User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » One Tablet Per Child นโยบาย ที่ต้องจับตา
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

One Tablet Per Child นโยบาย ที่ต้องจับตา

เมื่อ กล่าวถึงนโยบายด้าน ICT ของรัฐบาลชุดใหม่ นอกเหนือจากเรื่องของ 3G ที่หลายต่อหลายเสียง อยากให้มีการสานต่อ ให้เกิดขึ้นจริง เพราะรอกันมานานแล้ว นโยบาย One Tablet Per Child หรือ แจกแทบเล็ตให้เด็กประถม เป็นอีกนโยบายที่ถูกกล่าวถึง ในอันดับต้นๆ

ทั้ง นี้ รัฐบาล พท. ตั้งงบประมาณโครงการดังกล่าวไว้ที่ 4,000 ล้านบาท โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กประถม ทั่วประเทศ ในขณะที่ตัวเครื่องจะเลือก OEM โดยผู้ผลิตจากจีน หรืออินเดีย ที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อให้ได้ในราคาเครื่องละประมาณ 1,000-2,000 บาท

ฟัง ดูอาจรู้สึกแปลกใจว่า เป็นไปได้หรือที่ แทบเล็ต ที่เรามองว่าเป็นอุปกรณ์สุดไฮเทค และหลายๆ คน ปรารถนาจะครอบครอง จะมีราคาเพียงแค่ 1000 – 2000 แต่ราคานี้ เป็นไปได้ เนื่องจากในประเทศอินเดีย มีแทบเล็ตที่ราคาเพียง 1000 บาท จริง

โดย เรื่องดังกล่าว เว็บไซต์ TabletPCThai เคยนำเสนอเรื่องราวของ แทบเล็ตจากอินเดีย ในราคา 1050 บาท ซึ่งเป็นของบริษัท Sakshat ที่เป็นแทบเล็ตแอนดรอยด์ ขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว

ขณะ ที่ ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ก็เคยกล่าวต่อ เทเลคอมเจอร์นัลว่า หากเลือกใช้แทบเล็ตที่เป็นแอนดรอยด์ และสั่งประกอบจำนวนมาก จากประเทศจีน ประเด็นเรื่องราคาจะตกไป เพราะมีต้นทุนที่ต่ำมาก กล่าวได้ว่าคุ้มค่ากว่าการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ PC แจกโรงเรียนด้วยซ้ำ

ด้าน ภาวิช ทองโรจน์ แคนดิเดต รมว. ศธ. ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวเนชั่นว่า โครงการดังกล่าว ตั้งเป้าจะแจกให้กับเด็ก ป.1 จำนวน 8 แสนคน ทั่วประเทศ และตั้งเป้าสูงสุดไว้ที่ 10 ล้านเครื่อง 10 ล้านคน ภายในเวลา 4 ปี

เวนเดอร์แดนมังกร จัดให้

ขณะ ที่เสียงตอบรับจากผู้ผลิตอุปกรณ์รายใหญ่แดนมังกรอย่างหัวเว่ย ก็ดังขึ้นรับกับนโยบายดังกล่าวทันที โดยหัวเว่ยระบุว่า สนใจที่จะเข้าร่วมเสนอราคา เนื่องจากตนมีความพร้อม ทั้งฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยี และสเปคเครื่องสามารถสั่งได้

กูรูไอทีชี้ Cloud จะสร้างความสำเร็จในนโยบาย Tablet

พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด รวมถึงพิธีกรและกูรูด้านไอที โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวถึงเรื่องนโยบาย One Tablet Per Child ของรัฐบาลว่า เท่าที่พบปะพูดคุยกับผู้บริหาร IT หลากหลายแบรนด์ พบว่า แบรนด์ต่างประเทศไม่แสดงความสนใจทำโครงการ One Tablet Per Child เท่าไหร่นัก

สำหรับโครงการ One Tablet Per Child ของรัฐบาลจะประสบความสำเร็จ ได้ก็ต่อเมื่อ"สามารถพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรทุกวิชาไปวิ่งบนหน้าจอได้" เท่านั้นจึงสำเร็จ

"ผม ขอช่วยรัฐบาลใหม่คิด ถ้าอยากสำเร็จกับโครงการ Tablet ต้องจัดแผนการเรียนการสอนขึ้น Cloud Computing แล้วให้ครูและนักเรียนดาวน์โหลดลงมาเพื่อมาตราฐานการศึกษาเดียวกัน ตั้งภาคีพัฒนาการศึกษา รวมตัวครูเก่ง, สำนักพิมพ์, กราฟิกดีไซน์แปลงเนื้อหาเป็น Digital ให้หมด โดยทยอยขึ้น Cloud"

