หวังว่าจะมาแทนที่หนังสือเรียนที่มีอยู่” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บ. เอเซอร์ฯ กล่าว

นายสุธี สุวงศ์วัฒนากุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์การตลาด กลุ่มธุรกิจไอที บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด แสดงความคิดเห็นว่า แท็ปเล็ตน่าจะเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ในด้านไอที แก่เด็กนักเรียน แต่ต้องดูราคาและความเหมาะสมกับการใช้งาน รวมทั้ง โครงสร้างพื้นที่ของระบบอินเทอร์เน็ตที่จะเข้าถึงพื้นที่การใช้งานด้วย นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป ด้านการขายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า เบื้องต้นนโยบายดังกล่าวเป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องลงลึกลงไปดูที่รายละเอียดด้วย และถ้ามีคอนเทนต์และแอพลิเคชั่นที่เหมาะสมก็เห็นด้วย เพราะถ้าแจกให้ใช้งานอย่างเดียวก็ไม่เกิดประโยชน์

ขณะที่ นายวีระ อารีรัตนศักดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เน็ตแอพ (ประเทศไทย) ระบุว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่านโยบายดังกล่าวจะสร้างการเข้าถึงไอทีได้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด พร้อมฝากถึงรัฐบาล ถึงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ยังไม่พร้อม และความชัดเจนและครอบคลุมของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 หรือ พ.ร.บ.คอมฯ 2550 ต่อการใช้งานไอทีด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนนี้นโยบายของพท. จะมีเพียงแค่ชื่อที่คุ้นหู แต่หลายภาคส่วนก็หวังว่า จะเกิดการต่อยอดอย่างเหมาะสม ซึ่งหวังว่าเสียงสะท้อนทางสังคม และสายตาที่จับจ้ออยู่ขณะนี้ จะช่วยทลายกำแพงปัญหา และผลักดันให้การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทยเข้าถึงประชานชนและก้าว หน้าเสียที...