"โนเกีย" อาการน่าห่วงหลังรายได้ไตรมาส2 ร่วง 7.3% โดน "แอ๊ปเปิ้ล" ทำยอดขายแซงหน้าครั้งแรกฟาก "ไมโครซอฟท์" ได้อานิสงค์โปรแกรมออฟฟิศชดเชย

"โนเกีย" อาการน่าห่วงหลังรายได้ไตรมาส2 ร่วง 7.3% โดน "แอ๊ปเปิ้ล" ทำยอดขายแซงหน้าครั้งแรก ฟาก "ไมโครซอฟท์" ได้อานิสงค์โปรแกรมออฟฟิศชดเชย หลังยอดขายวินโดว์สร่วง นักลงทุนหวั่นกระแสแทบเล็ตเบียดส่วนแบ่งตลาดพีซี

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า โนเกีย คอร์ป เผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดรายได้ร่วง 7.3% แต่สิ่งที่น่าจับตาคือ ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ที่สุดในแง่จำนวนเครื่องรายนี้ กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากคู่แข่งสำคัญอย่าง "แอ๊ปเปิ้ล" ซึ่งไตรมาสล่าสุดสามารถทำยอดขายสมาร์ทโฟนแซงหน้าโนเกียได้เป็นครั้งแรก

โนเกียเผย ว่า บริษัทมียอดขายสมาร์ทโฟนลดลง 34% เหลือ 16.7 ล้านเครื่อง เทียบกับแอ๊ปเปิ้ล ซึ่งไตรมาสดังกล่าวสามารถทำยอดขายไอโฟนได้ถึง 20.3 ล้านเครื่อง

นายสตีเฟน อีลอป ประธานคณะผู้บริหารของโนเกีย ยอมรับว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 "น่าผิดหวัง" โดยอ้างถึงความท้าทายต่างๆ ซึ่งรวมถึงความเปลี่ยนแปลงของยอดขายทั้งราคาที่ต่ำลง, กำไรน้อยลง และการขายตัดราคาจากคู่แข่ง

อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า โนเกียได้เร่งปรับแผนโดยให้ความสำคัญกับการขายและทำตลาด ซึ่งจะเข้ามาสื่อสารกับลูกค้าผ่านร้านค้าปลีกมากขึ้น ทั้งย้ำว่าโนเกียมี แผนจะวางตลาดวินโดว์ส โฟนรุ่นแรกภายในปีนี้ รวมถึงกระตุ้นแผนการลดต้นทุน และคาดว่าจะประสบความสำเร็จสามารถลดต้นทุนได้ตามเป้า 1 พันล้านยูโรได้ในปี 2556

วันเดียวกัน ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการไตรมาส4 ตามปีปฏิทินของบริษัท พบว่า ทำรายได้แข็งแกร่งมาก จากยอดขายโปรแกรมกลุ่มออฟฟิศ

อย่าง ไรก็ตาม รายได้จากโปรแกรมอื่นๆ รวมถึง "ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส" กลับมียอดขายลดลง 1% นับเป็นยอดขายที่ถดถอยต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 และสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคเริ่มซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ลด ลง ทั้งยังชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกำลังหันไปให้ความสนใจกับแทบเล็ตมากกว่าการอัพเกรด แล็ปท้อป และคอมพิวเตอร์เครื่องเก่า

รายงานข่าวระบุว่า ไตรมาส 4 ไมโครซอฟท์มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 8%จากปีก่อนหน้าคิดเป็น 17.4 พันล้านดอลลาร์ จากเดิม 17.2 พันล้านดอลลาร์

การ เติบโตของยอดขายโปรแกรมออฟฟิศทำให้รายได้รวมโตเพิ่มเกือบ 8% รวมทั้งยอดขายซอฟต์แวร์ และเซิร์ฟเวอร์ในกลุ่มบิสสิเนส และกระแสนิยมของเครื่องเกมคอนโซล "เอ็กซ์บ็อกซ์ 360" และ "คิเนค (Kinect)"

ขณะ ที่ รายได้จากกลุ่มโปรแกรมวินโดว์ส และวินโดว์ส ไลฟ์ ลดลงเล็กน้อยจาก 4.78 พันล้านดอลลาร์ เหลือ 4.74 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนักลงทุนหลายรายกำลังให้ความสนใจกับตลาดดังกล่าวท่ามกลางความกังวลว่า ความนิยมในตลาดแทบเล็ต เช่น ไอแพด จะแย่งชิงยอดขายในตลาดคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์เป็นส่วนใหญ่