การ เอาเพียงเครื่อง Tablet ไปแหมะไว้ที่ครูนักเรียน ครูทัศนคติเลวร้ายจะคิดว่าเป็นการเพิ่มภาระครู แต่ถ้าทำ Guideline การสอน Feed ไปให้เรื่อยๆ จะประสบผลอย่างแน่นอน

โดย 3 สิ่งนี้จึงต้องถูกประทานมาพร้อมกัน คือ Tablet ผนวกรวมกับเนื้อหาหลักสูตรบน Cloud และ 3G หรือ หากมี Wi-Fi ฟรีในโรงเรียนก็ยังดี ซึ่งขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไปไม่ได้เลย มิเช่นนั้นแล้ว Tablet จะกลายเป็นเครื่องเล่นเกมของนักเรียนตามที่เคยมีคนค่อนขอดไว้ และกลายเป็น "เครื่องทับกระดาษ" ของครูด้วย

สำหรับ รูปแบบการเรียนในอนาคตคือคุณครูให้การบ้านนักเรียนเป็นการกลับไปดาวน์โหลดบท เรียนใหม่แล้วอ่านมาก่อน เมื่อมาถึงชั่วโมงเรียนก็เป็นการถาม-ตอบ-วิเคราะห์

คิดทำ "PowerPoint แห่งชาติ" ก่อนนโยบาย Tablet

"ก่อน นโยบาย Tablet จะมา ผมเคยคิดถึงการจัดทำ "PowerPoint แห่งชาติ" และจัดตั้งภาคีพัฒนาการศึกษาแล้วสร้างไฟล์การสอนทุกวิชาเหมือนกันทั้งประเทศ คุณครูทั่วประเทศทำหน้าที่ศึกษาไฟล์เหล่านั้นก่อนทำการสอน แค่ศึกษาเนื้อหาก่อนแต่ไม่ต้องลำบากเตรียมแผนการสอนเอง ครูจะงานเบาลง รวมถึงเกิดคุณภาพการสอน" พงศ์สุขกล่าว

อีก ทั้งประโยชน์ด้าน "รสนิยมแห่งการดีไซน์" จะเกิดขึ้นกับเด็ก ตั้งแต่เล็กจนถึงโตจะได้เห็นงานดีไซน์สวยๆ ของไฟล์ PowerPointแห่งชาตินี้ที่ผ่านหู ผ่านตาตลอด

อย่าง ไรก็ดี ถ้าโปรเจค Tablet จะเกิดขึ้นจริง จึงถึงเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Graphic ทั่วประเทศจะต้องมาร่วมแรงกัน ดัดแปลงเนื้อหาวิชาการให้เป็นสื่อการสอนที่สวยงาม

OS ของ Tablet ควรเป็น Android

นอก จากนี้ พงศ์สุข ยังโพสต์ข้อความอีกว่า OS ของ Tablet การศึกษา ไม่ควรเป็น Windows เพราะ License แพง ในส่วนของ iOS ก็คงเป็นไปได้ยากที่ทาง Apple จะปล่อยออกนอกค่าย ควรเป็น Android เพราะเด็กสามารถเอาไปต่อยอดได้ และที่สำคัญ คือ ไม่เสียค่าใช้จ่าย (เฉพาะ OS) ทั้งนี้ถ้าเด็กถือ Android ครูอาจให้งานเป็นการพัฒนา App เพื่อต่อยอดความรู้ได้ อีกระบบที่น่าสนใจ คือ Amazon Kindle

ใน ส่วนข้อดีของ Kindle คือเป็นจอ E-Ink ถนอมสายตามากเหมาะกับการอ่านยาวนาน หากแต่ต้องศึกษาความเปิดของระบบ เราต้องยัดเนื้อหาได้เองโดยไม่ต้องผ่านชาวต่างชาติ

นักวิชาการ ติงผ่านสื่อ แจกแทบเล็ต ดาบ 2 คม

ใน ฝั่งของนักวิชาการ มีการติงถึงนโยบายดังกล่าว ผ่านสื่อมวลชนว่า อาจเป็นดาบ 2 คม เนื่องจากการแจกแทบเล็ต ให้เด็กนักเรียน อาจทำให้เด็กนักเรียนหมกมุ่น และติดเกมได้

