User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "ซิสโก้"ลอยแพพนักงาน สวนทาง eBay-IBM-MS กำไรพุ่ง
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"ซิสโก้"ลอยแพพนักงาน สวนทาง eBay-IBM-MS กำไรพุ่ง

ซิสโก้ซิสเต็มส์ (Cisco Systems) ผู้ผลิตสินค้าเครือข่ายคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ประกาศแผนปรับลดพนักงานลงอีก 6,500 คน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท หวังเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้ซิสโกสามารถแข่งขันได้ดีกว่าเดิม สวนทางกับนานาบริษัทไอทีที่ประกาศผลกำไรสวยในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.2011 ทั้งอีเบย์ ไอบีเอ็ม และไมโครซอฟท์ที่แสดงทิศทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม

จำนวนพนักงานที่ซิสโก้เตรียมจะปลด 6,500 คนในไตรมาสนี้คิดเป็นสัดส่วน 9% จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 73,000 คนทั่วโลก ซึ่ง เป็นแผนต่อเนื่องหลังจากซิสโก้ประกาศนโยบายรัดเข็มขัดมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยซิสโก้ระบุว่าการเลิกจ้างหรือเลย์ออฟจะคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของจำนวนพนักงานที่จะถูกปลดในรอบนี้ ที่เหลือจะเป็นการเกษียณก่อนกำหนดหรือ early-retire ซึ่งซิสโก้ตั้งเป้าว่าจะลดจำนวนพนักงานระดับรองประธานบริษัทขึ้นไปราว 15%

ซิสโก้นั้นเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่องนานหลายปี แต่วิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกทำให้ซิสโก้มียอดขายลดลงตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ซิสโก้ต้องเริ่มเทความสนใจให้กับธุรกิจที่สามารถสร้างเงินได้มากขึ้น และเริ่มปรับโครงสร้างบริษัทให้เหมาะสมกับการแข่งขันกับคู่แข่งอย่างจูนิ เปอร์เน็ตเวิร์กส (Juniper Networks) และเอชพี (Hewlett-Packard) แม้ว่าในระยะสั้น ซิสโก้จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายจากการเลย์ออฟสูงถึง 1.3 พันล้านเหรียญ แต่การประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 พันล้านเหรียญต่อปีจะเป็นประโยชน์ให้ซิสโก้ในระยะยาวแน่นอน

ซิสโก้ระบุว่าจะเริ่มแจ้งพนักงานในสหรัฐฯ แคนาดา และบางประเทศที่ถูกลอยแพภายในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม โดยจะดำเนินการตามกฏหมายท้องถิ่นของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด

อีเบย์ฟื้นตัว

อีเบย์ (EBay) ตลาดค้าปลีกสินค้าออนไลน์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของอีเบย์นั้นส่งสัญญาณฟื้นตัว มากขึ้นในไตรมาสนี้ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯที่อีเบย์สูญเสียส่วนแบ่งไปช่วงหนึ่ง เบ็ดเสร็จตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาซึ่งนับเป็นไตรมาส แรกปีการเงิน 2011 (เม.ย.-มิ.ย.) ของอีเบย์ รายได้ของอีเบย์เติบโตขึ้น 16% คิดเป็นมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญหรือประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท

อีเบย์สามารถทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่า 475.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 36 เซนต์ต่อหุ้น หากยังไม่หักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหุ้น กำไรสุทธิของอีเบย์จะมีมูลค่า 619 ล้านเหรียญ คิดเป็น 47 เซนต์ต่อหุ้น ใกล้เคียงกับ 46 เซนต์ต่อหุ้นซึ่งบริษัทวิจัยทอมสันรอยเตอร์ส (Thomson Reuters) ประเมินไว้

ยอดขายสินค้าจากเว็บไซต์อีเบย์ดอทคอมตลอดเดือนมิ.ย.นั้นเพิ่มขึ้น 14.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยยอด จำหน่ายเดือนพ.ค.นั้นคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 12.6% ข้อมูลเหล่านี้มาจากบริษัท ChannelAdvisor ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยเหลือการจำหน่ายสินค้าออน์ไลน์ ซึ่งเชื่อว่านี่คือสัญญาณการฟื้นตัวของอีเบย์ในตลาดสหรัฐฯ

ไอบีเอ็มลิงโลด

ยักษ์สีฟ้าไอบีเอ็ม (IBM) รายงานผลประกอบการช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยรายได้เดือนเม.ย.-มิ.ย.ของไอบีเอ็มเพิ่มสูงขึ้น 12% เป็น 26.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.01 แสนล้านบาท

ไอบีเอ็มระบุว่ารายได้จากธุรกิจฮาร์ดแวร์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้น เติบโต 17% (เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า) เช่นเดียวกับธุรกิจซอฟต์แวร์ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 17% ที่น่าสนใจคือสินค้ากลุ่ม WebSphere เพื่อการทำงานร่วมกันระยะไกลระหว่างองค์กรนั้นทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 55% โดยไอบีเอ็มสามารถทำสัญญาให้บริการกับลูกค้ารายใหม่มูลค่ารวม 1.43 หมื่นล้านเหรียญตลอดไตรมาสที่ผ่านมา

ไอบีเอ็มยอมรับว่าตลาดองค์กรธุรกิจในสหรัฐฯนั้นทำรายได้ให้ไอบีเอ็ม เพิ่มขึ้นน้อยกว่าภูมิภาคอื่น โดยในสหรัฐฯนั้นทำเงินให้ไอบีเอ็มเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ตลาดเกิดใหม่เช่นเอเชียและละตินอเมริกานั้นมีอัตราเติบโตถึง 13% ทั้งหมดส่งให้ไอบีเอ็มมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นสัญญาณชี้ว่าองค์กรธุรกิจทั่วโลกยังคงใช้จ่ายด้านไอทีเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง

ไมโครซอฟท์กำไรยังโต

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศตัวเลขกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมามากกว่า 9% คาดว่าไมโครซอฟท์สามารถจำหน่ายลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์วินโดวส์เซเว่น (Windows 7) ได้เพิ่มขึ้นราว 50 ล้านไลเซนส์ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จไมโครซอฟท์สามารถจำหน่ายได้ 400 ล้านไลเซนส์นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนต.ค.ปี 2009

แม้ยอดจำหน่ายของไมโครซอฟท์ในไตรมาสนี้จะเติบโตไม่หวือหวา แต่ต้องยอมรับว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าคาดการณ์เนื่องจากทิศทางการเติบโตของ ตลาดคอมพิวเตอร์พีซีโลกนั้นชะลอตัว เพราะการถูกแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนชิงตลาดบางส่วนไป โดยบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ (Gartner) คาดว่าตลาดพีซีจะเติบโตเพียง 2.3% ในไตรมาส 2 ของปี 54 เท่านั้น น้อยกว่า 6.7% ซึ่งเคยทำได้ในปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาส 4 ของไมโครซอฟท์ ทำให้ไมโครซอฟท์สามารถประกาศว่าปี 2011 เป็นปีที่ดีที่สุดของไมโครซอฟท์ที่สามารถทำยอดขายทะลุ 7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐได้เป็นครั้งแรก คาดว่าไมโครซอฟท์จะสามารถทำกำไรต่อปี 2.2 หมื่นล้านเหรียญ หลังจากที่ปีก่อนหน้านี้ทำได้ 1.8 หมื่นล้านเหรียญ
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.