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุ ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว ผ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า นโยบายดังกล่าว เป็นดาบ 2 คม ข้อดีคือ เด็กไทยจะก้าวเข้าสู่โลกสมัยใหม่และค้นคว้าข้อมูลได้ง่ายขึ้น แต่ด้านลบคือ เด็ก ป.1 ยังอ่านและเขียนไม่ได้ ช่วงหลังเลิกเรียนควรเป็นเวลาออก กำลังกาย เรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนฝูง หากแจกแทบเล็ต จะทำให้เด็กหมกมุ่นกับเกมคอมพิวเตอร์ อยู่กับตนเองหรือเพื่อน ขาดพัฒนา การด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งงานวิจัยหลายสิบชิ้นก็พบปัญหาเด็กเล็กส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการ เล่นเกมมากถึง 70% และเด็กที่ถูกผลักออกจากโรงเรียน เนื่องจากคะแนนเรียนไม่ดี พฤติกรรมไม่ดี มีสาเหตุหลักมาจากการติดเกมคอมพิวเตอร์

ซึ่ง ประเด็นดังกล่าว เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามแม้แต่น้อย เนื่องจากประเทศไทย ปัญหาเด็กติดเกม ถือเป็นปัญหาที่สำคัญ และพบเห็นได้เป็นจำนวนมาก หนำซ้ำ เด็กประถม ถึงมัธยม ส่วนใหญ่ในบ้านเรา นิยมใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกมเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบรรดาเกมออนไลน์ต่างๆ ในขณะที่คอนเทนต์เกมบนแทบเล็ต ก็มีคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าเกมที่เล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์แต่อย่างใด

แม้นโย บายดังกล่าว จะยังอยู่ในช่วงตั้งไข่ และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จากหลากหลายด้าน ก็ต้องจับตาดูว่า นโยบายแทบเล็ตสะท้านฟ้านี้ จะสามารถไต่บันไดไปถึงฝั่งฝัน และเด็กนักเรียนไทย จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้นได้หรือไม่ ฤา สุดท้าย นโยบายนี้ จะเป็นแค่การแจกเครื่องเล่นเกมให้เด็กทั่วประเทศ ต้องรอดูจากผลลัพธ์ใน 4 ปี ที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหาร

สิงคโปร์ ซื้อ iPad 2 แจกทหาร

ช่วง ที่การหาเสียงด้วยนโยบายแจกแทบเล็ต กำลังมาแรง สำนักข่าว CNet ก็รายงานว่า กองทัพสิงคโปร์ ตัดสินใจ สั่งซื้อ iPad2 ให้กับเหล่าทหารเกณฑ์ และทหารอาสา เพื่อใช้เป็นอาวุธใหม่

ทั้ง นี้ กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เปิดเผยว่า จะมีการใช้ iPad 2 จำนวน 8,000 เครื่อง เพื่อใช้ในการแสวงหาข้อได้เปรียบจากเทคโนโลยีล้ำสมัยให้มากที่สุด

อีก ทั้ง มีข่าววงในเล็ดลอดมาว่า ผู้ใหญ่ของกองทัพสิงคโปร์ก็มีนโยบายที่จะกระตุ้นให้เหล่าทหารใช้กล้องของ iPad 2 บันทึกภาพนิ่ง และวีดีโอ เพื่ออัพโหลดขึ้นสู่ LEARNet ของกองทัพ

อังกฤษ ใช้ iPad แทนตำรา

ขณะ ที่บ้านเรากำลังจับตาดูนโยบาย One Tablet Per Child ประเทศอังกฤษ ก็กำลังเดินหน้านโยบายที่ใกล้เคียงกัน ด้วยการปฏิรูปใช้ iPad แทนที่ตำราเรียน

เว็บไซต์ สนุกดอทคอม รายงานว่า โรงเรียนลองฟีลด์ อคาเดมี่ ประเทศอังกฤษ อนุมัตินโยบายให้เด็กนักเรียนใช้ iPad เป็นอุปกรณ์ประกอบการศึกษา

โดย นโยบายของโรงเรียนนั้น ระบุให้เด็กนักเรียนอายุ 11-18 ปี ใช้ iPad 2 เป็นเครื่องมือในการเรียน ตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นต้นไป และเป็นโรงเรียนแรกในอังกฤษที่กำหนดให้ iPad เป็นอุปกรณ์ที่นักเรียนต้องมีเพื่อประกอบการเรียนการสอน โดยจะติดตั้งแอพพลิเคชั่นให้ iPad ของนักเรียนเชื่อมต่อกับกระดานที่ครูใช้เขียนได้

ใน รายงานข่าวดังกล่าว ยังระบุว่า ทางโรงเรียนกำลังสั่งซื้อ iPad 2 จำนวน 1,400 เครื่อง โดยที่ผู้ปกครองจะต้องจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ จำนวน 16 ปอนด์ ต่อเดือน เป็นเวลาสามปี รวม 576 ปอนด์ หรือ 27,561 บาท
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.